รวมพลเยาวชนอาสา ร้อง เล่น เต้น รำ สานสัมพันธ์ 3 ชุมชน
สสส. จับมือคณะละครอัศวินสัญจร ใช้กระบวนการศิลปะบูรณการรวมพลังเยาวชนคนอาสามาร้อง เล่น เต้น รำ คิด ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ผ่านเด็กและเยาวชน สร้างงาน สานความสัมพันธ์ 3 ชุมชนเป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดการมีส่วนร่วมระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ นำไปสู่การเป็นชุมชนเข้มแข็งห่างไกลปัญหาสังคม
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กลุ่มงานสื่อศิลปวัฒนธรรมชุมชนเชิงบูรณาการ โดยแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อสื่อศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะละครอัศวินสัญจร จัดงานรวมพลเยาวชนคนอาสาขึ้น ระหว่างชุมชนบ้านมั่นคง ชุมชนบ้านเอื้ออาทร ชุมชนหน้าสมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ และพื้นที่ในซอยงามดูพลี เพื่อหวังสานสัมพันธ์ทั้ง 3 ชุมชนเข้าด้วยกัน ด้วยชื่องานที่ว่า “งามดูพลี” สานสัมพันธ์ 3 ชุมชน ผ่านงานศิลปวัฒนธรรมเชิงบูรณาการ
โดย นายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกฯ สสส. กล่าวว่า จากการได้ศึกษาสภาพปัญหาและลักษณะของชุมชนซอยงามดูพลี กรุงเทพมหานคร ของคณะละครอัศวินสัญจร ร่วมกับองค์กรบางกอกฟอรั่ม ที่ได้รับทุนในการเตรียมชุมชนและพัฒนาพื้นที่นี้สำหรับการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ของ สสส.ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะเป็นชุมชนเสริมสร้างสุขภาวะและเป็นแกนนำสำหรับการทำกิจกรรม พบว่าในเขตพื้นที่ชุมชนซอยงามดูพลี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่แออัด เป็นที่อยู่อาศัยและตั้งรกรากของประชากรที่มีความหลากหลาย ทั้งสภาพสังคม เศรษฐกิจ อาชีพ และแหล่งที่มาของถิ่นฐาน ประกอบกับสภาพที่อยู่อาศัยในชุมชนเป็น ลักษณะชุมชนแออัด ที่เป็นจุดรวมของปัญหาสารพัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาวะองค์รวม ปัญหายาเสพติด ปัญหาที่อยู่อาศัย และปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องเพลี่ยงพล้ำและเดินทางผิดเพราะต้องเอาตัวรอดจากปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัว หรือเพราะสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่นั้นเป็นแหล่งชุมนุมของต้นตอปัญหา จึงทำให้เยาวชนต้องเผชิญกับปัจจัยที่ยากต่อการหลีกเลี่ยง
“การเปิดพื้นที่ เปิดเวทีให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ได้คิด ทำ แสดงออกร่วมกันผ่านกระบวนการจากศิลปินในเครือข่ายละครสำหรับเยาวชน นำโดย อาจารย์รัศมี เผ่าเหลืองทอง, นางสาวสุมณฑา สวนผลรัตน์ และนายเจริญพงศ์ ชูเลิศ ด้วยศิลปะละครเวที หนังสั้น วิทยุชุมชน สื่อร่วมสมัยอย่าง เช่น รำกลองยาว พื้นเพดั้งเดิมของคนในชุมชน หรืองานนิทรรศการต่างๆ ที่เน้นการทำงานแบบจิตอาสาเป็นหลัก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันในด้านศิลปวัฒนธรรมชุมชนเชิงบูรณาการ ที่สำคัญการแสดงศิลปะเด็กนั้นยังเป็นการสะสมผลงานให้เด็กเยาวชนในชุมชนด้วยอีกทาง นอกจากเป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างชุมชนแล้ว ยังมีการหนุนเสริมกิจกรรมจากฟิลิปมายากลที่จะมาสอนให้เด็กและเยาวชนในชุมชนเล่นมายากลเป็น และสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคตได้” นายดนัย หวังบุญชัย กล่าว
