WHO ขมไทย ดันร่าง พ.ร.บ.โค้ดนมฯ

ที่มา : MGR Online 


WHO ขมไทย ดันร่าง พ.ร.บ.โค้ดนมฯ  thaihealth


แฟ้มภาพ


สธ.เผย WHO ส่งหนังสือถึง "บิ๊กตู่" ชื่นชม ครม.ไทยเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุมการตลาดนมผง ช่วยปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ระบุผ่านการพิจารณาวาระแรก สนช.แล้ว ย้ำไม่ได้ห้ามขาย


นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ดร.มากาเร็ต ชาน (Magaret Chan) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านคณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส แสดงความชื่นชมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. … โดยเห็นว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการปกป้องการให้นมแม่และเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งผลในแง่บวกต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของแม่และเด็กในประเทศไทย โดยประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาและปรับใช้นโยบายด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็งเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของประชาชนภายในประเทศ ซึ่งการออก พ.ร.บ.ฉบับนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดที่มีในปัจจุบัน และการรับรองจากสมัชชาอนามัยโลก เป็นส่วนช่วยสนับสนุน


ดังนั้น การมีนโยบายที่เข็มแข็งและการออกกฎหมายที่ปกป้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสุขภาพและพัฒนาการเด็ก และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศ โดยหวังว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกในประเทศไทยให้ได้ถึงอย่างน้อยร้อยละ 50 ภายในปี 2568 ร่วมกับมาตรการอื่นๆ ตามที่ประเทศไทยได้ให้คำมั่นไว้ในฐานะสมาชิกขององค์การอนามัยโลก (WHO) และพร้อมให้การสนับสนุน ซึ่งหวังว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติข้างต้น


“เบื้องต้นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านการพิจารณาวาระแรกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว ซึ่งสาระสำคัญของ พ.ร.บ.มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการส่งเสริมการตลาดของนมผสมสำหรับทารกและเด็กเล็กของบริษัท คือห้ามโฆษณา และการส่งเสริมการตลาดทุกรูปแบบ แต่ไม่ได้ห้ามการซื้อขาย สำหรับในกรณีเด็กที่จำเป็นต้องใช้นมผง ก็ยังหาซื้อได้ตามปกติ และไม่ได้ห้ามบุคลากรทางการแพทย์ให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงดูเกี่ยวกับนมผง และในความจริงบุคลากรมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่แม่และผู้ปกครองไม่ว่าจะเรื่องนมผงหรือนมแม่เพื่อช่วยปกป้องแม่และครอบครัวให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้ตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกอาหารได้อย่างเหมาะสม โดยไม่มีอิทธิพลของการส่งเสริมการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งกรมอนามัยและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนจะร่วมกันเดินหน้าเพื่อปกป้องสิทธิแม่รับข้อมูลที่เป็นจริง เพิ่มโอกาสลูกได้รับนมแม่มากขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code