กรมสุขภาพจิต เผยโจ๋ชายสับสนทางเพศหันซื้อฮอร์โมนชายกิน
เชื่อกินแล้วมั่นใจ เพิ่มความเป็นชาย
นพ.
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เลือกและตั้งใจว่าจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองมากเท่าที่ควร ก็เลยต้องการทำให้ความเป็นชายของตัวเองมีเพิ่มมากขึ้นไปอีก เลยหายาฮอร์โมนมากิน ถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวพอสมควร เราไม่ได้แนะนำให้เด็กใช้ แต่เด็กใช้เพื่อต้องการให้ความเป็นชายเพิ่มขึ้น เพราะกลัวจะกลับไปเป็นหญิงอีก อย่างเช่นให้มีขนดก มีกล้ามเนื้อ มีเสียงห้าวขึ้น เด็กวัยรุ่นอายุ 17 – 18 ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังต่อสู้กับสภาวะจิตใจของตนเองซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง จำเป็นต้องมีบริการให้คำปรึกษาที่ถูกต้องเพราะเขาเองก็ยังลำบากใจอยู่ เขาแน่ใจว่าต้องการเป็นผู้ชาย แต่ต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้น เรื่องเพศบางคนก็เป็นโดยธรรมชาติ บางคนมีอาการเจ็บป่วยร่วมด้วย อย่างเช่น พิษสุรา ซึ่งเมื่อมีอาการเจ็บป่วยก็จะเกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ แต่พอให้ยาและหายป่วยเมื่อไร่ก็จะกลับมาเป็นผู้ชายตามปกติ
“คนไข้ของผมหลายคนเวลาป่วยมาก ๆ จะเบี่ยงเบนไปทางหนึ่งบางรายแต่เมื่อหายดีก็กลับมาอยู่ตรงกลาง ๆ คิดว่าไม่ถูกนะ แต่ป่วยเมื่อไหร่ก็มีอาการเบี่ยงเบน บางรายมาครั้งแรกก็บอกว่าตนเองเป็นเกย์ควีน เมื่อรักษาอาการป่วยให้หายแล้วก็กลับมาเป็นปกติ คนไข้ก็บอกว่าอยากจะเป็นผู้ชายแล้ว แต่ยังมีอาการตุ้งติ้งอยู่นิดหน่อย ซึ่งคนไข้ต้องการความช่วยเหลือทางจิตใจเพื่อให้มีความมั่นใจในความเป็นชายมากขึ้น เพื่อนก็เลยแนะนำให้ไปจีบหญิง เขาก็เลยไปจีบหญิงไปมีแฟน คนบางคนก็ไปแต่งงานเพื่อไปพิสูจน์ว่าตนเองเป็นชายก็เลยไปแต่งงานสุดท้ายภรรยาก็โชคร้ายไป”นพ.อภิชัย กล่าว
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วยว่า เด็กที่ป่วยบางคน จะหันไปดื่มเหล้า พอเมาก็จะมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมด้วย อาการขึ้น ๆ ลง ๆจริงแล้วคนเหล่านี้ต้องการคำปรึกษา จึงขอเรียนว่า ถ้ามีใจอยากเป็นชายเกินร้อย ไม่ต้องไปกังวลเรื่องฮอร์โมนเพราะมีผลข้างเคียงหลายอย่าง ที่สำคัญคืออย่าไปดื่มเหล้าอีก เพราะจะบังคับตนเองไม่ได้ แต่ควรออกกำลังกายเป็นประจำเพราะลดความเครียดและลดอารมณ์ซึมเศร้า และควรจะหาที่ปรึกษาไปพบจิตแพทย์
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
update 20-05-51
