กรมอนามัยห่วงสุขภาพแม่มือใหม่แนะกินผักผลไม้สร้างภูมิป้องกันโรคภัยหน้าหนาว

การดูแลสุขภาพแม่หลังคลอดควรกินอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยรับประทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ กินผักให้มากที่สุดในแต่ละมื้อ เพราะการกินผักช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทวิตามิน

นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการดูแลสุขภาพแม่หลังคลอดและลูกช่วงหน้าหนาว ว่า ขณะนี้หลายจังหวัดของประเทศกำลังประสบภัยหนาว ซึ่งหากไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดีจะทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดหรือระบบทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะแม่หลังคลอดและทารกที่ยังต้องดื่มนมแม่เพราะยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ ซึ่งผู้เป็นแม่ควรกินอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยรับประทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ กินผักให้มากที่สุดในแต่ละมื้อ เพราะการกินผักช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทวิตามินและ

แร่ธาตุที่มีส่วนสำคัญในการสร้างน้ำนม ซึ่งจะช่วยให้ลูกได้รับคุณค่าของสารอาหาร อีกทั้งวิตามินซีจากผักยังช่วยป้องกันไข้หวัดในช่วงหน้าหนาวด้วย สำหรับลูก นมแม่ยังคงเป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เหมาะสมสำหรับทารก แรกเกิด-6 เดือน หลังจากนั้นยังคงให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี

ด้าน นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นลูกอาจปากแห้งแตกจึงควรให้ลูกดูดนมแม่

จากเต้าบ่อยๆ จะช่วยลดอาการปากแห้งแตกได้ เพราะนมแม่มีน้ำเพียงพออยู่แล้ว การให้น้ำด้วยขวดนมในทารกต่ำกว่า 6 เดือนน้ำจะไปชะล้างคราบนมแม่ในปากของลูกซึ่งมีสารปกป้องเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูก อาจทำให้ลูกอุจจาระร่วงได้ และยังทำให้ลูกติดจุกนมยาง ไม่ยอมดูดนมแม่จากเต้า ซึ่งจะทำให้นมแม่แห้งเร็วกว่ากำหนด

“หนาวนี้อ้อมกอดของแม่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแม่มือใหม่ถ้าได้กอดลูกให้นมลูกวันละ 6-8 ครั้ง ช่วงให้นมลูกอ้อมกอดแม่ยังจะช่วยถ่ายทอดความรักความอบอุ่นไปถึงลูก ช่วยให้ลูกปลอดภัยจากภัยหนาว และถึงแม้ว่าลูกไม่ได้กินนมแม่ แต่แม่โอบกอดลูกบ่อยๆ และให้ลูกได้ดูดนมจากเต้าบ่อยๆ นอกจากจะทำให้ลูกมีความสุขแล้วยังเป็นโอกาสให้ลูกได้กลับมากินนมแม่ได้อีกครั้ง” นพ.สมยศ กล่าว

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า นมแม่เป็นสารอาหารที่สำคัญและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดให้กับทารก แม่ทุกคนจึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองให้นานที่สุด เพราะน้ำนมแม่ไม่เพียงแต่ปกป้องสุขภาพทารกเท่านั้นแต่ยังเป็นการให้ภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่ลูก นมแม่ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารก มีภูมิต้านทานโรคช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ช่วยกำจัดเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัส ที่ติดอยู่บนเยื่อบุทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกได้ยากขึ้น ส่งผลให้ลูกปลอดภัยจากไข้หวัด ปอดอักเสบหรือท้องร่วง และมีโอกาสป่วยน้อยกว่าทารกที่กินนมผสมประมาณ 2-7 เท่า ซึ่งการเจ็บป่วยในแต่ละครั้งจะทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของลูกหยุดชะงัก ซึ่งนมแม่จะช่วยให้ทารกสามารถเติบโตและมีพัฒนาการที่ดี

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า