กรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามกีฬา

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ข่าวสด

จ.จันทบุรี เตรียมความพร้อม การจัดการแข่งขัน กรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 ประจำปี 2560

พงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ วิวัฒน์ วิกรานตโนรส ประธานสหพันธ์กรีฑาสูงอายุแห่งเอเชียและนายกสมาคมกีฬากรีฑาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย, พ.จ.อ.ณัฐนันท์ เรืองไพศาล รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และ ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติเพชร นายกสมาคมกีฬาจังหวัดจันทบุรี ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 จันทบุรี ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมณีจันทร์ จ.จันทบุรี

โดยการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จะจัดการแข่งขันขึ้นระหว่าง 3-5 มี.ค. 2560 ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย และ สมาชิกสหพันธ์กรีฑาสูงอายุแห่งเอเชีย ร่วมกับ จ.จันทบุรี ภายใต้การสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) การกีฬาแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดจันทบุรี ร่วมกันจัดการแข่งขัน ภายใต้สโลแกนงาน "กิจกรรมกีฬามวลชน เพื่อคนทุกวัย" ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

สำหรับกิจกรรมนี้ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑาสูงอายุแห่งเอเชียและสหพันธ์กรีฑาสูงอายุโลก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันที่มีผลงานตามที่สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยกำหนด จะได้รับพิจารณาให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าร่วมแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่เมืองรูเกา ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 21-30 ก.ย. 2560 พร้อมกันนี้ยังมีรางวัลพิเศษ "แชมป์ ออฟ แชมป์" ในประเภทวิ่ง 100 ม. โดยการคัดนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลาดีที่สุด 8 อันดับแรก มาแข่งขันกันอีกครั้ง เพื่อหาผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดทั้งหมด 6 รางวัล

ทั้งนี้ในการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 222 มีรายการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 34 รายการ แบ่งเป็นประเภทชาย 18 รายการ และประเภทหญิง 16 รายการ จำแนกตามอายุกีฬาตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป แบ่งกลุ่มช่วงอายุทุก 5 ปี จนถึงอายุ 100 ปีขึ้นไป รวม 12 กลุ่ม รวมทั้งสิ้น 1,628 คน แบ่งเป็นนักกีฬาไทย 1,489 คน และนักกีฬาต่างชาติ 139 คน อาทิ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, สิงคโปร์, ฮ่องกง เป็นต้น โดยปีนี้มีนักกีฬาชายอายุมากที่สุด อายุ 101 ปี 1 คน คือ ฮวด ฟองมณี จากชมรมกรีฑาผู้สูงอายุสงขลาที่ลงรายการวิ่ง 100 ม., ทุ่มน้ำหนัก, ขว้างจักร และพุ่งแหลน และนักกีฬาหญิง 1 คน คือ ถิ้น กิติระ อายุ 97 ปี จากชมรมกรีฑาสูงอายุสงขลา วิ่ง 100 ม., วิ่ง 200 ม., วิ่ง 400 ม. และวิ่ง 800 ม.