กทม. – ปริมณฑล ฝุ่นพิษปกคลมกว่า 49 จุด

ที่มา : เดลินิวส์


กทม. - ปริมณฑล ฝุ่นพิษปกคลมกว่า 49 จุด thaihealth


แฟ้มภาพ


ฝุ่นพิษยังเล่นงานหลายจังหวัดทั่วไทย "สระบุรีสุพรรณบุรี-ปราจีนบุรี" หนักสุดถึงขั้นวิกฤติสีแดง ส่วนภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออกไม่น้อยหน้าแตะระดับสีส้มหลายพื้นที่ ส่วนเมืองกรุง-ปริมณฑล ค่าฝุ่นยังเกิน 49 พื้นที่ คลองเตย-ปากน้ำ สูงสุด เร่งทุกหน่วยงานทั่วประเทศตามร่วมมือแก้ไขปัญหา พร้อมกำชับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสาย ทำตามมาตรการช่วยลดฝุ่น ขณะที่ กรมอนามัย แนะผู้ปกครอง-ครู ช่วยดูแลเด็กเล็ก เหตุภูมิคุ้มกันยังไม่เท่าผู้ใหญ่ ส่วน เชียงใหม่ จัดกิจกรรมเดินรณรงค์งดเผา พร้อมล้างถนน 3 เส้นทาง


เมื่อวันที่ 2 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้น ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 54 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 40-76  มคก./ลบ.ม. เพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จากวันที่ 1 ก.พ. โดยอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือพื้นที่สีส้ม 49 พื้นที่ สูงสุดอยู่ที่ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กับ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ วัดค่าได้ 76 มคก./ลบ.ม. สาเหตุจากการจราจรที่หนาแน่น ทำให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสม ประกอบกับมีสภาพอากาศปิด ลมสงบตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 1 ก.พ. จนถึงเช้าวันนี้ ทำให้ฝุ่นละอองไม่กระจายตัว เกิดสะสมจนมีค่าเพิ่มขึ้น


ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานในระดับวิกฤติสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 107 มคก./ลบ.ม. ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี 104 มคก./ลบ.ม. ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 94 มคก./ลบ.ม. ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 93 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ภาคเหนือมีพื้นที่ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานระดับสีส้ม 9 พื้นที่ ภาคอีสาน 3 พื้นที่ และภาคตะวันออก 6 พื้นที่


ทั้งนี้ บก.จร. ได้ตั้งจุดตรวจรถควันดำเสียงดัง รวม 389 คัน ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว 11 คัน ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว 2 ราย หน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กรมทางหลวง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ยังเฝ้าระวังการเจ็บป่วย แจ้งเตือน พร้อมแนะนำการปฏิบัติตน จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องฝุ่นละออง รณรงค์ป้องกันฝุ่น รณรงค์สวมหน้ากากอนามัย ขอความร่วมมือสถานประกอบการดูแลกระบวนการผลิตที่อาจก่อให้เกิดฝุ่น ฉีดล้างพื้นผิวถนน ฉีดพ่นละอองน้ำในช่วงกลางวันและกลางคืน


นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประสาน ผวจ.ทุกจังหวัด แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างเร็วที่สุด ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังได้กำชับ ผู้ว่าการ รฟม. กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ควบคุมการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้เป็นไปตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มความถี่ทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสภาพเครื่องจักร รถบรรทุกไม่ให้มีควันดำ ปิดช่องจราจรก่อสร้างเฉพาะที่จำเป็น เพิ่มเครื่องพ่นละอองน้ำระบบแรงดันสูงเพื่อกำจัดฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้างให้มากที่สุด และจะลงพื้นที่ติดตามว่า ได้ปฏิบัติตามที่มอบแนวทางไว้ครบถ้วนหรือไม่ พร้อมย้ำว่า หากช่วงสภาพอากาศปิดให้ลดหรือหยุดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นชั่วคราวจนกว่าจะดีขึ้น


พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ค่าฝุ่นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเด็กเล็ก คือตั้งแต่ ระดับสีเขียว (26-50 มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป เพราะเด็กยังช่วยเหลือดูแลตัวเองไม่ได้ ภูมิต้านทานต่ำ ปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่ อัตราการหายใจถี่ ผิวหนังบางกว่าผู้ใหญ่ หากฝุ่นอยู่ในระดับสีเขียวขึ้นไป พ่อแม่ ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กทำกิจกรรมนอกอาคาร หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากค่าฝุ่นสูงมากต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนในโรงเรียน หากฝุ่นอยู่ในระดับสีเขียวขึ้นไป ควรให้กลุ่มนักเรียนที่ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และหลอดเลือด เช่น หอบหืด ลดการเรียนพลศึกษา และกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้าค่าฝุ่นสูงมาก ควรให้ทุกคนลดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เข้าแถวหน้าเสาธง ออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมทั้งควรมีมาตรการลดฝุ่น เช่น งดเผาใบไม้ขยะ จอดรถรับส่งบุตรหลานส่งนอกโรงเรียน จอดดับเครื่อง


 

Shares:
QR Code :
QR Code