กรมอนามัยเตือน อาการกล่องวันเด็ก เสี่ยงบูดง่าย
ที่มา : ศูนย์สื่อสารสาธารณะ กรมอนามัย
แฟ้มภาพ
กรมอนามัย แนะนำอาหารกล่องที่จัดเลี้ยงในวันเด็ก ต้องสะอาด ปลอดภัย เลี่ยงการปรุง ประกอบเก็บ ไว้นาน เพราะอาจทำให้บูดได้ พร้อมแนะเพิ่มผลไม้เป็นอาหารว่าง เช่น ส้ม กล้วย หรือชมพู่
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในวันเด็กจะมีการจัดเลี้ยงอาหารสำหรับเด็กที่มาร่วมงานหรือร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นการเลี้ยงในมื้อกลางวันและต้องจัดเตรียมเป็นจำนวนมากจึงต้องใช้เวลาในการเตรียมอาหารดังกล่าวตั้งแต่เช้าและจัดทำเป็นอาหารกล่องเพื่อความสะดวกในการแจกเด็กๆ ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดของอาหารเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโรคจากอาหารเป็นพิษหรือท้องเสียได้ โดยการปรุงประกอบต้องเลือกวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย ล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง ผู้ประกอบอาหารต้องมีสุขลักษณะในการปรุงประกอบอาหารที่ถูกต้อง เช่น สวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม ตัดเล็บสั้น ไม่ใช้มือหยิบจับอาหาร เป็นต้น ภาชนะบรรจุอาหารต้องสะอาด ปลอดภัย และงดใช้โฟมบรรจุอาหาร ควรแยกกับข้าวใส่ถุงพลาสติกต่างหากและ ไม่วางข้าวกล่องที่บรรจุเสร็จแล้ว ตากแดดหรือวางบนพื้น ควรเขียนวันเวลาที่ผลิตไว้เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค และสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ การทำอาหารไว้ล่วงหน้าไม่ควรนานเกิน 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้อาหารบูดเสียได้
"ทั้งนี้ อาหารกล่องเพื่อแจกเด็ก ๆ ควรเป็นอาหารที่ไม่บูดเสียง่าย กินได้ง่าย เช่น ข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวเหนียวไก่ทอด ควรเพิ่มผลไม้เป็นอาหารว่าง เช่น ส้ม กล้วย หรือชมพู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงก่อให้เกิดโรค อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ ได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู อาหารประเภทยำหรืออาหารที่ปรุง โดยไม่ผ่านความร้อนหรือปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ หรือขนมแอแคร์ เป็นต้น ส่วนน้ำแข็งที่นำมาใส่น้ำดื่มหรือน้ำหวานนั้น ควรเป็นน้ำแข็งที่ได้มาตรฐานสำหรับการบริโภคเท่านั้น หากไม่แน่ใจว่าน้ำแข็งนั้นจะสะอาดหรือเปล่าควรหลีกเลี่ยง และให้บริการน้ำดื่มบรรจุขวดแช่เย็นจะดีกว่า เพราะนอกจากจะสะอาดปลอดภัยแล้วยังช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่เด็กจะได้รับในแต่ละวันลงด้วยเพื่อสร้างสุขนิสัยที่ดีในการบริโภคอาหารของเด็กให้ถูกหลักโภชนาการ สำหรับคุณครู หรือผู้ปกครอง ที่นำเด็กไปเที่ยวงานวันเด็ก เมื่อได้รับแจกข้าวกล่องมา ก่อนที่จะให้เด็กๆ กิน ต้องให้เด็กล้างมือให้สะอาดก่อนกิน พร้อมทั้งสังเกตหรือสอนให้เด็กรู้จักสังเกตว่าอาหารนั้นมีกลิ่นผิดปกติหรือบูดเสียหรือไม่ หากพบว่าอาหารบูดเสียไม่ควรกินและแจ้งให้แก่ผู้จัดงานทราบเพื่อที่จะสามารถเตือนผู้อื่นให้ระมัดระวังอาหารดังกล่าว” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว