ช่วยป้องกันครอบครัวจากโรคเบาหวาน
ที่มา : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
แฟ้มภาพ
14 พฤศจิกายน วันเบาหวานโลก คุณช่วยป้องกันครอบครัวจาก “โรคเบาหวาน” ได้
วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันเบาหวานโลก ในประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการตรวจตั้งแต่ระยะแรก จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในร่างกาย ทั้งต่อหัวใจ หลอดเลือด ตา และเส้นประสาท อาจทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ในปี 2562 นี้ กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ได้กำหนดประเด็นในการรณรงค์ว่า “คุณป้องกันครอบครัวจากโรคเบาหวานได้” “DIABETES: PROTECT YOUR FAMILY” เนื่องจากสมาชิกในครอบครัว เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการควบคุม และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วยเบาหวานได้
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึง โรคเบาหวานว่า ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ได้แก่
-ปัสสาวะบ่อยและมาก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงเกินขีดจำกัดของไต ทำให้น้ำตาลถูกขับออกทางปัสสาวะและดึงน้ำออกมา ผู้ป่วยเบาหวานจึงปัสสาวะบ่อย และนาน
-คอแห้ง กระหายน้ำ เมื่อร่างกายเสียน้ำเพราะปัสสาวะบ่อย ทำให้กระหายน้ำ ผู้ป่วยเบาหวานจึงดื่มน้ำมาก
-หิวบ่อย กินจุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงมีการสลายเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ มาใช้เป็นพลังงาน ทำให้หิวบ่อย รับประมานอาหารมาก
-น้ำหนักลด เนื่องจากต้องสลายไขมัน และโปรตีนที่สะสมไว้เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนกลูโคส ทำให้สูญเสียเนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อฝ่อ ลีบ น้ำหนักลดลง
-เป็นแผลง่ายและหายยาก เนื่องจากการสร้างโปรตีนลดลง ทำให้การสลายโปรตีนเพิ่มขึ้น การซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกิดขึ้นช้า อาจมีอาการเนื้อเน่าตามปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า เนื่องจากหลอดเลือดตีบตัน และปลายประสาทเสื่อม
-คันตามผิวหนัง เนื่องจากผิวแห้ง หรือเป็นเชื้อราบริเวณซอกอับของร่างกาย เช่น ขาหนีบ อวัยวะเพศ เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ
-ตามัว ชาตามปลายมือ ปลายเท้า และความรู้สึกทางเพศลดลง เนื่องจากความเสื่อมของปลายประสาท
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ กล่าวต่อไปว่า คนในครอบครัวเป็นส่วนสำคัญมากในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน เช่น การเตรียมอาหารให้ผู้ป่วยรับประทานโดยลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง ดูแลให้ผู้ป่วยกินยาต่อเนื่อง พาไปพบแพทย์ตามนัด สังเกตอาการผิดปกติ เช่น บาดแผลที่เท้า อาการน้ำตาลในเลือดต่ำ และทำกิจกรรมในครอบครัวเพื่อลดความเครียด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยดูแลตนเองได้ดีขึ้น