เทรนด์โลกมาแรง! เยาวชนรุ่นใหม่เลือกไม่ดื่ม สสส.-ภาคี ชูสิทธิฯ วัยรุ่น “ตั้งวงปาร์ตี้ได้ไม่บังคับดื่มแอลกอฮอล์”
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
สสส. สานพลังภาคีเครือข่าย เปิดวงเสวนา ชูวัยรุ่น ยึดหลักสิทธิเสรีภาพ ตั้งวงปาร์ตี้ได้ไม่บังคับดื่มแอลกอฮอล์ ต้นตอผลกระทบสุขภาพ สังคม นักวิชาการชี้วัยรุ่นไทยยอดดื่มทรงตัว ตามเทรนด์คนรุ่นใหม่โลก จาก 2 ปัจจัย ปรับค่านิยม-อยู่กับพ่อ แม่นานขึ้น เปิดผลสำรวจ คนไทย 72.3% หนุนมีกิจกรรมทางเลือกช่วงเข้าพรรษา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2568 โรงแรมแมนดาริน สามย่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สานพลังภาคีเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว กิจกรรมเสวนา “Active Youth เท่สุด…ให้หยุดดื่ม” โดย น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากรไทย ปี 2567 พบว่า อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในกลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี มีแนวโน้มลดลงจาก 34.7% ในปี 2564 เหลือ 24.8 % ในปี 2567 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายทำงานเชิงรุก วางยุทธศาสตร์ด้านวิชาการ การรณรงค์ และการทำงานเชิงพื้นที่ เพื่อทำให้เกิดสังคมปลอดภัยปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ให้ความสำคัญในการดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม การสกัดนักดื่มหน้าใหม่ และกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มการดื่มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเด็ก เยาวชน และผู้หญิง เป็นต้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมในวันนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเดินหน้า เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เด็กและเยาวชน และจุดประกาย กระตุ้น สาน และเสริมพลัง ให้บุคคล ชุมชน และองค์กรทุกภาคส่วน ให้มีขีดความสามารถ และสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะ
รศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว สำนักวิชาแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เยาวชนในประเทศที่มีรายได้สูง เช่น ยุโรป อเมริกา ซึ่งเดิมมีพื้นฐานเปอร์เซ็นต์คนดื่มแอลกอฮอล์สูง แต่เมื่อประมาณปี 2540 การดื่มในประเทศเหล่านี้ลดลง เช่น อเมริกาลดจาก 50% เหลือ 30% อังกฤษลดจาก 60% เหลือ 30% ออสเตรเลียลดจาก 50% เหลือ 25% ไอซ์แลนด์ ลดลงเกือบ 80% นอร์เวย์ลดลง 60% ฝรั่งเศสลดลง 8% หลักฐานเชิงประจักษ์ที่บอกปรากฏการณ์นี้คือเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานค่านิยมสังคมของคนรุ่นใหม่ และการอยู่กับพ่อ แม่นานขึ้น พ่อ แม่เข้มงวดเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น ส่วนเยาวชนไทยไม่ต่างจากต่างประเทศ สถานการณ์การณ์ดื่มทรงตัว เพิ่มไม่ถึง 1% คือจาก 8.9% ในปี 2564 มาเป็น 9.6% ในปี 2567 แต่ที่เพิ่มมาก คือวัยทำงานเพิ่มขึ้น 9% เพราะเริ่มมีรายได้ ประกอบกับพื้นฐานการดื่มของไทยยังไม่มาก ยังขยายตลาดการดื่มได้ นโยบายรัฐบาลกับฝ่ายค้านไปในทางเดียวกันคือผ่อนปรนกฎหมายควบคุมการดื่มมากขึ้น
“จากนี้ภาพรวมการดื่มของไทยอาจจะเพิ่มขึ้น เพราะยังต้องต่อสู้เรื่องความเหมาะสม และความปลอดภัยของคนที่ไม่ดื่มด้วย เยาวชน บางคนไม่ดื่มมาก่อน แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็ถูกบังคับให้ดื่มเพื่อเข้ากลุ่ม หรือสังคม จริงๆ เด็กรุ่นใหม่จะเน้นเรื่องสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น เราจึงควรมีแคมเปญรณรงค์คนที่ดื่มไม่ควร บังคับคนที่ไม่ดื่ม ก็สามารถร่วมโต๊ะสังสรรค์กันได้ ถ้าเป็นแบบนี้ก็มีโอกาสที่จะไม่เพิ่มคนดื่มมากนัก ส่วนภาครัฐอยากฝากว่า แม้จะส่งเสริมเศรษฐกิจ และกฎหมายการควบคุมผ่อนคลายลงก็คงต้องย้ำว่า กฎหมายเท่าที่มีนั้นควรจะบังคับใช้ทุกมาตราให้ครบถ้วน เท่าเทียม เสมอกัน” รศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ กล่าว
