กระทบไหล่…นักสืบรุ่นจิ๋วไขปริศนา

          MK Sunday Together รวมพลเด็กน้อยทั่วกรุง จัดงานในคอนเซปต์ "แปลงกายเป็นยอดนักสืบตาสับปะรด" ที่ สสส.


/data/content/24952/cms/e_efghijmuvw12.jpg


          ชวนชื่น!! พร้อม!! เสียงของน้องๆหนูๆ สมาชิกตัวน้อยใน โครงการ "ชวนชื่น"และ "สิรีนเฮ้าส์" จากบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมพลน้องๆ ในแต่ละโครงการ ทั่วกรุง กว่า 50 ชีวิต พกพาความพร้อม และความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าเพื่อเข้าร่วมในโครงการ MK Sunday Together ครั้งที่ 15  จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ "แปลงกายเป็นยอดนักสืบตาสับปะรด" ร่วมประสานเสียงแสดงความพร้อม ดังก้องบริเวณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


          จากสภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่ประกอบไปด้วยคนหลากหลายประเภทปรากฏภัยสังคมนานารูปแบบที่เกิดขึ้นแทบไม่เว้นวัน และเป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลายครั้ง ภัยเหล่านี้เกิดกับ "เด็ก" ที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการสังเกตย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิต เพื่อป้องกันตนเองจากภัยอันตรายในสังคม ในวันนี้คุณหนูๆได้แปลงกายเป็นนักสืบตัวจิ๋ว/data/content/24952/cms/e_gmnrwxy34679.jpgเรียนรู้การสังเกตสถานการณ์รอบตัวแบบครบวงจร พร้อมร่วมไขเคล็ดลับจากผู้รู้ตัวจริงอย่าง "ตำรวจ" ตั้งแต่ภาคทฤษฎีจนถึงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นหลักการสังเกตวิเคราะห์ใบหน้า รูปร่าง รวมถึงการป้องกันตัวจากเหล่ามิจฉาชีพ ต่อด้วยการแบ่งกลุ่มสังเกตหน้าตาผู้ร้าย เพื่อนำมาสเกตช์ภาพวาดเสมือนจริงและชี้ตัวผู้ร้ายปิดท้ายด้วยกิจกรรมวอล์กแรลลี่ ตามล่าหาสิ่งผิดปกติรอบตัวอาคาร ซึ่งบรรดานักสืบตัวจิ๋วต่างได้รับสาระ มิตรภาพและร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน


          สองพี่น้องนักสืบตัวจิ๋ว "โฟกัส"-ด.ช.รัชพล ฤดีรัชต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ"เก็ต"-ด.ช.ภัทรพล ฤดีรัชต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี จูงมือกันมาบอกเล่าความประทับใจ จากการเรียนรู้เคล็ดลับ การสังเกตรูปพรรณสัณฐานคนร้าย จากพี่ตำรวจใจดี เพื่อที่จะแปลงกายเป็นยอดนักสืบตาสับปะรดเล่าให้ฟังว่า ผมอยากเป็นนักสืบเก่งๆแบบ "โคนัน" จะได้ช่วยตำรวจจับผู้ร้ายและช่วยเหลือผู้อื่นด้วย แต่การเป็นนักสืบต้องสังเกตมากๆ และต้องจำให้แม่นยำด้วยเพราะจะต้องไปบอกตำรวจให้ตามจับผู้ร้าย และต้องเริ่มสังเกตตั้งแต่ใบหน้า ตา จมูก หู ปาก สังเกตรูปร่าง อ้วนผอม สูง เตี้ย สีผิว ขาว ดำ ทรงผมแบบไหน เป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือเป็นกะเทยสวมเสื้อผ้าแบบไหน ต้องสังเกตทุกอย่างไม่ง่ายเลยแต่ก็สนุกดีครับ ได้ทดลองสังเกตเพื่อนๆ บางคน ทำให้ผมรู้ว่าเพื่อนๆ แต่ละคนมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน บางคนตาชั้นเดียว ตาสองชั้น หูเล็ก หูกาง หน้ากลม หน้าเหลี่ยม หน้ารูปไข่ สังเกตไปเรื่อยๆ ก็สนุกและเพลินดี


          อีกสองหนุ่ม "ออกัส"-ด.ช.ฐปนกร จิตต์วิบูลย์โสภณชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ "ยูนิกซ์"-ด.ช.พาทิศ จิตต์วิบูลย์โสภณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน บอกว่า หลังจากเรียนรู้จากพี่ตำรวจในช่วงเช้า/data/content/24952/cms/e_bmnqrsuvy138.jpg ช่วงบ่ายพวกเราได้ทดลองเป็นนักสืบตามจับผู้ร้าย ซึ่งจะต้องช่วยกันทั้งกลุ่ม โดยจดจำรายละเอียดจากที่พี่ตำรวจได้สอนมาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะมาถ่ายทอดให้พี่นักสเกตช์ภาพได้วาดภาพผู้ร้ายให้เหมือนจริงที่สุดครับ ซึ่งในแต่ละกลุ่มมีสมาชิกหลายคน พวกเราจึงต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม แบ่งงานกันชัดเจน และใช้หลักการจำที่พี่ตำรวจบอกคือการไม่พยายามจำทุกอย่าง แต่ให้เลือกจำบางอย่างที่โดดเด่นเป็นจุดสังเกตหลัก เพื่อความแม่นยำครับ แล้วรีบวิ่งมาสื่อสารกับพี่ที่สเกตช์ภาพให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุดด้วย เพราะพวกเรา มีเวลาไม่มากผมว่านอกจากการสังเกตกับการจดจำแล้ว การสื่อสารกับความสามัคคีก็สำคัญ


          จากเสียงสะท้อนของเด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม "แปลงกายเป็นยอดนักสืบตาสับปะรด" ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่หาไม่ได้จากห้องเรียนแล้ว ยังถือเป็นการเพิ่มวัคซีนต้านทานให้น้องๆ ได้เตรียมความพร้อมรับมือ รู้จักระวังภัย และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ในการดำรงชีวิตให้เท่าทันสัง คมปัจจุบันได้อย่างดีทีเดียว


          "เพื่อป้องกันตนเองจากภัยอันตรายในสังคมในวันนี้คุณหนูๆ ได้แปลงกายเป็นนักสืบตัวจิ๋วเรียนรู้การสังเกตสถานการณ์รอบตัวแบบครบวงจร"


 


 


          ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