กษ.สั่งลุยแผนฟื้นฟู16จังหวัด หลังปาบึก ถล่ม
ที่มา : แนวหน้า
แฟ้มภาพ
กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งให้สำนักงานเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดหลังน้ำลดลงพื้นที่ ให้คำแนะนำ และสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือตาม หลักเกณฑ์ต่อไป
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พายุปาบึก พัดผ่านภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2562 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 6 ม.ค. 2562 สถานการณ์คลี่คลายลง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรม ส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งให้มีการเตรียมการและเตรียมความพร้อมรับมือพายุ และแผนการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยกำชับ เกษตรจังหวัด ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ และ 2 จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ให้ทุกหน่วยงานเฝ้าติดตามข่าวสาร ประเมินสถานการณ์ และรายงานตรงให้ทราบทันที
นายสำราญกล่าวอีกว่า ได้กำชับทุกหน่วยตามที่รมว.เกษตรฯสั่งการ ตั้งแต่ก่อนพายุปาบึกจะเข้า และทำแผนผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์เพื่อฟื้นฟูพืชผลทางการเกษตรหลังน้ำลด โดยให้ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการอารักขาพืช ทั้ง 9 ศูนย์ทั่วประเทศ ผลิตเชื้อไตรโคเดอร์มา เพื่อช่วยป้องกันโรคที่อาจจะเกิดหลังน้ำลดได้ โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้ผลิตเชื้อไตรโคเดอร์มา จำนวน 65,000 กก. เพื่อรองรับพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบทางการเกษตร กว่า 65,000 ไร่ และสั่งให้สำนักงานเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดหลังน้ำลดลงพื้นที่ ให้คำแนะนำ และสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือตาม หลักเกณฑ์ต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังพายุปาบึก ผ่านไป หลายพื้นที่ยังเกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลต่อยางพาราและปาล์ม รวมทั้งพืชผักอื่น โดยในพื้นที่หลังน้ำลดระยะแรกที่ดินยังเปียกอยู่ ห้ามคนและสัตว์เลี้ยง รวมถึงเครื่องจักรกลเข้าไปเหยียบย่ำในพื้นที่แปลงปลูก ส่วนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่ ควรหาทางระบายน้ำออกโดยเร็ว เมื่อพื้นที่เริ่มแห้งพอที่จะเข้าไปปรับสภาพดินเพื่อปลูกได้ ให้ไถพรวนและตากดินไว้ เพื่อให้ดินแห้งมากขึ้น และควรหาปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าคลุกเคล้ากับดิน เพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกพืช รวมทั้งการใช้เชื้อไตร โคเดอร์มาใส่ลงไปในดิน จะช่วยป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าได้