“งดเหล้า = ฝึกสติ” จุดเริ่มต้นของความสุขในทุกโอกาส

เรื่องโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจากงานแถลงข่าวโครงการฤดูกาลฝึกสติ และรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2568

ภาพโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th

                   …ในวันที่โลกหมุนเร็วกว่าใจ หลายคนเลือกหลบซ่อนความทุกข์ไว้กับ “แก้วเหล้า”  เป็นเครื่องพักใจโดยหารู้ไม่ว่า กำลังเผชิญความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดและสุขภาพกายใจที่ค่อย ๆ ร่วงโรยโดยไม่รู้ตัว แต่บางครั้งเพียงการ “หยุดดื่ม”ชั่วคราวอาจกลายเป็นประตูแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตและเป็นทางออกที่ทรงพลังที่สุด…

                   “เข้าพรรษา” จึงไม่ใช่เพียงเทศกาลทางศาสนา แต่เป็นช่วงเวลาทบทวนจิตใจ และ “การงดเหล้า” ไม่ใช่แค่เรื่องของการงดดื่ม…แต่คือการ “งดเว้น” เพื่อฝึกใจให้ตื่นรู้ ภายใต้แนวคิดใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น “มีสติ มีสุข ทุกโอกาส” เพราะในทุกการหยุดดื่ม…ซ่อนอยู่ด้วยพลังของ “สติ” และความกล้าที่จะเริ่มชีวิตใหม่อีกครั้ง

                   ปี 2568 โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้การขับเคลื่อนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ กลับมาอีกครั้งพร้อมแนวคิดร่วมสมัยและเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

                   “มีสติ มีสุข ทุกโอกาส” ไม่ใช่เพียงคำขวัญ แต่ คือ การชวนคนไทยกลับมาอยู่กับตัวเอง ด้วยเครื่องมือที่เราทุกคนมีอยู่แล้วนั่น คือ สติ

                   จากการงดดื่ม…สู่การเปลี่ยนชีวิต

                   นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวไว้อย่างมีพลังว่า  “การหยุดดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษา คือการทดลองใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่งที่หลายคนไม่เคยรู้ว่า…มันดีแค่ไหน

                   ข้อมูลจากการประเมินในปีที่ผ่านมา พบว่า คนไทยร่วมงดเหล้าเข้าพรรษากว่า 13.1 ล้านคน โดยในจำนวนนั้น 58% งดได้ตลอดพรรษา และที่น่าสนใจ คือ มากกว่าครึ่งมีความตั้งใจจะงดต่ออีกในปีนี้

                   ยิ่งไปกว่านั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน 48.6% มีสุขภาพดีขึ้น 40.5% ประหยัดเงินได้ 31.4% รู้สึกใจสงบ ตัวเลขเหล่านี้ ไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือพลังของการ ‘หยุด’

                   งดเหล้า = ฝึกสติ : พลังภายในที่เปลี่ยนวิถีชีวิต หนึ่งในมิติที่โดดเด่นที่สุดของการรณรงค์ในปีนี้ คือการนำเสนอกรอบความคิดว่า การงดเหล้า คือ การฝึกสติ

                   เพราะในวันที่หลายคนใช้แอลกอฮอล์เป็นทางหนีปัญหา “การหยุดดื่ม” กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างกล้าหาญ การใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งเสพติด คือ การฝึกใจให้ยืดหยุ่น เข้มแข็ง และรู้เท่าทันอารมณ์ และนี่ไม่ใช่แนวคิดลอย ๆ แต่เป็นแนวทางที่คนจริงในพื้นที่ต่าง ๆ ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ผล

                   จากเรื่องจริงของ 9 โมเดลเปลี่ยนชีวิต จากเหนือจรดใต้ ตะวันออกถึงอีสาน โครงการนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ 9 บุคคลต้นแบบ ที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคมรอบตัว ผ่านการเลิกเหล้าอย่างมีสติ พระ ตำรวจ ครู หรือผู้ใหญ่บ้าน

                   พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ “ความกล้า”

                   พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา แห่งวัดคลองกระจง จ.สุโขทัย ไม่เพียงทำหน้าที่สงฆ์แต่ยังเป็นผู้นำการเปลี่ยนค่านิยมในงานบุญ ด้วยการริเริ่ม “พิธีบวชใจ” ที่ให้ชาวบ้านเลิกเหล้าอย่างสง่างาม โดยมีพระสงฆ์เป็นพยาน

