ชวนคนไทยทำความดี รวมพลังสามัคคีถวายแด่ “พ่อหลวง”


ทำความดี” คำง่ายๆ ที่ได้รับการสั่งสอนอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้เกิดขึ้นจริงการรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ในโครงการ “รวมพลังสามัคคี ทำดีเพื่อพ่อ” เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา


กิจกรรมถูกจัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยมีจุดเริ่มต้นจากการทำความดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ


การทำความดี หลายคนมักคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ทำเมื่อไหร่ก็ทำได้ จึงไม่ได้ลงมือทำเสียที ซึ่งทักษะการทำความดี เป็นสิ่งที่ควรสร้างเพื่อให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่ถาวร พร้อมที่จะทำดีในทุกสถานการณ์ กับทุกคน


การรวมตัวขององค์กรภาคเอกชนครั้งนี้ มี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นตัวกลางในการประสานให้เกิดความร่วมมือขึ้นระหว่างภาคส่วนต่างๆ ให้พนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งไม่ค่อยได้มีโอกาสในการทำกิจกรรมนอกสถานที่ ได้มีโอกาสรวมตัวและทำกิจกรรมร่วมกัน


เป้าหมายของโครงการฯ คือ การปลูกต้นไม้ให้ได้ 9 ล้านต้น และบริจาคโลหิต พร้อมทั้งรวบรวมรายชื่อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำรองในกรณีต้องการโลหิตเร่งด่วนอีก 1 ล้านคน


ในระหว่างปีนอกจากจะมีกิจกรรมใหญ่ประมาณ 2 ครั้ง คือ ในวันแรงงาน และช่วงเดือนธันวาคม ก็จะมีการนัดหมายกันไปปลูกต้นไม้ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ชุมชน หรือป่าชายเลน เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ รักษาและสร้างสำนึกในการดูแลโลกร่วมกัน


โดยการปลูกต้นไม้ครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2554 มีพนักงานบริษัทต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตาม แต่ทุกคนเดินทางมาทำกิจกรรมด้วยความเต็มใจ รวมทั้งพาครอบครัวเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นภาพแห่งความประทับใจอย่างยิ่ง โดยหลังจากทำกิจกรรมร่วมกัน ยังได้ทำความรู้จักแลกเปลี่ยน และเปิดโอกาสไปสู่การทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย


ประโยชน์ของการปลูกต้นไม้ นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลกที่มนุษย์จำเป็นต้องช่วยกันเร่งแก้ไขแล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกไปสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานอื่นๆ ทั้งการลดใช้ขยะ การช่วยกันประหยัดพลังงานด้วยการลดใช้ไฟอย่างสิ้นเปลือง ลดการใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลือง เป็นต้น การปลูกต้นไม้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่เรื่องอื่นๆ ในอนาคต


นายสัมฤทธิ์ สว่างคำ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพิจารณาทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เอเซียพรีฟิชั่น จำกัด (มหาชน)หนึ่งในผู้เข้าร่วมทำกิจกรรม เล่าถึงความรู้สึกว่า คนส่วนใหญ่ที่พูดถึงการทำความดี มักจะรู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะคนทำงาน ซึ่งมีโอกาสในการทำกิจกรรมนอกเหนือจากหน้าที่การงานก็มีน้อย การมีกิจกรรมที่เป็นศูนย์รวมคนจากกลุ่มต่างๆ จึงถือเป็นการสร้างจุดเริ่มต้นที่ดี


เมื่อคนมาทำความดีร่วมกัน บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสุข ความปีติ ก่อให้เกิดการพูดคุยกันแต่ในเรื่องที่ดีๆ ชวนกันทำในสิ่งที่ดีๆ ต่อเนื่องไป กลายเป็นการนัดหมายเพื่อทำความดีครั้งต่อๆ ไป โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจ การพูดคุยกันโดยไม่ต้องมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องทำให้เกิดความสบายใจของทุกฝ่าย และกลายเป็นสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกันขึ้น


“เชื่อว่ากิจกรรมทำความดี จะเป็นการบ่มเพาะนิสัย พฤติกรรมของทุกคน ให้กลายเป็นคนที่ทำความดีได้โดยไม่ต้องเขินอาย หรือ ลังเล ทุกครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรมจะรู้สึก มีความสุข ปีติ แม้ว่าจะต้องเหนื่อย ร้อน แต่ก็สามารถทำได้ด้วยความสนุก เพราะความสุขที่เกิดจากการทำความดีส่งพลังให้ และยังส่งผลต่อให้เกิดพลังในการทำงาน เพราะเมื่อเห็นคุณค่าในตนเอง ก็เกิดเป็นแรงผลักดันให้ตั้งใจทำงานและเห็นคุณค่าจากงานที่ได้ทำไป จึงเกิดเป็นความสุขในทุกวันที่ได้ทำ เชื่อว่า กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกจิตใจตนเองให้เกิดความสุข และพร้อมที่จะให้ผู้อื่นอยู่เสมอ”


แน่นอนว่าการทำความดี เป็นเรื่องง่ายๆ แค่เริ่มต้นลงมือทำ


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code