เตือนอุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด วันที่ 8-12 มิ.ย.นี้

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


เตือนอุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด วันที่ 8-12 มิ.ย.นี้  thaihealth


แฟ้มภาพ


          กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง หรือ กอปภ.ก. แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายน 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังแรงขึ้น อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก เป็นสาเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งคลื่นลมแรง โดยมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เนื่องด้วยอาจมีฝนตกหนัก ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชืยงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบุรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี


          ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนครนครพนม มุกดาหาร ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสรมา อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี


          ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด  เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล


          ภาคใต้ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


          ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สภาพน้ำท่า หากในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องอาจมีปริมาณน้ำสะสม ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และบริเวณชายฝั่งทะเล อาจเกิดสภาวะคลื่นลมแรงให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด


          อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายนนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังพัดแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปริมาณฝนสะสมอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งอาจมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่ม พื้นที่น้ำระบายช้า ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสภาพอากาศ น้ำท่า คลื่นลม เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ขณะที่คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร และบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


          ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code