วัยรุ่นยุคใหม่ไม่เลือกปรึกษาเรื่องเพศกับพ่อแม่

โครงการวิจัยวัยรุ่นยุคใหม่ฯ สำรวจพบ วัยรุ่นร้อยละ 90 เลือกพูด คุย ปรึกษา เรื่องเพศกับเพื่อนวัยเดียวกัน โดยที่หันไปปรึกษาพ่อแม่ เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น

นายอนันต์ แย้มสมัย ผู้ใหญ่บ้านหนองแข้ ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวในเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเพศคุยง่าย คุยได้ในครอบครัว ในงาน “สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า โครงการวิจัยวัยรุ่นยุคใหม่ สดใส ปลอดภัยใส่ใจคุมกำเนิด ได้สำรวจเชิงคุณภาพและปริมาณเกี่ยวกับทัศนคติและความกล้าต่อการปรึกษา พูดคุยเรื่องเพศในปี 2554 โดยสุ่มกรณีศึกษาวัยรุ่นอายุ 14-20 ปี 100 ตัวอย่าง ใน 4 หมู่บ้าน ของ ต.จุมจัง พบว่า วัยรุ่นร้อยละ 90 เลือกพูด คุย ปรึกษา เรื่องเพศกับเพื่อนวัยเดียวกัน ปรึกษาพ่อแม่ ร้อยละ 10 และปรึกษาครู ร้อยละ 0.8 ขณะที่วัยรุ่นที่มีปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเลือกปรึกษาเพื่อนเพื่อสอบถามเรื่องการทำแท้ง

นายอนันต์กล่าวต่อว่า พบว่าเด็กไม่กล้าปรึกษาเรื่องเพศกับครอบครัว เพราะผู้ใหญ่มองว่าเรื่องเพศสกปรก และการพูดถึงถุงยางอนามัยคือเรื่องน่ารังเกียจ ซึ่งเป็นทัศนคติเชิงลบ จึงนำไปสู่ปัญหาท้องไม่พร้อมและการทำแท้งในวัยรุ่นมากขึ้น ที่น่าตกใจคือ การสำรวจแบบสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่าวัยรุ่นร้อยละ 50 เคยมีเพศสัมพันธ์และคิดว่าการทำแท้งเมื่อท้องไม่พร้อมเป็นเรื่องธรรมดา หลายคนจึงไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัยและไม่ใช้ยาคุมกำเนิด แม้จะผ่านการเรียนสุขศึกษา และรู้ว่าการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนไม่เหมาะสม

ผศ.พญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานสร้างกลไกการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา(กพย.) กล่าวว่า การให้คำปรึกษาเรื่องเพศศึกษาอย่างตรงไปตรงมาในครอบครัวจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่ สิ่งที่น่ากังวลในปัจจุบันคือ วัยรุ่นหญิงมักเข้าใจผิดว่าต้องกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่ข้อเท็จจริงไม่สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นยาที่ใช้เฉพาะเหตุจำเป็น เช่น การข่มขืน ถุงยางแตก ซึ่งไม่ควรกินเกินเดือนละ 2 กล่อง และไม่สามารถคุมกำเนิดระยะยาวได้

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code