การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในปีใหม่

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในปีใหม่ thaihealth


แฟ้มภาพ


          ปัญหาหลักของการบริหารประการหนึ่งที่มักจะพบคือผู้บริหาร (หรือบุคคลทั่วๆ ไป) สามารถที่จะคิด ตั้งเป้าหมาย และวางแผนได้ แต่มักจะไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ตามแผนที่วางไว้  ยิ่งในปัจจุบันที่คนสามารถที่จะมีไอเดียใหม่ๆ ผุดขึ้นได้ตลอด ก็จะทำให้เรามักจะเกิดความตื่นเต้น กระตือรือร้น กับสิ่งใหม่ๆ ที่อยากจะทำ แต่สุดท้ายแล้วการปฏิบัติก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามความหวังหรือความตั้งใจที่มีไว้


รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ อธิบายว่า ยิ่งพอเข้าใกล้ปีใหม่นี้ ก็เลยทำให้นึกถึงปัญหาที่คล้ายๆ กับที่เกิดในองค์กร (คิดได้ วางแผนได้ แต่ปฏิบัติไม่ได้) แต่มักจะเกิดขึ้นกับ คนทั่วๆ ไป นั้นคือ เรื่องความมุ่งมั่นในวันปีใหม่ หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า New Year Resolution  ปีใหม่จะเหมือนกับเป็นหมุดของช่วงเวลาที่คนมักจะหวังว่า จะเริ่มต้นหรือเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่างๆ ที่ดีขึ้นกับตัวเอง


          หลายท่านพอถึงปีใหม่ก็มักจะบอกว่า ปีหน้าจะเริ่มอะไรบ้าง ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก ออกกำลังกายให้มากขึ้น บริหารเวลาดีขึ้น ตั้งใจเรียนหนังสือ ฯลฯ  อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยที่ออกมาอย่างต่อเนื่องจากหลายๆ แหล่งที่ ชี้ให้เห็นตรงกันว่า ความหวังที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้เกิดขึ้นในโอกาส ขึ้นปีใหม่นั้น มักไม่ประสบความสำเร็จ


          สมมติว่าถ้าปีใหม่ที่จะถึงนี้ ท่านตั้งใจจะลดน้ำหนัก นักวิจัยพบว่าภายในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังเปิดจากปีใหม่มา ท่านมักจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ (นั้นคือเริ่มเห็นความคืบหน้าในการลดน้ำหนัก) อย่างไรก็ดี พอเข้าเดือนก.พ. พฤติกรรมและความตั้งใจต่างๆ ที่มีมาตอนช่วงปีใหม่จะค่อยๆ เริ่มเลือนหายไป และพอถึงเดือนธ.ค. น้ำหนักของท่านก็กลับมายืนอยู่ ณ จุดเดิมเมื่อปีที่แล้ว และเผลอๆ อาจจะขึ้นไปจากเดิมด้วย


          สุดท้ายท่านก็จะเข้าสู่วัฎจักรเดิมๆ อีกในทุกๆ ปีคำถามคือทำไมความหวัง ความตั้งใจ หรือ ความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งใหม่ๆ พัฒนาตนเอง ปรับปรุงตนเอง ในปีใหม่ถึงมักจะล้มเหลว(เหมือนกับทำไม วิสัยทัศน์ เป้าหมาย หรือ แผนขององค์กร ที่วางไว้ถึงมักไม่ประสบความสำเร็จ)


          นักจิตวิทยาเคยระบุไว้ว่า ความหวังต่างๆ ที่จะทำให้เกิดขึ้นในปีใหม่นั้น เปรียบเสมือนเป็น วัฒนธรรมของการผลัดวันประกันพรุ่ง (cultural procrasination) ที่อยากจะเปลี่ยนตัวเอง แต่ต้องเปลี่ยนในปีหน้า (ทำไมไม่เปลี่ยนเลย) อีกทั้งยังเป็นการตั้งความหวังที่ไม่อิงกับความจริง (false hope syndrome)


          ต้องอย่าลืมว่า New Year Resolution มักจะเกี่ยวข้องกับ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารให้น้อยลง ออกกำลังกายให้มากขึ้น เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มสุรา เลิกเล่นไลน์ ฯลฯ ซึ่งการเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเปลี่ยนได้


          การเปลี่ยนพฤติกรรมจริงๆ แล้วคือการสร้างพฤติกรรมใหม่ขึ้นมาและจะต้องค่อยๆ ที่จะเรียนรู้ และเคยชินกับพฤติกรรมใหม่ๆ ดังนั้นเวลาเริ่มต้น อย่าเพิ่งไปตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินไป แต่การสร้างพฤติกรรมใหม่นั้นจะต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆ ก่อน


          เนื่องจากการเริ่มจากเล็กๆ จะทำให้คนมีแรงจูงใจที่จะสร้างพฤติกรรมใหม่ ขึ้นมาง่ายกว่า อีกทั้งคนเองก็จะเกิดความเครียดเนื่องจากการ เปลี่ยนแปลงน้อยด้วย เช่น ถ้าปีใหม่นี้ตั้งเป้าว่าจะไม่ทานอาหารมื้อเย็น โดยเปลี่ยนมาทานสลัดหรือผลไม้แทนนั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เยอะ แบบหักดิบ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถนำความเครียดมาสู่คนได้


          แต่ถ้าเริ่มจากเล็กๆ เช่น ท่านอาหารมื้อเย็นเหมือนเดิม แต่แทนที่จะตักข้าวเต็มจานอาจจะเริ่มจากตักข้าว 3/4 จาน จากนั้นค่อยเหลือ 1/2 จาน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดความคุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และจะทำให้การเปลี่ยนแปลงมีโอกาสสำเร็จและยั่งยืนกว่า


          หวังว่าทุกท่านคงจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง ที่หวังไว้ในปีใหม่ 2561 นี้ แล้วอย่าลืมว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นจะต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปนะครับ

Shares:
QR Code :
QR Code