กรมปศุสัตว์เตือนโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร
ที่มา : เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
กรมปศุสัตว์สรุปเป็นประเด็นความรุนแรงของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 4 ประเด็น คือ ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีนในการใช้ป้องกันโรค สุกรที่ติดเชื้อจะมีอัตราการตายสูง และเชื้อมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมสูง
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากช่วงต้นเดือนส.ค.จนถึงปัจจุบันสถานการณ์ระบาดรุนแรงขึ้นของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรที่ประเทศจีน โดยกรมปศุสัตว์ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ดำเนินการเชิงรุกในการควบคุมป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย แต่ขณะนี้ผู้เลี้ยงสุกรอาจยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคอหิวาต์สุกร ซึ่งทั้งสองโรคได้ถูกกำหนดให้เป็นโรคตามพระราชบัญญัติสัตว์พ.ศ. 2558 หากพบโรคเกิดขึ้นในฟาร์มหรือพื้นที่ใดต้องดำเนินการตามมาตรการที่ถูกกำหนดไว้ ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกรเกิดความตระหนักถึงความรุนแรงของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร กรมปศุสัตว์จึงขอสรุปเป็นประเด็นความรุนแรงของโรค 4 ประเด็นเพื่อให้เกิดความรับรู้ที่ชัดเจนคือ ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีนในการใช้ป้องกันโรค สุกรที่ติดเชื้อจะมีอัตราการตายสูง และเชื้อมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมสูง
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า สิ่งที่มีความใกล้เคียงกันของทั้งสองโรคคือ มีอาการทางคลินิกที่คล้ายกันได้แก่ มีไข้สูง ตายเฉียบพลันมีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง แท้งหรือท้องเสีย ในกรณีโรคอหิวาต์แอฟริกามักพบอาการถ่ายเป็นเลือดซึ่งไม่สามารถแยกออกจากกันภายนอกได้ ต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น นอกจากนี้วิธีการติดต่อของโรคก็มีความใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นติดจากสิ่งคัดหลั่งที่มาจากสุกรป่วยหรือจากสุกรที่หายป่วยจากโรคแล้ว การปนเปื้อนของเชื้อที่วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในฟาร์ม รวมทั้งคนด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองโรคมีความแตกต่างกันคือ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นโรคที่เกิดจากดีเอ็นเอ ไวรัส ต่างจากโรคอหิวาต์สุกร ซึ่งเป็นอาร์เอ็นเอ ไวรัส ซึ่งธรรมชาติของ ดีเอ็นเอ ไวรัส จะมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมสูงมาก ส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำลายเชื้อโรคหากพบการติดเชื้อในฟาร์มแล้วและเนื่องจากเชื้อนี้ซึ่งเป็นดีเอ็นเอ ไวรัส มีขนาดใหญ่ทำให้ในปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตวัคซีนเพื่อการป้องกันโรคได้ทำให้เมื่อสัตว์ติดเชื้อแล้วมีอัตราการตายที่สูง นอกจากนี้โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังสามารถติดต่อจากเห็บอ่อน ซึ่งไม่พบในประเทศไทย จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าโรคทั้งสองมีความเหมือนและความแตกต่างกันในประเด็นสำคัญ