                   หรือพ.ต.ท.ประเสริฐ ฟุ้งพิมาย รอง ผกก.ป.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่เปลี่ยนโรงพักให้กลายเป็น “พื้นที่สร้างสุข” ด้วยการชวนตำรวจทั้งโรงพักปฏิญาณงดเหล้าหน้าเสาธง และสร้างกิจกรรมสานสัมพันธ์ในครอบครัว

                   อีกหนึ่งในเรื่องราวที่ทรงพลังที่สุด คือ “โพธิสัตว์น้อย ลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า” ที่นางวนิดา บุญมั่น ผอ.โรงเรียนวัดสระแก้ว จ.นครศรีธรรมราช นำมาใช้เป็นเครื่องมือเปลี่ยนใจผู้ใหญ่ด้วยพลังบริสุทธิ์ของเด็ก

                   คุณครูเล่าว่า… เด็กนักเรียนจะเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ด้วยลายมือตัวเอง ข้อความบางประโยคอาจสะกดไม่ถูก บางคำอาจสั้น ๆ ตรงไปตรงมา เช่น หนูอยากให้พ่อหายป่วย หนูอยากให้แม่ไม่ร้องไห้เวลาเมา หนูขอให้พ่อหยุดดื่มนะคะ หนูรักพ่อ…

                   จดหมายเหล่านี้แม้จะสะกดผิดบ้างแต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ ที่ทะลุทะลวงหัวใจของพ่อแม่จำนวนมาก เพราะเป็น“เสียงที่ไม่เคยพูดออกมาตรง ๆ” มาก่อน และเมื่อยื่นผ่านมือเล็ก ๆ ของลูกก็กลายเป็นคำขอที่ยากจะปฏิเสธ

                   นี่ไม่ใช่แค่กิจกรรมในโรงเรียน แต่ คือ การ “ซ่อมแซมสายใยครอบครัว” ด้วยความรักที่บริสุทธิ์

                   การขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวบุคคล แต่กำลังเปลี่ยนค่านิยมของสังคมอย่างช้า ๆ เช่น งานบุญปลอดเหล้า งานศพไม่ต้องมีสุรา การประชุมอบรมโดยไม่พึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการปลูกฝังทัศนคติเชิงบวกผ่านโรงเรียน บริษัท ชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น

                   นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. กล่าวไว้ชัดเจนว่า “วันนี้เราต้องการให้ทุกภาคส่วน ทั้งราชการ เอกชนชุมชน และครอบครัว มาร่วมกันสร้างวัฒนธรรมใหม่ ที่เห็นคุณค่าของสุขภาพใจ และรู้ว่าเราทุกคนมีสิทธิ์จะมีชีวิตที่ดีขึ้น”

                   ถึงเวลาหยุด เพื่อก้าวต่อไป

                   ในยุคที่ทุกอย่างหมุนเร็ว คำว่า “สติ” อาจดูเป็นของเก่า แต่แท้จริงแล้ว มันคือเครื่องมือทันสมัยที่สุดสำหรับชีวิตที่ซับซ้อน เราอาจไม่ต้องเปลี่ยนโลก แค่หยุดสักครู่ ทบทวนตัวเอง ปรับพฤติกรรม และดูแลใจในทุกวัน นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้นใหม่

                   โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2568 ไม่ได้บังคับ…แต่ “ชวนให้กลับมารักตัวเอง” ด้วยการมีสติอยู่กับใจ ในทุกขณะ ไม่ใช่แค่ในวัดหรือบนเบาะสมาธิ แต่ในทุกจังหวะชีวิตที่เราต้องเผชิญกับตัวเอง” อย่างแท้จริง

                   ลองเริ่มจากวันเดียว…แล้ววันนั้นอาจกลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ของชีวิตทั้งพรรษา

                   สสส. ชวนทุกคนมาตั้งสติ ตั้งใจ ตั้งปณิธาน เลิกเหล้าเข้าพรรษา ร่วมปฏิญาณตนออนไลน์ที่… https://noalcohol.ddc.moph.go.th/ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ตั้งใจงดเหล้าให้สำเร็จตลอด 3 เดือนเพื่อสุขภาวะที่ดีต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code