อนุมัติ3มาตรการเข้มป้องกันไข้หวัดใหญ่09

เผยคนไทยตื่นกลัวหวัดนรกสูงถึง 40%

 

          “อภิสิทธิ์” อนุมัติ 3 มาตรการป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 พร้อมตั้งหน่วยเชิงรุก-เชิงวิชาการ สนับสนุนทุกหน่วยงานในการแก้ปัญหา แพทย์เผยผลสำรวจคนไทยตื่นกลัวหวัดนรกสูงถึง 40% 

 อนุมัติ3มาตรการเข้มป้องกันไข้หวัดใหญ่09

        “มาร์ค” อนุมัติ 3 มาตรการกันไข้หวัด

 

          ทั้งนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. โดยมีการพิจารณาวาระเร่งด่วน เรื่องการป้องกันการแพร่ ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 จากนั้น นพ.วิชัย โชค-วิวัฒน์ รองประธาน สสส. แถลงว่าที่ประชุมได้พิจารณา เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประชาชนยังขาดความเข้าใจ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการที่สำคัญ 3 มาตรการ ดังนี้ 1. จัดระบบให้คำแนะนำ บริการรองรับและส่งต่อผู้ป่วยที่ชัดเจน เพื่อสามารถคัดแยกผู้ป่วยแต่ละประเภทออกจากกัน เช่น ผู้เริ่มต้นป่วยมีอาการไข้หวัดควรปฏิบัติอย่างไร ควรพบแพทย์เมื่อใด ลักษณะใดที่ต้องได้รับยาต้านไวรัส

 

          เปิดสายด่วน 1422 ให้ความรู้ ปชช.

 

          นพ.วิชัยกล่าวว่า มาตรการที่ 2. การสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ที่ต้องทำเร่งด่วนคือการจัดระบบโทร-ศัพท์สายด่วน 1422 ให้ประชาชนรับรู้แนวทางป้องกันและการขอรับคำปรึกษา และมาตรการที่ 3. วางมาตรการควบคุมโรคอย่างเป็นระบบและให้เป็นรูปธรรมที่รวดเร็ว รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของวัคซีนป้องกันโรคให้ เพียงพอ นอกจากนี้ นายกฯยังได้สั่งการให้ สสส.รณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังตั้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกันการแพร่ ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยมี นพ.มงคล ณ สงขลา เป็นประธาน ซึ่งถือเป็นหน่วยงานเชิงรุกที่มีความเชี่ยวชาญทางวิชาการ ที่มาจากหน่วยงานหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม

 

          ระบุคนไทยตื่นตระหนกมากขึ้น

 

          นอกจากนี้ ในที่ประชุมตัวแทนแพทย์ทางด้านจิตเวช ยังได้รายงานที่ประชุมคณะกรรมการ สสส. ด้วยว่ามีผลสำรวจเรื่องการตื่นตระหนกของประชาชนไทยต่อไข้หวัด 2009 พบว่าในช่วงต้นประชาชนตื่นตระหนก 20% ต่อมาก็เพิ่มมากขึ้นเป็น 30% จนกระทั่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ความตื่นตระหนกเพิ่มเป็น 40% และครั้งหลังสุดตัวเลขยังคงอยู่ที่ 40% ซึ่งแม้ว่าตัวเลขจะคงที่แต่อยู่ในระดับที่สูงอยู่ ถือว่าประชานตื่นกลัวกันอยู่มากพอสมควร แต่เมื่อได้เรียนรู้และปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามหลักจิตวิทยาแล้วก็จะตื่นตกใจน้อยลง

 

          สาธารณสุขจัดยุทธศาสตร์สู้ภัยโรค

 

          ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวการจัดประกวดการออกแบบหน้ากากอนามัย ใส่ใจสุขภาพ ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมป้องกันโรค ได้คาดการณ์ การแพร่ระบาด จะขยายตัวไปทั่วประเทศและอาจยาวนาน ถึง 2 ปี กระทรวงสาธารณสุขจัดยุทธศาสตร์สู้ภัยโรค โดย รณรงค์ให้คนไทยใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันตัวเองเมื่อต้องอยู่ในที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เนื่องจากข้อมูลองค์การอนามัยโลกพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยกรองเชื้อโรค ลดการแพร่กระจายเชื้อโรคที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย จากการไอ จาม ไปสู่คนอื่นได้ถึงร้อยละ 90 และการล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลัง การไอ จาม หรือสัมผัสน้ำมูก จะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี หากทำควบคู่ไปทั้ง 2 วิธีนี้ จะช่วยให้คนไทยส่วนใหญ่ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ฯได้ สำหรับหน้ากากอนามัยมีให้เลือกใช้ได้ 2 ชนิด คือ ชนิดใช้แล้วทิ้งทำจากกระดาษ และชนิดทำจากผ้า ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่แตกต่างกัน แต่สามารถซักทำความสะอาดและนำมาใช้ได้อีกหลายครั้ง กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่งเสริมการทำหน้ากากอนามัยใช้เองและเผยแพร่วิธีทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าให้กลุ่ม อสม.ที่มีเกือบ 1 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อนำไปขยายผลสู่ชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศ

 อนุมัติ3มาตรการเข้มป้องกันไข้หวัดใหญ่09

          จัดประกวดหน้ากากอนามัย

 

          ด้าน นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมได้จัดทำสื่อการสอนทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้า ที่ได้มาตรฐานด้วยตนเองและจัดส่งให้ อสม.ทุกจังหวัดแล้วและเพื่อสร้างกระแสตื่นตัวในเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ได้จัดประกวดการออกแบบหน้ากากอนามัย ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ขอรายละเอียดเพิ่มเติมที่กลุ่มรณรงค์ด้านสุขภาพ กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร. 0-2590-1612 ส่วนรายละเอียดการทำหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สามารถ ดูได้ที่ www.hss.moph.go.th และ www.thaihed.com สำหรับการทำเจลล้างมือแบบง่ายๆ มีสูตรและส่วนประกอบการทำดังนี้คือ กลีเซอรีน แอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้ล้างแผลและน้ำมันหอมระเหยกลุ่มต่างๆตามชอบหากต้องการเจลขนาด 1,000 ซีซี จะใช้กลีเซอรีน 10 ซีซี หรือขนาด 2 ช้อนชา แอลกอฮอล์ 990 ซีซี คนให้เข้ากัน เทบรรจุในภาชนะที่มีอยู่เช่น ขวดใส่แชมพูสระผมที่หมดแล้ว ปิดฝาให้สนิท การเก็บควรให้ห่างจากเปลวไฟ เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถระเหยและติดไฟได้

  

          “เสธ.หนั่น” รับหวัด 09 คุมไม่ได้แล้ว

 

          ขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีโพลสำรวจออกมา 80% ไม่เชื่อมั่นกับมาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้องทำเต็มที่แล้ว โรคนี้หากมีการระบาดของคนสู่คนแล้วมันหยุดยั้งไม่ได้แล้ว เพียงแต่เราต้องมาหาวิธีว่าจะป้องกันและรักษาอย่างไรเท่านั้น เราไม่สามารถหยุดยั้งได้ ทำได้เพียงการเฝ้าระวัง การติดต่อกันสามารถติดกันได้อยู่แล้ว ที่สำคัญเมื่อเป็นแล้วควรอยู่บ้าน ต้องป้องกันและรักษาตัวเอง เป็นแบบนี้ทุกประเทศ แต่ต่างประเทศก็ไม่ได้ตื่นเต้นแล้ว เพราะถือว่าเป็นโรคระบาด ก็ต้องหาวัคซีนรักษาให้เร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่าการไม่สามารถหยุดยั้ง หรือป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ จะทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลหรือไม่ พล.ต. สนั่นกล่าวว่า การระบาดของโรคนี้จะไปโทษนักการเมืองคงไม่ได้ ก็พยายามทำกันอย่างถึงที่สุดแล้ว ถือว่าเราก็เป็นช้ากว่าที่อื่นแล้ว แต่พอเกิดระบาดคนสู่คนก็จบแล้ว

 

          แจกน้ำสมุนไพรคาวตองยับยั้งหวัด

 

          นพ.สมศักดิ์ วรคามิน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิคาวตอง ทองเนื้องามเพื่อสังคม เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ ซึ่งมีสมุนไพรคาวตอง สูตรทองเนื้องาม จะแจกจ่ายน้ำสมุนไพรคาวตอง สูตรทองเนื้องามให้กับประชาชน โดยน้ำสมุนไพรดังกล่าว มีการรวมสมุนไพรอีกหลายตัวเข้าด้วยกัน โดยตัวหนึ่งที่สำคัญคือ ปัญจขันท์ หรือเจียวกู่หลาน และคาวตอง มีคุณสมบัติยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้อย่างดีมาก ซึ่งยาแผนปัจจุบัน เช่น โอซาทรามิเวียร์ หรือทามิฟลู ก็มีคุณสมบัติในลักษณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอความอนุเคราะห์ ให้ติดต่อสถานพยาบาลของรัฐ เพื่อมีหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปที่มูลนิธิคาวตองทองเนื้องามเพื่อสังคม โทร.08-2450-2964-9 ซึ่งมูลนิธิขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาให้ความอนุเคราะห์

