เที่ยวปีใหม่มีความสุขและปลอดภัย หากคุณ “พร้อม”
แนะวิธีเตรียมตัวทั้งรถ คน อุปกรณ์…
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหยุดพักผ่อนสิ้นปีแล้ว…รับรองได้เลยว่าถนนกรุงเทพจะโล่งแบบที่ไม่เคยโล่งมาก่อน เนื่องจากประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางออกไปเที่ยวหรือกลับบ้านต่างจังหวัดกัน แล้วปีใหม่นี้คุณล่ะ…จะเดินทางไปไหน?? แต่ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน สิ่งหนึ่งที่คุณจะลืมไม่ได้เลยคือ “การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง” เพราะถนนหนทางไม่ว่าจะสายไหนที่เราจะเดินทาง คงต้องเต็มไปด้วยรถรามากมาย หากไม่อยากพบกลับความสูญเสีย การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งคนทั้งรถจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ไม่ควรมองข้าม…
โดยสิ่งแรกที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเป็นคนขับรถ คือการพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะคุณต้องขับรถเป็นระยะทางไกล อีกทั้งต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิตในครอบครัวที่อยู่ในรถ หากคุณง่วงขณะขับรถ อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ ต่อมาก็คือ รถ ที่คุณใช้เป็นยานพาหนะ จำเป็นต้องตรวจตราให้พร้อม ทั้งภายนอกและภายใน กระจกรถด้านนอก ยางรถ ว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เปิดฝากระโปรงรถ ตรวจเช็คระดับและคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำในถังพักน้ำ น้ำมันเบรกและคลัตช์ น้ำกลั่นในแบตเตอรี่และสภาพขั้วแบตเตอรี่ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
นอกจากนี้ตรวจรอยรั่วซึมและรอยคราบของน้ำมันทั้งภายในห้องเครื่องและใต้ท้องรถ ตรวจความตึงของสายพานปั๊มน้ำ สายไฟและขั้วต่อสายไฟ และสุดท้ายสตาร์ทรถตรวจสอบไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัดรถว่าติดครบถ้วนหรือไม่ จากนั้นดับเครื่องยนต์และตรวจว่าไฟเตือนต่างๆ ดับไปอย่างถูกต้อง ตรวจระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ตรวจระยะฟรีการทำงานของเบรก คลัตช์ พวงมาลัย และเบรกมือ และฟังเสียงผิดปกติของเครื่องยนต์ด้วย แต่อย่าลืม “ตั้งสติก่อนสตาร์ท” ทุกครั้งก่อนขับรถด้วยเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ “หากดื่ม(เหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)ต้องไม่ขับ” เป็นดีที่สุด..
และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็เดินทางกันได้เลย..แต่ที่สำคัญขณะขับขับรถนั้นต้อง “ปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ” ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ได้บอกว่า ในขณะเดินทางหรือขับรถจำเป็นต้องทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสมกับความเร็วที่ใช้ เราสามารถพิจารณาอย่างง่ายๆ ได้โดยขับรถของเราด้วยความเร็วที่คงที่เท่ากับรถคันหน้า เมื่อคันหน้าผ่านจุดใดจุดหนึ่ง เช่น หลักกิโลเมตรริมถนน รถของเราจะต้องผ่านจุดเดียวกันนั้นในเวลาไม่ต่ำกว่า 2 วินาที โดยความเร็วที่ใช้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด คือในเขต กทม. เขตเมือง เขตเทศบาล ความเร็วต้องไม่เกิน 80 กม./ชม. นอกเขตไม่เกิน 90 กม./ชม.
