มือป่วยได้ ถ้าใช้มากเกินไป

ที่มา : หนังสือมือป่วยได้ ถ้าใช้มากเกิน โดยศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


มือป่วยได้ ถ้าใช้มากเกินไป thaihealth


แฟ้มภาพ


มือ เป็นอวัยวะที่เราใช้งานเกือบตลอดเวลาและทั้งชีวิต ไม่ว่าเราจะทําาอะไรก็มักมีมือเป็นองค์ประกอบร่วมเสมอ ซึ่งการใช้งานมือด้วยลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันไปบางท่านั้น อาจเป็นปัจจัยที่ทําาให้เราเกิดอาการเคล็ด ติดขัด ตึง ปวดมือจนนําาไปสู่โรคทางมือ


เริ่มแรกลองสังเกตกันดูว่า.. คุณกําลังมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า มือชา ปวดมือ ข้อนิ้วเคล็ด นิ้วเหยียดไม่สุด!  ถ้าใช่ มือของคุณอาจกําาลังเสี่ยงกับการเป็น…


โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนที่ข้อมือ


      หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันว่า โรคเส้นประสาทข้อมือถูกกดทับ หรือโรคพังผืดข้อมือ เกิดจากการใช้งานข้อมือซ้ำๆ หรือกระดกข้อมือค้างไว้นานๆ ทําให้เกิดความดันในช่องกระดูกหรืออุโมงค์ข้อมือเพิ่มขึ้น ซึ่งผนังตรงช่องกระดูกข้อมือคือ พังผืด เมื่อเส้นประสาทมีเดียนที่วิ่งผ่านช่องกระดูกข้อมือถูกกดทับ ทําให้ขาดเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทจะบวมและถูกทําลาย เกิดการหนาตัวของพังผืด ระยะแรกจะมีอาการชาที่ปลายนิ้ว และระยะต่อมาจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง


ลักษณะอาการ


                รู้สึกชาหรือปวดที่บริเวณนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง บางขณะอาจปวดร้าวไปที่ท่อนแขน และมักเป็นตอนกลางคืนขณะหลับ บางครั้งปวดจนต้องตื่นขึ้นกลางดึก หรือมีอาการตอนเช้าหลังตื่นนอน พอได้ขยับมือจะเริ่มอาการดีขึ้น ถ้ามีอาการเรื้อรังเป็นเวลานานจะทําาให้กล้ามเนื้อบริเวณนิ้วหัวแม่มืออ่อนแรง จนการใช้งานของมือลดลง


ใครสามารถเป็นโรคนี้ได้บ้าง


                ทุกคนที่มีการทํางานที่ต้องเคลื่อนไหวข้อมือซ้ำๆ เช่น การจับเมาส์ท่าเดิมนานๆ เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตตลอดเวลา จับกรรไกร หรือการทําางานบ้าน เข้าครัว ทําสวน เช่น การจับไม้กวาด จับมีด ร่วมกับการเกร็งข้อมือขณะกําสิ่งของจะทําให้เกิดภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทได้มากขึ้น


เคยประสบอุบัติเหตุกระดูกหักบริเวณข้อมือ


คนที่มีอาการข้อมือเสื่อม


คนเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือไทรอยด์ เป็นต้น


ผู้ที่มีภาวะอ้วน


เพศหญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าเพศชาย


ท่านอนก็สามารถทําให้เป็นโรคพังพืดข้อมือได้


– การที่ข้อมือเราอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะตอนใช้งานหรือไม่ได้ใช้งาน เช่น เวลานอนหลับมีการกระดกข้อมือมากเกิน 32.7 องศา หรือกระดกข้อมือลงมากเกิน 48.6 องศา เป็นเวลานานเกิน 2 ชั่วโมง ทําให้เส้นประสาทมีเดียนถูกกดทับมากขึ้น


– การนอนตะแคงมีผลกับการเกิดโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนในข้างนั้นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะการนอนตะแคงจะทําให้ข้อมืองอหรือเอียงมากกว่าปกติ ไปเพิ่มความดันในช่องข้อมือที่เส้นประสาทมากขึ้น


 


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code