กรมควบคุมโรค เตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม
ที่มา : ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดอยุธยาพร้อมรองนายกฯ พลเอกฉัตรชัยเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข 5 แนวทางในการรับมือหากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมเตรียมทีมปฏิบัติการสำหรับการเผชิญเหตุอย่างทันท่วงที สำรองยา และชุดเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ
นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อวานนี้กรมควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพร้อมรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการเตรียมการป้องกันน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำบางบาล อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยารวมไปถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเตรียมรับมือป้องกันผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นลักษณะพื้นที่ราบลุ่ม ลำน้ำที่พาดผ่านจังหวัดเป็นล้ำนำที่เป็นทางรับน้ำที่ถูกระบายออกจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ก่อนจะระบายสู่อ่าวไทย ซึ่งมีโอกาสจะเกิดน้ำท่วมได้ง่ายจึงจำเป็นที่ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันในการป้องกันและเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีเกิดเหตุน้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันท่วงที กระทรวงสาธารณสุข จึงได้วางแนวทางในการดำเนินการไว้ 5 แนวทาง ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2.เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ 3.เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข 4. จัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างเกิดอุทกภัยและ 5.ประเมินผลกระทบและดำเนินการฟื้นฟู
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข นั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการดังนี้ 1. เตรียมทีมปฏิบัติการเผชิญเหตุอย่างทันท่วงที ได้แก่ ทีมเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือด้านการแพทย์(EMS/MERT/MiNi-MERT 18 ทีม) ทีมสอบสวนควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็ว (SRRT 17 ทีม) และทีมฟื้นฟูเยียวยาทางสุขภาพจิต (16 MCATT) 2. เตรียมอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ที่จะได้รับผลกระทบ พร้อมเคลื่อนย้ายครุภัณฑ์และเอกสารสำคัญไปยังสถานที่ปลอดภัยโดยให้ รพ.อยุธยา เป็นแม่ข่าย 3.ผู้ป่วยที่ต้องให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีบริการเยี่ยมบ้านและจ่ายยาให้เพียงพอจนกว่าจะพ้นสถานการณ์น้ำท่วม ไม่น้อยกว่า 4,306 ราย 4.สำรองยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์น้ำท่วม ไม่น้อยกว่า 15,000 ชุด 5.จัดหาที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำท่วมในที่ปลอดภัย และ6.สื่อสารความเสี่ยงแจ้งเตือนการเกิดโรคและภัยให้กับประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422