”กลูตาไธโอน”ขาวเสี่ยงอันตราย

ที่มา : www.siamrath.co.th

แฟ้มภาพ

สธ.ชี้กลูตาไธโอนอันตราย ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ทั้งเสี่ยงตาบอด

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดก.สาธารณสุขและโฆษกก.สาธารณสุขกล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนแสวงหาวิธีที่จะทำให้ผิวขาว รวมทั้งหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างโดยไม่ได้ศึกษาหรือตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ว่ามีผู้กินหรือฉีดสารเร่งผิวขาว เช่น กลูตาไธโอน เกิดช็อกจนต้องส่งโรงพยาบาล บางรายเสียชีวิต บางรายกินต่อเนื่องนานๆ มีผลข้างเคียงจนตัวซีด ตาเหลือง ท้องเสีย เอนไซค์ในตับสูง เป็นต้น

สำหรับกลูตาไธโอนทางการแพทย์ใช้รักษาโรคต่างๆ ได้แก่ พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น โดยผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนจะมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องจากกลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส และทำให้เม็ดสีผิวหนังเปลี่ยนจากสีน้ำตาลดำเป็นสีชมพูขาว จึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งใช้ในทางที่ผิด ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่น่าเชื่อถือยืนยันหรือรับรองประสิทธิภาพและประโยชน์กลูตาไธโอนทำให้ผิวขาวได้ผลหรือไม่ ระยะยาวจะมีผลเสียอย่างไร

ทั้งนี้การฉีดเข้าเส้นเลือดปริมาณมากอาจทำให้ช็อค ความดันต่ำ หายใจลำบาก เสียชีวิตได้ง่าย หรือใช้ในปริมาณมากติดต่อกันนานจะมีผลต่อการมองเห็นในระยะต่อมา ส่วนกลูต้าไธโอนแบบเม็ดหรือผง ไม่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น เนื่องจากเมื่อรับประทานเข้าไปจะสลายตัวทันทีเมื่อถูกกรดในกระเพาะอาหาร ร่างกายจึงไม่ได้ดูดซึม

ที่สำคัญสารกลูตาไธโอนยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยาในไทย การลักลอบจำหน่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอให้คนไทยรู้เท่าทันโฆษณาอวดอ้างที่เกินจริง ซึ่งคนไทยที่มีสีผิวขาวเหลืองหรือผิวเข้ม จะช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และเหมาะกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทยที่มีแดดจัดตลอดปี