 

          รณรงค์สู้โรคแจกหน้ากากอนามัย

 

          ที่ศูนย์การค้า เอ็นมาร์ค พลาซ่า ถนนลาดพร้าว นายประเสริฐ ทองนุ่น ผอ.เขตบาง กะปิ นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันรณรงค์ใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยการแจกหน้ากากอนามัยจำนวน 400 ชิ้น ที่บริเวณแยกแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ กทม. ทั้งนี้ ในการรณรงค์ได้มีการนำหน้ากากอนามัยที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 2 เมตรมาจัดแสดงด้วย

 

          สภาคองเกรสอนุมัติงบสู้หวัด 2009

 

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์แพร่ระบาด ของไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อ 17 ก.ค. ว่า ทางการซูดานในทวีปแอฟริกายืนยันพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก เป็นชาวซูดานที่เดินทางกลับจากอังกฤษ ส่วนบราซิลพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 ราย รวมเป็น 11 ราย ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ส่งจดหมายถึงสภาคองเกรส ระบุว่า ได้ จัดสรรงบประมาณ 1,825 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 63,875 ล้านบาท) เพื่อเป็นงบฉุกเฉินต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมทั้งนำไปซื้อส่วนผสมวัคซีน ช่วยเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในการวางแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชน และผลักดันให้องค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) อนุมัติการจัดซื้อวัคซีนงบฉุกเฉินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบฯ 7,650 ล้านดอลลาร์ ที่สภาคองเกรส อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข และบริการมนุษย์เพื่อใช้ต่อสู้ไข้หวัดใหญ่ 2009

 อนุมัติ3มาตรการเข้มป้องกันไข้หวัดใหญ่09

          โพลอเมริกันชี้จะระบาดหนักหนาวนี้

 

          ส่วนโพลของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ระบุว่า ชาวอเมริกันถึง 60 เปอร์เซ็นต์คิดว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแพร่ระบาดอย่างหนักและทำให้ชาวอเมริกันป่วยอย่างรุนแรงในฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวที่จะถึงนี้ และ 25 เปอร์เซ็นต์คิดว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 จะทำให้พวกตนสูญเสียหน้าที่การงานที่ทำอยู่ ด้าน “แบ็กซ์เตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินช์” บริษัทเวชภัณฑ์ผู้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เพียงรายเดียวในสหรัฐฯ แถลงว่า จะไม่รับใบสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก หลังรับใบสั่งซื้อจาก 5 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แล้ว 80 ล้านโดส จนเต็มกำลังการผลิต ก่อน หน้านี้ รัฐบาลของอย่างน้อย 50 ประเทศทั่วโลก ก็สั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทผลิตยารายใหญ่อื่นๆ จนหวั่นกันว่าจะเกิดการแย่งชิงวัคซีนที่มีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะประเทศยากจนยากจะเข้าถึงวัคซีนได้

 

          เผยระบาดรวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

          ก่อนหน้านี้เมื่อคืน 16 ก.ค. องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 แพร่ระบาดไปทั่วโลก ด้วยอัตราที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยในอดีตไข้หวัดใหญ่ อื่นๆ จะใช้เวลากว่า 6 เดือน ถึงจะแพร่ระบาดได้อย่างกว้างขวางเท่ากับไข้หวัดใหญ่ 2009 ในขณะนี้ ซึ่งใช้เวลาแพร่ระบาดไม่ถึง 6 สัปดาห์ ขณะนี้แทบเป็นไปไม่ได้และไม่มีประโยชน์ ที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและห้องทดลองจะไปนับจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นรายๆ เพราะนับไม่หวาดไม่ไหว และต้องใช้ทรัพยากรต่างๆ มากมาย จนอาจไปลดความสามารถในการติดตามและช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง WHO ยังเผยว่า นับจากนี้ไปจะยุติการแถลงยอดผู้เสียชีวิต และติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในแต่ละประเทศ ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 429 ราย ติดเชื้อ 94,512 ราย แต่จะรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ในประเทศที่พบการแพร่ระบาดใหม่แทน

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 18 กรกฎาคม 2552

 

 

Update 20-07-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

 

Shares:
QR Code :
QR Code