บางครอบครัวอาจต้องเดินทางขึ้นทางลาดชันหรือเนินเขา ซึ่งต้องใช้เกียร์ที่เหมาะสม คือเกียร์ต่ำ โดยรักษาให้รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 รอบต่อนาที ซึ่งรอบช่วงนี้จะให้กำลังฉุดลากดีที่สุด การใช้รอบเครื่องยนต์สูงๆ กำลังการไต่ทางชันจะไม่ดีสิ้นเปลืองน้ำมันและเครื่องยนต์สึกหรอโดยไม่จำเป็น และเมื่อลงทางลาดชันหรือเนินเขา ห้ามดับเครื่องยนต์ ปลดเกียร์ว่างหรือเหยียบคลัตช์ค้างไว้ในระหว่างการลงเขาอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว จนกระทั่ง ควบคุมรถไม่ได้ ต้องใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติเพื่อหน่วงความเร็วของรถไว้และใช้เบรกลดความเร็วเป็นระยะๆ การใช้เบรกลดความเร็วอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ได้
ในกรณีที่จำเป็นต้องแซง ซึ่งเป็นกฎตายตัวว่าจะต้องแซงขึ้นทางขวาเสมอ เมื่อแซงผ่านขึ้นมาแล้วให้ขับเป็นแนวตรงทิ้งระยะห่างพอสมควร เพื่อให้รถที่ถูกแซงมีเวลาตั้งตัว อย่ากลับเข้าเลนซ้ายในลักษณะเลี้ยวตัดหน้ารถที่ถูกแซงอย่างกระชั้นชิด รักษาอารมณ์อย่าให้ฉุนเฉียวกับผู้ขับรถคันอื่นที่อยู่รอบข้าง อย่างเร่งเครื่องแข่งกับรถคันที่กำลังแซงอยู่ปล่อยให้รถที่แซงผ่านไปโดยสะดวกและปลอดภัย ถ้าถูกรถอื่นแซง ต้องขับรถให้ช้าลงหรือเปิดโอกาสให้เขาแซงโดยสะดวก เมื่อได้รับสัญญาณแซงขึ้นหน้าจากรถคันหลัง ผู้ที่ขับขี่รถที่มีความเร็วช้าหรือให้ความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่นที่ขับไปในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมให้รถคันที่ใช้ความเร็วสูงกว่าผ่านขึ้นหน้า และผู้ขับขี่ที่ถูกขอทางต้องปฏิบัติดังนี้ 1. ให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายตอบ (เปิดไฟเลี้ยวหรือให้สัญญาณเลี้ยวซ้ายด้วยมือและแขน) 2. ลดความเร็ว 3. ขับรถชิดด้านซ้ายของทางเดินรถเพื่อให้รถที่แซงผ่านขึ้นหน้าได้โดยปลอดภัย
บางครอบครัวอาจต้องเดินทางตอนกลางคืนเพื่อให้ถึงที่หมายทันเวลา จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ควรเปิดไฟหน้าเมื่อรู้สึกว่าทัศน์วิสัยเริ่มไม่ชัดเจน ใช้ความเร็วให้ต่ำลง เมื่อไม่มีรถสวนมาในระยะสายตา ควรใช้ไฟสูง และลดไฟต่ำลงทันทีเมื่อเห็นมีรถสวนมา พยายามขับรถให้ชิดมาทางเส้นแบ่งกึ่งกลางเพื่อหลีกเลี่ยงการชนคน รถจักรยาน สัตว์ หรือรถซึ่งจอดอยู่ข้างถนน เพราะแสงไฟหน้ารถอาจมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
เพียงเท่านี้คุณและครอบครัวก็จะถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพอย่างแน่นอน…
แต่การเตรียมตัวยังไม่หมดเพียงเท่านี้!! เพราะเมื่อคุณตั้งใจไว้ว่าจะไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้วล่ะก็ คุณก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศที่แปรปรวนบ่อยและสถานที่นั้นๆ อีกด้วย
