สร้าง ‘ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน’
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ผู้พิการทางสายตาร่วมปั่นจักรยานจาก กทม.-เชียงใหม่สร้าง'ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน'
"มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ" ร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการซีพีสานฝันปันโอกาส โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์ และธนาคารกรุงเทพ เป็น เจ้าภาพในการจัดทำโครงการ ภายใต้ชื่อว่า "โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No One Left Behind" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ผู้พิการทางสายตา จะได้ปั่นจักรยานพิชิตเส้นทาง 9 วัน 9 จังหวัด รวมระยะทาง 867 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาทุนสนับสนุนการจัดสร้าง "ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน"…เอ๊ะ เขาจะทำอย่างไร เมื่อผู้พิการทางสายตาต้องปั่นจักรยานไปไกลแสนไกลขนาดนั้น
นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้แกนนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้วางแผนการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ 20 ปี ไว้ว่าประเทศไทยต้องเป็นประเทศที่พัฒนา และไม่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง ซึ่งกลุ่มผู้พิการก็เป็นหนึ่งกลุ่มคนสำคัญ ที่ควรได้รับเกียรติ และโอกาส โดยปัจจุบันมีผู้พิการในประเทศไทย กว่า 1 ล้าน 8 แสนคน ซึ่งมีผู้ที่ไม่มีงานทำ ขาดโอกาสในการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆ เกือบ 6 แสนคน เมื่อรัฐบาลมีนโยบาย ในการช่วยเหลือให้ผู้พิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่เป็นภาระของครอบครัวและสังคม จึงมีการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ผ่านกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นการพัฒนาขีดความสามารถ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ ผู้พิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ การจะขับเคลื่อนงานของกระทรวง ทบวง กรม ให้สำเร็จจะต้องขับเคลื่อนงานภายใต้การบูรณาการ ด้วยการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม หรือที่เรียกกันว่ารูปแบบประชารัฐดังเช่นงานนี้
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการว่า สสส. มีหน้าที่หลัก ในการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริม สุขภาพเพื่อให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ซึ่งกลุ่ม ผู้พิการ ก็เป็นประชากรกลุ่มเฉพาะอีกหนึ่ง กลุ่มที่ สสส. ให้ความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งปัญหาสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ คือเรื่องของ "เจตคติ" ที่คนในสังคมมองไปยังผู้พิการว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถ เป็นภาระ แต่แท้จริงแล้วผู้พิการเป็นคนที่มีความสามารถ และมีศักยภาพในหลายๆ ด้าน ขอเพียงแค่เราทุกคนยอมเปิดพื้นที่และให้โอกาสพวกเขาได้แสดงมันออกมา โดยโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน เป็นเพียงกิจกรรมส่วนหนึ่ง ที่ สสส. เข้ามาร่วมสนับสนุนเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วยังมีอีกหลายโครงการ หลายภารกิจกิจกรรมที่เราเข้าไปส่งเสริม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานที่เป็นรูปธรรมและเห็นผลมากยิ่งขึ้น
โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องาน ที่พ่อทำ No One Left Behind เป็นโครงการที่รวบรวมเงินสมทบที่ได้จากการดำเนินกิจกรรมมาจัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ 33 ไร่ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนที่ขยายให้เพียงพอต่อการรองรับผู้พิการให้เข้าถึงโอกาสได้มากขึ้น เพราะมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมให้ผู้พิการได้รับโอกาส พัฒนาความสามารถให้เต็มศักยภาพ เพื่อให้คนพิการทำงานและพึ่งพาตนเองได้ อีกทั้งยังมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญคือการสร้างการมีส่วนร่วมในสังคมเพื่อขจัดเจตคติที่มองว่าผู้พิการเป็นผู้ที่ไร้ความสามารถ หรือเป็นผู้ที่รอคอยความช่วยเหลือแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่คนไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ รวมพลังช่วยเหลือกลุ่มผู้พิการ เพื่อให้พวกเขาสามารถก้าวข้ามความยากจนให้มีอาชีพที่ยั่งยืน ผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้
ช่องทางที่ 1 : บริจาค 100 บาท ผ่านโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย กด*948*6666*100# แล้วโทร.ออก
ช่องทางที่ 2 : พิมพ์ Y100 แล้วส่ง SMS ไปที่หมายเลข 4899666 แล้วกดโทร.ออก เพื่อบริจาค 100 บาท สำหรับทุกเครือข่าย
ช่องทางที่ 3 : โอนเงินเข้าบัญชี กระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ 162-3-07772-2, ธนาคารกรุงไทย 196-6-00208-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ 264-3-001530 ธนาคารกสิกรไทย 758-1-01398-6 ธนาคารกรุงศรี 494-0-00140-9 ชื่อบัญชีมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และร่วมสมทบทุนซื้อของที่ระลึก (เสื้อ) จากโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ตามจุดกิจกรรมต่างๆ หรือ Facebook ของมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ
ช่องทางที่ 4 : บริจาค 100 TruePoint แทนเงิน 10 บาท ผ่านแอพฯ ทรูยู หรือกด *878*2828# โทร.ออก (ฟรีเฉพาะเครือข่าย ทรูมูฟเอชเท่านั้น)
ช่องทางที่ 5 : ร่วมบริจาคผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ "ทรูมันนี่ วอลเล็ท" ได้ตลอด 24 ชม. (ดาวน์โหลดแอพฯฟรีทาง App Store และ Play Store)
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีง่ายๆ แล้ว นะคะ คุณขา