“ล้านนาฮอมสุข มัดปุ๊กสุขภาวะ” สานพลังชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ สู่ชุมชนที่ยั่งยืน
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
สสส.-ทต.แม่ข่า-ทต.ทุ่งหัวช้าง สานพลัง 30 ชุมชนภาคเหนือ สร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ “ล้านนาฮอมสุข มัดปุ๊กสุขภาวะ” ถอดบทเรียน 4 องค์กร ปัจจัยสู่ความสำเร็จ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ-จัดการสภาพแวดล้อม-ดูแลเด็กปฐมวัย-จัดการปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ พร้อมต่อยอดขยายผลในพื้นที่อย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 ที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติคุ้มคำเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เทศบาลตำบลแม่ข่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และเทศบาลตำบลทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือ เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จัดเวที “ล้านนาฮอมสุข มัดปุ๊กสุขภาวะ สานพลังชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่” มัดปุ๊กคือการ มัดรวมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสรุปบทเรียนการสร้างสุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืนด้วยทุนทางสังคม นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน พื้นที่ภาคเหนือ สสส. กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 30 แห่ง จาก 1,264 แห่ง มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน ร่วมสานพลังเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่พื้นที่ภาคเหนือ ร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ปฏิบัติการสุขภาวะชุมชนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น และขยายผลแนวคิด กำหนดทิศทางจัดการสุขภาวะชุมชนในระดับเครือข่ายให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน
“เทศบาลตำบลแม่ข่า และเทศบาลตำบลทุ่งหัวช้าง รวมทั้งเครือข่าย เป็นต้นแบบที่มีรูปธรรมความสำเร็จจากการดำเนินงานที่ชัดเจน ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานสุขภาวะชุมชนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ คือ การมี 4 องค์กรหลัก ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), ท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, องค์กรชุมชน เช่น กลุ่มสตรี ชมรมผู้สูงอายุ อสม., หน่วยงานรัฐในพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมทั้งองค์กรศาสนา และเน้นย้ำบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นที่เข้มแข็งใน 4 ข้อ คือ 1. ต้องทำงานร่วมกันได้ โดย “แสวงจุดร่วม…สงวนจุดต่าง” 2. ทุกองค์กรต้องทำภารกิจตนเองให้หนุนเสริมหน่วยงานอื่นจะทำให้เกิดการบูรณาการที่ไม่ใช่ทำงานแค่เสร็จ แต่ทำให้สำเร็จ 3. องค์กรภาคประชาชนต้องรวมตัวเป็นเครือข่ายและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน 4. ท้องถิ่นต้องดูแลประชากรทุกกลุ่มวัย และหนุนเสริมการทำงานแบบมีส่วนร่วมให้ได้” นายสืบศักดิ์ กล่าว
นายสืบศักดิ์ กล่าวต่อว่า โจทย์สำคัญที่อยากฝากให้กับผู้นำชุมชนท้องถิ่นที่เข้าร่วมเวทีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมกันสรุปบทเรียนการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งการพัฒนาระบบการจัดการพื้นที่ และการพัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาวะชุมชน 4 เรื่อง คือ 1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 2. การจัดการสภาพแวดล้อมของชุมชน 3. การดูแลเด็กปฐมวัย และ 4. การจัดการปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพโดยชุมชนท้องถิ่น ให้ครอบคลุม 2 ประเด็นหลัก คือ 1. ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการพัฒนา และ 2. ทิศทาง/แนวทางสู่การต่อยอดในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป