กคช. จับมือ สสส. ดูแลสุขภาพชุมชน
การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนา “สุขภาพดี เวทีนี้มีให้” ต่อยอดโครงการเสริมสร้างวิถีชีวิตสุขภาวะชุมชนของ กคช. พร้อมเดินหน้าแผนปฏิบัติการอย่างบูรณาการ นำร่อง 12 ชุมชน
นายสมชัย เชาว์พฤฒิพงศ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อร่วมกันพิจารณาให้การสนับสนุน ด้านนโยบายและทรัพยากรการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ผ่านการจัดเสวนา “สุขภาพดี เวทีนี้มีให้” เพื่อสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน จากการดำเนินงาน “โครงการเสริมสร้างวิถีชีวิตสุขภาวะชุมชนของการเคหะแห่งชาติ” ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ และพัฒนาองค์ความรู้ให้กับชาวชุมชน
นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมการออกกำลังกายที่จะนำไปสู่ชุมชนสุขภาวะ ร่วมมือกันพัฒนาองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนการเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสุขภาวะชุมชน เพื่อให้ชุมชนของ กคช. สามารถจัดการรูปแบบกระบวนการ และระดมการมีส่วนร่วมของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุน พัฒนากิจกรรมสุขภาวะ และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างเป็นระบบ รวมทั้งร่วมกันแต่งตั้งคณะกรรมการประสานความร่วมมือสำหรับจัดทำแผนปฏิบัติการอย่างบูรณาการ ให้คำปรึกษาดำเนินโครงการ ติดตามและประเมินผลโครงการ นำไปสู่ประสิทธิผลในทางปฏิบัติสูงสุด
นายสมชัย กล่าวต่อว่า กคช. ได้ดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี โดยได้คัดเลือกโครงการที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 12 โครงการ ได้แก่ เคหะชุมชน ร่มเกล้า (โซน 10),บ้านเอื้ออาทรรามอินทรา (คู้บอน),บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม,บ้านเอื้ออาทรรัตนาธิเบศร์ (ท่าอิฐ),บ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง,บ้านเอื้ออาทรติวานนท์ (บางกระดี),บ้านเอื้ออาทรประชานิเวศน์,บ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (ฟ้าคราม),บ้านเอื้ออาทรบางโฉลง,บ้านเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3,บ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ 1 และสำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ
“จากการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างวิถีชีวิตสุขภาวะชุมชนของ กคช. ที่ผ่านมา พบว่า คุณภาพชีวิตด้านสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยในชุมชนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผู้อยู่อาศัยตระหนักและหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น มีการบริหารจัดการเวลาในการออกกำลังกาย บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการบริโภคสิ่งที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ทั้งยังตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ส่งเสริมเยาวชนให้รู้จักใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ และในบางพื้นที่ชาวชุมชน สามารถประสานงานเชื่อมโยงกับหน่วยงาน ท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม มีภาคีเครือข่ายที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าการดำเนินงานตามโครงการฯ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” นายสมชัย กล่าว