เริ่มจากการเดินทางท่องเที่ยวทางน้ำ ฤดูที่เหมาะสมควรเป็นฤดูหนาวและฤดูร้อน เพราะในฤดูฝนการเดินทางไม่สะดวกมีคลื่นลมเป็นอันตรายในการล่องเรือ ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบสภาพอากาศ คลื่นลม ตรวจสอบเวลาน้ำขึ้น-ลง ล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินเรือ เลือกขนาด/ประเภทของเรือให้เหมาะสมกับจำนวนที่เดินทาง ไม่บรรทุกน้ำหนักเกินขนาดเรือ สวมเสื้อผ้าที่กระชับรัดกุมน้ำหนักเบา แห้งง่าย สวมรองเท้าแตะที่ถอดง่าย เตรียมหมวกกันแดดและเสื้อแจ็กเก็ตผ้ากันลม
และควรเตรียมถุงพลาสติกใส่กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ต่างๆ ป้องกันการเปียกน้ำ สวมเสื้อชูชีพ หรือเตรียมห่วงยางป้องกันอันตรายเมื่อพลัดตกลงน้ำหรือเรือล่ม หากนำอาหารไปรับประทานในเรือเลือกอาหารที่สะดวกในการพกพา และนำขยะมาทิ้งที่ฝั่ง ถ้าพลัดตกจากเรือให้รีบว่ายน้ำเข้าหาเรือหรือว่ายเข้าฝั่ง ที่สำคัญไม่ล่องเรือในเวลากลางคืนเพราะมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจนอาจเกิดอันตรายได้
สถานที่ต่อมาคือน้ำตก เราควรเริ่มเตรียมตัวโดยการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตกที่จะเดินทางไปเที่ยวในทุกๆ ด้าน รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง สภาพเส้นทางและการเข้าถึงตัวน้ำตก การขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ในกรณีอุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าล่วงหน้าทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อที่จะจัดวางแผนการเดินทางและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมก่อนการเดินทาง
ติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับพื้นที่ที่เราจะเดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนนล่าสุดสภาพอากาศ หรือความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาที่ยุ่งยากตามมา เตรียมยานพาหนะให้พร้อมหากเป็นรถที่ขับไปเองต้องตรวจสอบสภาพเส้นทางในช่วงนั้น เตรียมความพร้อมของพาหนะให้สมบูรณ์หากเป็นรถที่เช่าเหมาไปต้องบอกข้อมูลกับคนขับให้ทราบเพื่อการเตรียมตัว รองเท้าที่เตรียมไปควรเหมาะกับสภาพของน้ำตก หากเป็นน้ำตกที่รถเข้าถึง ไม่ต้องเดินมากอาจเป็นรองเท้าแตะแบบรัดส้นธรรมดาก็ได้ แต่หากต้องเดินมากในเส้นทางที่ค่อนข้างสมบุกสมบันควรใช้ผ้าใบที่สวมสบายๆ พร้อมลุยและเปียกน้ำ และบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจะทำให้การเดินป่าท่องธรรมชาติมีความสุขมากยิ่งขึ้น
