กระซิบบอกเคล็ดลับในแบบฉบับ “จ๊ะจ๋า”
เรื่องโดย : พัชรี บอนคำ team content www.thaihealth.or.th
แฟ้มภาพ
พริมรตา เดชอุดม หรือ จ๊ะจ๋า นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถอีกหนึ่งคนของวงการบันเทิงไทย แม้ว่างานด้านแสดงละคร พิธีกร ฯลฯ จะมากมายขนาดไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่จ๊ะจ๋าให้ความสนใจอย่างมากคือ การออกกำลังกาย กินอาหาร และการดูแลสุขภาพจิตใจ
จากที่เธอเป็นไม่ชอบการออกกำลังกาย แล้วอะไรถึงทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้นั้น “จ๊ะจ๋า” เล่าให้ฟังว่า จากที่ตนเองได้ทำรายการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกกำลังกาย กินอาหาร รวมไปถึงการนอนหลับ และการขับถ่าย เพราะคนสมัยนี้ทำงานหนักขึ้น ทำกิจกรรมมากขึ้น จนลืมไปว่าร่างกายต้องการพักผ่อน ซึ่งแต่ก่อนตนเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น เพราะการเป็นนักแสดง เวลาที่จะตื่น กิน นอน เป็นเวลานั้นนับว่าเป็นเรื่องยาก ทำให้นาฬิการ่างกายของเรามันรวนเร
“เดิมทีจ๊ะจ๋าเป็นคนไม่ค่อยถูกกับการออกกำลังกาย ยอมเดินช๊อปปิ้งบนรองเท้าส้นสูงดีกว่าใส่ผ้าใบออกกำลังกาย แต่พออายุขึ้นเลข 3 ร่างกายเราไม่ได้เหมือนวัยรุ่นอีกต่อไป ไปทำกิจกรรมอะไรก็เหนื่อยง่าย จ๊ะจ๋าจึงเริ่มมองหากิจกรรมออกกำลังกายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง ที่ต้องมีความสนุกสนาน และได้แต่งตัวสวยๆ จึงค้นพบว่า “การเต้น” เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเต้นได้ประมาณ 2 เดือน สิ่งที่เริ่มเห็น คือ ร่างกายสดชื่นขึ้น ไม่เหนื่อยง่ายเหมือนแต่ก่อน” จ๊ะจ๋า เล่าให้ฟัง
ในส่วนของการเลือกกินอาหาร จ๊ะจ๋ามองว่าเป็นสิ่งสำคัญเท่าๆ กับการออกกำลังกาย “You are what you eat” แปลว่า กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น หรืออีกความหมายหนึ่งคือ "คุณจะเป็นอะไรตามสิ่งที่คุณกินเข้าไป" เมื่อเวลาอยู่ในกองถ่าย อาหารที่เรากินส่วนใหญ่จะมีแต่คาร์โบไฮเดรต จ๊ะจ๋าเลยต้องเน้นกินผัก เพื่อให้ร่างกายไม่หนักเกินไป สำหรับเคล็ดลับการกินอาหารของตนเอง คือ การกินตามช่วงเวลา คือ 1.ช่วงเช้า กินทุกอย่างที่มี สะสมพลังงานให้เราอยู่ได้ตลอดทั้งวัน 2.ช่วงกลางวัน ลดปริมาณอาหารลงครึ่งหนึ่ง และ 3.ช่วงเย็น เน้นกินผัก หรือ เนื้อปลา และไม่เน้นกินคาร์โบไฮเดรต
นอกจากสุขภาพกายแล้ว จ๊ะจ๋ายังกระซิบบอกเคล็ดลับการดูแลสุขภาพใจของตนเองเพิ่มว่า ตนเองอยู่ในวงการบันเทิง เจอกระแสข่าวมากมาย บางครั้งทำให้หงุดหงิด ไม่สบายใจ แต่ตนเองมีอยู่คำหนึ่งที่พยายามทำมาตลอด คือ การปล่อยวาง ดูเหมือนง่ายแต่ทำยากมาก แต่ก็ต้องทำให้ได้ ส่วนวิธีการปล่อยวางนั้น ตนมองว่าเมื่อใดที่เราทุกข์ เราต้องรู้จักปล่อยวาง อย่าไปคิดถึงมัน อย่างไปยึดติดกับมัน และในทางตรงกันข้ามเมื่อใดที่เรามีความสุข ก็อย่าไปหลงระเริงอยู่กับปัจจุบัน คิดแต่สิ่งที่ดี มองโลกในแง่บวก และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
“เมื่อมีเวลาว่าง จ๊ะจ๋าจะทำกิจกรรมจิตอาสา เพราะทุกครั้งที่เราทำจิตอาสาให้กับคนอื่นๆ เวลาเรามองตาเขาเราสัมผัสและรับรู้ได้ เราเห็นเขามีความสุข ซึ่งตรงนี้มันทำให้เราอิ่มใจ และได้มีความสุขตอบแทนกลับคืนมา การทำจิตอาสาทำได้ไม่ยาก แค่เริ่มจากสิ่งที่เราชอบ ซึ่งจ๊ะจ๋าเองเป็นนักแสดง เป็นพิธีกร ก็เริ่มทำทำจิตอาสาจากงานที่ทำ เช่น การช่วยเหลือน้องๆ รุ่นใหม่ ให้คำแนะนำการแสดง การวางตัว แค่นี้ก็ถือว่าเป็นจิตอาสาแล้ว และก็ดีใจที่ สสส. ได้สนับสนุนงานด้านจิตอาสาและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ค่ะ” จ๊ะจ๋า บอกเล่าเคล็ดลับทิ้งท้าย