‘กระดูกเสื่อม’ โรคที่เกิดได้กับทุกวัย
หลายคนคิดว่า โรคกระดูกเสื่อมมักจะเกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่จากกรณีข่าวล่าสุดที่มีศิลปินหนุ่ม ป่วยด้วย “โรคกระดูกเสื่อม” ก็อาจทำให้หลายคนเข้าใจได้แล้วว่า…โรคนี้สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศและทุกวัย ไม่เว้นแม้วัยรุ่นหนุ่มสาว
โรคกระดูกเสื่อมเกิดจากอะไร?
นพ.ประสงค์ โอนพรัตน์พิบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อธิบายว่า โรคกระดูกเสื่อมเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ กลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ส่วนใหญ่จะพบบ่อยคือ โรคกระดูกเสื่อมที่ข้อนิ้ว และข้อปลายนิ้ว เมื่ออายุมากขึ้นจะเป็นโรคกระดูกข้อเข่าเสื่อม กระดูกจะมีลักษณะเป็นปม ซึ่งพบมากในผู้หญิงเอเชีย ส่วนผู้หญิงฝั่งยุโรปจะป่วยเป็นโรคกระดูกข้อสะโพกเสื่อม
ส่วนสาเหตุที่สองเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการบาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุ อย่างเช่น โรคกระดูกข้อสันหลังเสื่อม การก้มเงยมาก ยกหรือถือของหนักต่อเนื่องและเป็นระยะเวลานาน
นพ.ประสงค์ อธิบายต่อว่า กลุ่มช่วงวัยที่เกิดโรคนี้ไม่สามารถกำหนดได้ เพราะบางครั้งหากเกิดอุบัติเหตุ หรือป่วยด้วยโรคเลือดอย่าง ฮีโมฟีเลีย หรือมีเลือดออกในข้อเข่า หากมีอาการหนักขึ้นก็ทำให้กระดูกข้อเข่าเสื่อมได้ ส่วนคนไข้ที่มีรูปร่างกระดูกผิดปกติที่ทำให้ ขาโก่งแต่กำเนิด หรือผู้ป่วยกลุ่มเนื้องอกของเยื่อหุ้มข้อ ผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อวัณโรคในข้อกระดูกสะโพก หรือข้อเข่า ก็จะทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้เร็วแม้อายุเพียง10 ปี
“สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม ส่วนใหญ่จะพบในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในผู้หญิงมากกว่า เพราะผู้หญิงมีกระดูกที่สามารถผิดรูปได้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากขาดฮอร์โมนอีสโทรเจน เมื่อถึงวัยหมดประจำเดือนก็จะทำให้แคลเซียมละลายออกไปจากกระดูก และถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้กระดูกบางลง ก่อให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้ง่าย และเมื่ออายุมากขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ข้อเข่าก็จะโก่ง ส่งผลให้ข้อกระดูกสันหลังค่อมลง” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญฯ อธิบายเพิ่มเติม
หนุ่มสาวออฟฟิศควรระวัง!
สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกเสื่อมจากอาการบาดเจ็บ ได้เช่นกัน ซึ่งโรคที่พบได้บ่อยอย่างเช่น กระดูกก้านคอเสื่อม มักพบในอาชีพที่ต้องก้มหน้านานๆ อย่าง ทันตแพทย์จะมีโอกาสเป็นมากกว่าปกติ ส่วนพนักงานออฟฟิศจะเกิดโรคจากการนั่งผิดท่าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน หรือการปรับเก้าอี้สูงหรือต่ำไม่ตรงกับระดับหน้าจอ ทำให้ต้องก้มหรือแหงนคอตลอดเวลา ก็จะทำให้กระดูกก้านคอเสื่อม หรือกระดูกสันหลังเสื่อมได้
ส่วนสัญญาณบอกเหตุคือ มีอาการเจ็บปวดตามแนวกระดูกหรือคอเมื่อขยับร่างกาย และขยับได้น้อยลง มีเสียงดังตามข้อต่างๆ เพื่อพลิกหรือขยับตัว
เปลี่ยนพฤติกรรมช่วยป้องกันโรคกระดูกเสื่อม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญฯ แนะนำว่า หากพบว่าตนเองเป็นโรคกระดูกเสื่อม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เริ่มจากการเดิน นั่งที่ถูกต้อง คือนั่งตัวตรงและนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง ไม่ยกของหนักมากเกินไป ไม่ก้มเงยบ่อย และควรยืดเส้นยืดสายเพื่อบริหารกล้ามเนื้อบ้าง
สำหรับสาวๆ ที่สะพายกระเป๋าหนัก หรือหิ้วของหนักข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท บริเวณสะบัก ทำให้กล้ามเนื้อมีอาการอักเสบ หรืออาจมีการชาของเส้นประสาท บริเวณแผ่นหลังได้ จึงไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน หากมีอาการปวดต้นคอ หรือชาปลายนิ้วมือ ควรพบแพทย์
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคคือ อาหารที่มีแคลอรีสูง นพ.ประสงค์แนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ กระดูกสันหลังก็รับน้ำหนักเยอะตามไปด้วย ส่วนการดื่มนมก็เป็นเรื่องดี เพราะสามารถเพิ่มแคลเซียมให้กับกระดูกได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องคอเลสเตอรอลสูง โดยเฉพาะผู้ที่ประวัติครอบครัวมีไขมันในเลือดสูง สำหรับผู้สูงอายุควรตรวจระดับไขมันในเลือดก่อนดื่มนมด้วย
การออกกำลังกายก็เป็นแนวทางป้องกันให้เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกคด หรือผิดรูปได้น้อยลง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกเสื่อมสามารถออกกำลังกายได้ แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินไป อาจวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ 4-5 วันต่อสัปดาห์
‘โรคกระดูกเสื่อม’ เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพของตนเองกันด้วยนะคะ
เรื่องโดย พิมพ์ชนก ศรเพชร Team Content www.thaihealth.or.th