และสิ่งที่ควรปฏิบัติขณะเดินทาง คือ ขณะเที่ยวชมน้ำตก ควรสังเกตว่าธารน้ำมีน้ำเต็มเปี่ยมและไหลแรงขึ้น การเดินข้ามหรือเล่นน้ำควรเพิ่มความระมัดระวัง เพราะน้ำป่าอาจไหลหลากมาอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่รู้ตัว การเดินเลาะริมลำห้วยหากจำเป็นต้องตัดข้ามไปมาบ่อยครั้ง ควรยอมเปียกลงลุยน้ำแทนการกระโดดข้ามบนก้อนหินเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้บาดเจ็บ ไม่ควรหยอกล้อกันบริเวณที่อันตราย เช่น ตามริมผา น้ำตก บนโขดหินกลางลำห้วยในช่วงที่น้ำลึกไหลเชี่ยว นอกจากนี้น้ำตกบางแห่งมีคำเตือนให้ห้ามเล่นน้ำในบางบริเวณ เช่น ตามแอ่งน้ำวน น้ำลึก หรือที่ลาดชันก่อนถึงผาน้ำตก ควรปฏิบัติตามเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่เกิดขึ้นได้
ที่สำคัญไปกว่านั้น ควรระมัดระวังอย่าให้การเที่ยวน้ำตกของท่านเป็นการรบกวนหรือทำลายธรรมชาติ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในการเที่ยวน้ำตก ควรเคารพสิทธิ์ผู้อื่นที่เดินทางเข้าไปสัมผัสธรรมชาติร่วมกัน ด้วยการไม่ส่งเสียงรบกวนหรือกระทำการอันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและธรรมชาติอันเป็นการขัดต่อกฎหมาย และไม่ทิ้งขยะในทุกพื้นที่
สถานที่สุดฮิตต่อไป ก็คือ ทะเล ซึ่งสิ่งที่ควรเตรียมในการเดินทาง เริ่มจากควรเตรียมครีมกันแดด ครีมทาผิว และชูชีพให้พร้อมใช้งาน ควรใส่เสื้อผ้าที่กระชับ น้ำหนักเบา ไม่อุ้มน้ำ เวลาเล่นน้ำควรมีผู้ร่วมเล่นน้ำ หรือบริเวณใกล้เคียงเผื่อเวลาฉุกเฉิน และควรเล่นในช่วงเช้าหรือบ่ายที่อากาศไม่ร้อนจัดและไม่ควรลงเล่นน้ำขณะฝนตกรุนแรง
บางครอบครัวอาจพากันไป ดำน้ำ ดูปะการัง ก็ควรเตรียมตัวเช่นกัน สิ่งแรกเลยคือ ควรหัดอุปกรณ์ดำน้ำให้ชำนาญ เตรียมร่างกายและอุปกรณ์ให้พร้อม ไม่อดนอน ไม่ดื่มสุรา และจำเป็นต้องสวมชุดชูชีพให้พร้อมทุกครั้งก่อนลงน้ำ ผูกเรือไว้กับทุ่นหรือจอดเรือในที่จัดไห้ ในการชมปะการังควรชมในเฉพาะจุดที่ผู้นำทางกำหนดให้เท่านั้น และไม่ควรสัมผัสหรือแตะต้องปะการัง รวมถึงจับสัตว์น้ำทุกชนิด ห้ามเก็บปะการัง เปลือกหอย โดยเด็ดขาดและช่วยกันเก็บขยะบนท้องทะเลขึ้นมาทิ้งบนฝั่ง
และสุดท้ายในบรรยากาศหนาวเย็นส่งท้ายปีเช่นนี้ สถานที่ที่หลายครอบครัวต้องไปเที่ยว คงหนีไม่พ้นการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาหรือยอดดอยต่างๆ ซึ่งกิจกรรมสุดฮอตก็คือ การเดินป่า ดังนั้นเราจึงควรเตรียมตัวให้พร้อม เริ่มจาก เสื้อผ้า ควรเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่แห้งง่ายและสวมใส่สบายเตรียมไว้ ประมาณ 3 ชุด ชุดหนึ่งใส่ช่วงกลางวัน ชุดหนึ่งใส่สำหรับก่อนนอน และชุดสุดท้ายสำหรับใส่เดินทางกลับ เสื้อกันหนาวหรือเสื้อกันฝนก็ควรเตรียมไปด้วยตามฤดูกาลและสภาพอากาศของพื้นที่นั้น
ต่อด้วย รองเท้า ควรใช้รองเท้าหุ้มส้นหรือหุ้มข้อ ไม่ควรมีพื้นแข็งหรืออ่อนจนเกินไปและมีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป และไม่มีน้ำหนักมากเกินไป และควรสวมถุงเท้า เพื่อป้องกันรองเท้ากัด หมวก ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น เพื่อใช้บังแดดและป้องกันหนามเกี่ยวศีรษะขณะเดินลอดกิ่งไม้ ตามมาด้วย เป้สัมภาระ ควรมีขนาดเหมาะสมกับลำตัวของเจ้าของและจำนวนสัมภาระ โดยปกติเป้เมื่อใส่สัมภาระแล้วไม่ควรมีน้ำหนักเกินร้อยละ 20 ของน้ำหนักตัว หากเป้มีน้ำหนักมาก ควรใช้สายคาดเอวเพื่อถ่ายเทน้ำหนักส่วนหนึ่งจากที่บ่ามาให้ลำตัว บริเวณส่วนเอวช่วยรับ น้ำหนักด้วย
