กลุ่มยางพาราท่ามะนาวก้าวหน้า
ที่มา : วิถีชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานราก : ส่งเสริมอาชีพ โดย เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่ โครงการประชารัฐ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ยางพาราเดินทางเข้าสู่พื้นที่ตำบลนาอ้อ บริเวณบ้านท่ามะนาว หมู่ที่ 9 เมื่อราวปี 2553 ผ่านโครงการอีสานเขียวของรัฐบาลที่เข้ามาสนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งมาปลูกยางพารา
สภาพพื้นที่บ้านท่ามะนาวนั้น เป็นที่ราบเชิงเขา ภูมิประเทศอำนวยต่อพืชเศรษฐกิจชนิดนี้ โดย สมรส พันธ์เงิน ประธานกลุ่มยางพาราท่ามะนาวก้าวหน้า เกษตรกรผู้เริ่มปลูกยางพารานับตั้งแต่โครงการอีสานเขียวเข้ามาย้อนความให้ฟังว่า แรกเริ่มไม่มีคนอยากปลูกเท่าไรนัก
“อาศัยว่าเรามีเนื้อที่ค่อนข้างมาก เกษตรกรราว 50 กว่าคนจึงยอมแบ่งพื้นที่ทำกินส่วนหนึ่งมาลงต้นยางพารา ที่สำคัญโครงการอีสานเขียวล่อใจเราด้วยการสนับสนุนพันธุ์ยาง รวมถึงปุ๋ย เหมือนเราเริ่มต้นใหม่ ยังไม่รู้ว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร เพราะต้องรอเวลาอย่างน้อย 5 ปีกว่าจะกรีดได้ แต่ของเกษตรกรบ้านท่ามะนาวเราทิ้งช่วงถึง 8 ปี จากเกษตรกร 50 กว่าราย เหลือเพียง 32 ราย ที่หายไปส่วนหนึ่งเพราะไฟไหม้กับปล่อยปละละเลยไม่ดูแล” สมรสกล่าว
เมื่อมีดแรกลงกรีดบนต้นยาง กลุ่มของสมรสก็ยังไม่มั่นใจกับพืชชนิดนี้ โดยในปีแรกนั้นสมรสและเพื่อนได้รับความช่วยเหลือจากเกษตรอำเภอให้ไปอบรมการทำยางแผ่นเป็นเวลา 9 วันที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และเริ่มต้นกลับมาแปรรูปน้ำยางที่ตัวเองกรีดได้
“ตอนนั้นเราขายในรูปแบบยางแผ่นเท่านั้น แต่ปีแรกที่เราขาย ราคาไม่ดี รัฐบาลเป็นผู้แทรกแซงรับซื้อขึ้นไป แต่ก็แค่ปีเดียวหลังจากนั้นราคายางก็ขึ้น สามารถปล่อยไปตามกลไกตลาดได้” สมรสกล่าว
จากจุดเริ่มต้นจนเวลาล่วงผ่านเกือบยี่สิบปี ทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ส่งเสริมระบบกลุ่มมาโดยตลอด ซึ่งในตอนเริ่มต้นมีการลงหุ้น 100 บาทต่อคน เพื่อเป็นทุนแต่กลับไม่ค่อยเข้มแข็ง กระทั่งในปี 2553 ที่แกนนำตัดสินใจโละกลุ่มเดิมทิ้ง คืนหุ้นในสมาชิกทุกคนแล้วเริ่มต้นกันใหม่
“เราเริ่มตั้งคณะกรรมการใหม่ 13 คน ระดมหุ้นคนละ 500 บาทเท่ากันทุกคน คิดราคาหุ้นละ 10 บาท โดยเงินตรงนี้นำมาจัดสรรให้สมาชิกได้กู้ยืมไปทำทุนในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี โดยเปิดกู้ทุกเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งนี้ เราได้กันเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้ให้สมาชิกกู้ฉุกเฉิน ถ้ารายใดมีความจำเป็นก็แจ้งกรรมการ จะมีการประชุมพิจารณาให้” สมรสกล่าวเพิ่มเติม