นางสาวปาลิณี ต่างสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เปิดเผยว่า เครือข่ายฯได้สอบถามความเห็นกิจกรรมวัยรุ่นช่วงเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 18-30 ก.ค. 2568 กลุ่มตัวอย่าง 2,200 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบ่งเป็น ผู้หญิง 45.4% ชาย 39.4% LGBTQIA+ 15.2% โดยเป็นกลุ่มอายุ 19 – 24 ปี 42.3% อายุ 16 – 18 ปี 34% อายุ 13 -15 ปี 23.7% พบว่าเคยดื่ม 65.7% ไม่เคยดื่ม 34.3% โดยผู้ที่เคยดื่มนั้น มีการดื่มนานๆ ครั้ง 68.8% สัปดาห์ละครั้ง 17.3% สัปดาห์ละ 3 -5 วัน 9.6% และดื่มทุกวัน 4.3% ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่าง 86.1% รู้ว่ามีกิจกรรมงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา อีก 13.9 % ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม 72.3% เห็นว่าควรจะมีกิจกรรมทางเลือกให้เยาวชนทำในช่วงเข้าพรรษาโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น กิจกรรมศิลปะ ออกกำลังกาย กิจกรรม work shop งานคราฟต์ กิจกรรมจิตอาสา ทำคอนเทนต์ทางโซเชียลฯ กิจกรรมสร้างพลังใจ ช่วยงานบ้าน ฝึกทักษะการพูดการสื่อสาร
“กลุ่มตัวอย่างมองผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดคือทะเลาะวิวาท 32.2% ความรุนแรงในครอบครัว 22.5% อุบัติเหตุ 20.5% สุขภาพ 14.3% การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรหรือเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 10.5% ทั้งนี้ในคำถามเกี่ยวกับปัญหาชีวิต 50.8% คิดว่าแอลกอฮอล์ไม่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตได้ มีแต่แย่ลง อีก 23.8% ช่วยได้ชั่วคราว และไม่แน่ใจ 16.2% มีแค่ 9.2% ที่คิดว่าช่วยได้จริง อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่ามีวิธีใดในการแก้ไขปัญหาชีวิต คลายเครียดโดยไม่ต้องดื่ม กลุ่มตัวอย่างเลือกทำกิจกรรม ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม 61.5% คุยกับเพื่อน คนสนิท 55.9%ออกไปเที่ยว เดินเล่น 44% นอนหลับ 28.6% อยู่คนเดียวเพื่อทบทวน 28.1% ร้องไห้ 18.4% ปรึกษาครอบครัว 15.8% ปรึกษาจิตแพทย์/ผู้เชี่ยวชาญ 9.1% ค้นหาคำตอบในโลกออนไลน์ 2.6% อื่นๆ 0.3%” นางสาวปาลิณี กล่าว
นายอาร์วิน ซอยสุเรน ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย กล่าวว่า ปกติจะดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะช่วงที่มีกิจกรรม หรือสังสรรค์กับเพื่อน เพื่อแสดงถึงการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม หรือของกิจกรรมนั้นๆ จะไม่ดื่มจนเมา เพราะมองว่า การดื่มเป็นสิ่งทำร้ายชีวิตในหลายๆ ด้าน ทั้งสุขภาพ ครอบครัวและสังคม ทำให้ความคิดแปรปรวน ซึ่งแม้ว่าไม่เคยเกิดกับตัวเองตรงๆ เพราะยึดหลักไม่ดื่มเพื่อเมา แต่คนใกล้ตัวที่ได้รับผลกระทบมีทั้งเมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นตนคิดว่าทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เลิกดื่มไม่ง่ายแต่ถ้าเลิกได้ก็จะได้โอกาสในการมีสุขภาพที่ดี อนาคตที่ดี ชัดเจนคุ้มค่ามากกว่า หากเรายังลังเลก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ครอบครัว หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างให้เลิกเหล้าได้ ไม่มีการตัดสินคุณ อย่าคิดว่าตัวเองล้มเหลว เพราะคนที่กล้าลุกขึ้นมาได้คือคนที่เข้มแข็ง