ทั้งนี้ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกฯ สสส. ยังกล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดี ที่จะทำให้เยาวชนและผู้ใหญ่ในชุมชนหันมาสนใจกิจกรรมในเชิงสร้างเสริมสุขภาพ ในเรื่องของจิตปัญญา และทำกิจกรรมได้หลากหลายอย่างต่อเนื่องร่วมกันเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนรวมทั้งผู้ชมด้วยไปในตัว ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันทางด้านความคิดและปัญญา ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนที่จะทำเด็กเยาวชนมีทางเลือกในการประกอบอาชีพและพื้นที่สร้างสรรค์ ไม่ไปมัวเมากับอบายมุขต่างๆ หากมีการสนับสนุนให้กิจกรรมแบบนี้ได้จัดอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าปัญหาต่างๆ ก็จะลดลงได้ ด้าน สสส. เองก็ยินดีที่จะสนับสนุน
ด้านนายเจริญพงศ์ ชูเลิศ ตัวแทนจากคณะละครอัศวินสัญจร กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กในพื้นที่ได้แสดงออกด้วยการรวมพล เยาวชนคนอาสา จึงได้มีเยาวชนในพื้นที่มาร่วมเรียนรู้และอาสาถ่ายทอดความรู้ที่ได้ผ่านกิจกรรมมากมาย ที่มีทั้งการแสดงดนตรีไทย จากเยาวชนบ้านมั่นคง, การรำกลองยาวจากชุมชนบ้านเอื้ออาทรสวนพลู, การฟ้อนรำของเยาวชนบ้านเอื้ออาทร, การแสดงมายากลจากอาจารย์ฟิลิปและทีมงาน, การแสดงเต้นประกอบเพลง จากเยาวชนชุมชนบ้านมั่นคงสวนพลู และเยาวชนชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์, การเล่นดนตรีจากกลุ่มเยาวชนเกสรลำพู, การเล่นดนตรีของวงเบลอๆ จากเยาวชนบ้านเอื้ออาทรสวนพลู, การโยนบอล ควงโซ่, การแสดงละครใบ้, การแสดงเพลงลูกหมูไม่ใส่รองเท้าจากเด็กๆ, การแสดงละครหุ่นเรื่อง “เจ้านกกระจาบ”, การแสดงเครื่องเคาะ (เพอร์คัสชั่น) จากกลุ่มเยาวชนจอมทอง, การแสดงเต้นบีบอย จากเยาวชน 3 ชุมชน, ดนตรี วงสโตน จากเยาวชนชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์, การแสดงละครเวทีเรื่อง “ขอแรงหน่อยเถอะ” และกิจกรรมจิตอาสาชวนดูแลความสะอาดให้พื้นที่
“นอกจากนี้ยังมีการเปิดซุ้มกิจกรรมถึง 4 โซน ด้วยกันอาทิ โซนที่ 1 ส่วนกลาง เป็นซุ้มอ่านหนังสือ, ซุ้มวาดรูปศิลปะ, ซุ้มภาพพิมพ์, ซุ้มขายของภาพพิมพ์ เสื้อพิมพ์ และซุ้มหนังสั้น โซนที่ 2 เพื่อนเครือข่ายจิตอาสา เป็นการสอนทำเข็มกลัดจากกลุ่มเยาวชนเกสรลำพู, การสอนเครื่องเคาะจากกลุ่มเยาวชนจอมทอง และปั้นแป้ง เล่นฟองน้ำ ส่วนโซนที่ 3 ภูมิปัญญารุ่นต่อรุ่น มีการสอนทำแป้งโรตีสายไหม, การสอนทำกระเป๋าผ้าเย็บมือ, การสอนทำเกลือสปา, การสอนทำปลาตะเพียนทางมะพร้าว, การสอนตีกลองยาว และการสอนถักไหมพรม ส่วนโซนที่ 4 เป็นตลาดร้านค้า มีทั้งตลาดนัดน้ำใจขายของราคาถูก, ร้านขายอาหารแต่ละชุมชน และสินค้าของแต่ละชุมชน ซึ่งนี่นอกจากจะเป็นการทำให้เยาวชนได้นำความสามารถที่มีมาถ่ายทอดแล้วยังเป็นการสร้างงานสร้างทางเลือกใหม่ให้คนในชุมชนได้มีช่องทางในการทำมาหากินเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งนี่จะนำไปสู่การเกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็งในอนาคตได้” นายเจริญพงศ์ ชูเลิศ กล่าว
งาน “งามดูพลี” สานสัมพันธ์ 3 ชุมชน ผ่านงานศิลปวัฒนธรรมเชิงบูรณาการ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นอกจากจะเป็นทางเลือก เป็นแนวทางในการป้องกันแก้ไขปัญหาพื้นฐานในพื้นที่ชุมชนแล้ว ยังทำให้เยาวชนและชุมชนค้นพบศักยภาพของตนผ่านกระบวนการศิลปะบูรณการ นำไปสู่การสร้างงานและความสัมพันธ์อันดีร่วมกันของคนในชุมชนได้อีกด้วย
ที่มา: แผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อสื่อศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์