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เต็นท์พักแรม ควรใช้ขนาดและจำนวนที่เหมาะกับจำนวนคน เปลสนามก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะเบาและกะทัดรัด แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือผ้าพลาสติกกางขึงเหนือเต็นท์ หรือ เปลสนามเพื่อกันน้ำค้างและน้ำฝน นอกจากนี้ อาจต้องพก อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ติดตัวไป เช่น ยาประจำตัว ถุงนอน ไฟฉาย มีดเอนกประสงค์ กระติกน้ำ ชุดเครื่องครัวสนาม ถุงขยะ ไฟแช็ก เชือกร่มยาว 2-3 เมตร จำนวน 2-3 เส้น และสุดท้าย ก็คือ เสบียง ควรเตรียมไว้ประมาณให้เกิน 2 มื้อ เผื่อเกิดเหตุให้ต้องอยู่ป่านานกว่ากำหนด และ ควรเผื่อเสบียงสำหรับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติที่ช่วยนำทางไว้บ้าง
เมื่ออุปกรณ์ที่นี่เรามาดูข้อพึงปฏิบัติในการเดินป่า เริ่มจากในการเดินป่านั้น ควรเดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบและเดินด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ควรเดินเรียงเดี่ยว ให้มองเห็นคนที่เดินอยู่ข้างหน้าเสมอ หากเดินนำจนมองไม่เห็นผู้ที่เดินตามหลัง ตามมาจนอยู่ในระยะที่มองเห็นกันได้ ไม่ควรส่งเสียงดัง นอกจากเปลืองพลังงานแล้ว ยังลดทอนโอกาสพบสัตว์ป่าตามเส้นทาง
ควรพัก 5-10 นาที ทุก 1-2 ชั่วโมง แต่อย่าพักบ่อยเกิน เพราะจะทำให้เหนื่อยยิ่งขึ้น ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทางและไม่ควรเดินป่าตามลำพัง เมื่อพบแหล่งน้ำที่สามารถดื่มได้ควรเติมน้ำให้เต็มกระติกเสมอ
นั่นอาจเป็นการเตรียมตัวของผู้ที่มีรถเป็นของตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ สิ่งที่คุณควรระมัดระวัง คือ ไม่ควรใส่เครื่องประดับที่มีค่า มีราคา หรือล่อแหลมมากจนสะดุดตาเกินไป เพราะชีวิตและทรัพย์สินของคุณอาจตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพที่มักอาศัยช่วงนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลักก็ได้ และสำคัญที่สุดการเดินทางของคุณต้องไม่มีกระเป่าสัมภาระมากจนเกินไป ควรมีเพียง 1-2 ใบ/คนเท่านั้น เพราะจะทำให้สะดวกต่อการเดินทางครั้งนี้ของคุณ แต่หากรถโดยสารสาธารณะที่คุณใช้บริการนั้นมีผู้โดยสารน้อยคุณควรจำหน้าคนขับรถ ทะเบียนรถไว้ เผื่อเกิดเหตุใดๆ ขึ้นจะบันทึกเอาได้ไว้เป็นหลักฐานได้
เมื่อการเตรียมตัวพร้อมทั้งรถ ทั้งคน ทั้งอุปกรณ์แล้ว… การเดินทางไปเที่ยวปีใหม่ของคุณและครอบครัวในปีนี้ก็จะสนุก มีความสุข แถมยังปลอดภัยอีกด้วย…
เรื่องโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th
Update:30-12-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่