ที่มา :  เว็บไซต์สยามกีฬารายวัน

แฟ้มภาพ

"กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ" วลีนี้แสดงให้เห็นว่ากีฬานั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสังคม ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการกีฬา จึงได้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560-2564) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชน และองค์กรปกครองท้องถิ่น นำไปใช้เป็น กรอบทิศทางการดำเนินการและเป็นกลไกหลักในการพัฒนาการกีฬาของประเทศให้ก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีความ "มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"

กรมพลศึกษากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้จัดประชุมเสวนาองค์กรเครือข่ายการพัฒนาบุคลากรด้านการพลศึกษาและการกีฬา และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ตามโครงการแนวทางการบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรด้านการพลศึกษาและการกีฬา ประจำปี 2561 ในวันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2561 ที่ โรงแรมทวินทาวเวอร์ เพื่อให้สอดคล้องกับ แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 โดย กรมพลศึกษา ลงนามบันทึกข้อตกลงกีฬาร่วมกับ 5 องค์กร ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย, สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และ สันทนาการแห่งประเทศไทย, สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย, สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย จะร่วมลงนามโครงการแนวทางบูรณาการความร่วมมือองค์กรเครือข่ายการพัฒนาบุคลากรด้านการพลศึกษาและการกีฬา ประจำปีงบประมาณ 2561

วัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการเรื่องการพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬาร่วมกัน โดยจะมีการพัฒนาครูผู้ฝึกสอนพลศึกษาที่ไม่มีวุฒิด้านพลศึกษา ซึ่งในโรงเรียนต่างจังหวัดบางโรงเรียน ครูที่มาสอนพลศึกษานั้นก็ไม่จบด้านพลศึกษามา แต่เราจะมีการอบรมให้ครูเหล่านี้ตามสถานศึกษา เพื่อที่จะให้ครูนั้นสามารถสอนเด็กได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ในส่วนของอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกายประจำหมู่บ้านด้วย ซึ่งจะลงไปทุกหมู่บ้านเพื่อให้ผู้ที่เป็นอาสาสมัครสามารถนำไปต่อยอดให้กับคนในหมู่บ้าน หรือในท้องถิ่นนั้นได้ออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง

ตร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า สำหรับการร่วมลงนามกับ 5 หน่วยงานครั้งนี้ ถือเป็นการลงนามสัญญาในการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราได้มีการร่วมมือกันพัฒนาอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกายในแต่ละชุมชนไปแล้ว โดยการลงนามกับสมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทย ก็เพื่อให้เป็นหลักในการให้ความรู้บุคลากรในระดับประเทศ ซึ่งกรมพลศึกษา จะร่วมพัฒนากับสมาคมฯ ส่วนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะลงไปในระดับ อบต., อบจ. เทศบาลทั่วประเทศ พัฒนาอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกาย (อสก.) ตามแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 เพื่อให้ทุกอำเภอได้มีผู้นำการออกกำลังกายให้ครบภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งเราจะช่วยกันคัดสรรอาสาสมัครบุคลากรที่มีคุณสมบัติซึ่งจะช่วยกันชักชวนและประชาสัมพันธ์

เรียกได้ว่าเป็นการลงนามร่วมกันเพื่อที่จะให้ทั่วประเทศได้หันมาสนใจการออกกำลังกาย และเพื่อเฟ้นหาอาสาสมัครกีฬาจากทุกหมู่บ้าน เพื่อที่จะร่วมกันชวนประชาชนออกกำลังกายอย่างถูกวิธี