ขับขี่ปลอดภัย ลดเจ็บลดสูญเสียได้ ด้วยการสวมหมวกกันน็อก

เรื่องโดย : พงศ์ศุลี จีระวัฒนรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจาก : งาน รณรงค์โรงเรียน กทม. ปลอดภัย ชวนเด็กไทยสร้างวินัยจราจร (สู่โรงเรียนต้นแบบวินัยจราจร) ณ โรงเรียนวิชากร เขตดินแดง

ภาพโดย ฐิติชญา สัมปุรณะพันธุ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    “ปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน สาเหตุจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาท อยู่ในวัยคึกคะนอง ไม่เคารพกฎจราจร ดัดแปลงสภาพรถจักรยานยนต์”

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    “กล่าวถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตได้มากที่สุด ไม่พ้นการขับขี่รถจักรยานยนต์ จากสถิติ 3 ฐาน ของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน รับแจ้งอุบัติเหตุทางท้องถนนสะสมของปี 2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 29/08/2566 ) พบ สัดส่วนของรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต  9,505 ราย สูงถึงร้อยละ 80 ของทุกประเภทรถ และมีผู้บาดเจ็บสูงถึง 527,533 ราย โดยมีที่สูงถึงร้อยละ 78 เลยทีเดียว”

นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร

                    นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ในช่วงพิธีเปิด งานรณรงค์สร้างกระบวนการเรียนรู้ ชวนเด็กไทยสร้างวินัยจราจร สู่ความปลอดภัยทางถนน ที่จัดขึ้น ณ โรงเรียนวิชากร เขตดินแดง

นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร

                    “การร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนน ที่เน้นย้ำไปที่การขับขี่รถจักรยานยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญ เน้นการสวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับ คนซ้อนทุกครั้ง ที่ปลูกฝังให้เกิดความเคยชิน ต้องมีการขับเคลื่อนให้เห็นความสำคัญในการสร้างจิตสำนึกตั้งแต่วัยเด็ก กระตุ้นให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน” นางวันทนีย์ กล่าวย้ำ

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    สอดรับกับการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงเกิดเป็นการสานพลังระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กรุงเทพมหานคร (กทม.), กองบังคับการตำรวจจราจร พร้อมภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระบวนการเรียนรู้ ชวนเด็กไทยสร้างวินัยจราจร สู่ความปลอดภัยทางถนน “ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก” ณ โรงเรียนวิชากร เขตดินแดง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส.

                    เพื่อเป็นการนำร่อง 8 โรงเรียนต้นแบบ สังกัดกรุงเทพมหานคร โดยมี นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานรณรงค์สร้างกระบวนการเรียนรู้ ชวนเด็กไทยสร้างวินัยจราจร สู่ความปลอดภัยทางถนน ว่า…

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    “…การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ขยายความร่วมมือกับโรงเรียนในสังกัด กทม. ผ่านกิจกรรมฐานเรียนรู้ สร้างวินัยจราจร ร่วมกับทีมวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ให้ความรู้ และสร้างความตระหนักการใช้ถนนอย่างปลอดภัย กระตุ้นการมีจิตสำนึกถึงอุบัติเหตุทางถนน ที่เริ่มต้นจากการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อต้องซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ หรือการหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย”

นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส.

                    “ด้วยเป้าหมายการทำงานร่วมภาคีเครือข่าย ในการสนับสนุนแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565-2570 ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทยให้เหลือ 12 คนต่อแสนประชากรในปี 2570 เน้นลดการสูญเสียในกลุ่มเด็กเยาวชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนสวมหมวกนิรภัยเป็นเป้าหมายสำคัญ จะช่วยลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึงร้อยละ 39 และช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะและสมองได้” นางก่องกาญจน์ กล่าว

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    โดยการมอบชุดกระเป๋าการเรียนรู้ประกอบด้วย ชุดเกมช่องทางจราจร ความรู้เครื่องหมายจราจร สื่อความรู้เรื่องการสวมหมวกนิรภัย สื่อให้ความรู้อันตรายที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ให้  8 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพฯ นำร่องการรณรงค์ ให้สามารถนำไปจัดกิจกรรมการสอนความปลอดภัยทางถนนได้เอง

นายธงชัย โคระทัต ผู้อำนวยการโรงเรียนวิชากร เขตดินแดง กทม.

                    นายธงชัย โคระทัต ผู้อำนวยการโรงเรียนวิชากร เขตดินแดง กทม. กล่าวถึงการให้ความสำคัญในการป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุว่า “โรงเรียนมีการรณรงค์ให้ความสำคัญต่อการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เมื่อต้องเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ มีการจัดสถานที่เก็บหมวกนิรภัยให้ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนเวลาเดินข้ามถนน และมีกิจกรรมให้นักเรียน ตนเห็นว่าโครงการนี้ควรมีการขยายไปทำในโรงเรียนทั่วประเทศอีกด้วย

นางสาว มัลลิกา สอทา

                    นางสาว มัลลิกา สอทา คุณครูจากโรงเรียนสวนลุมพินี เขตปทุมวัน กล่าวถึงปัญหาหลัก ๆ ด้านการขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณรอบ ๆ โรงเรียน คือ “…การอยู่ติดถนนใหญ่ หน้าโรงเรียนมีจุดกลับรถด้วย จึงทำให้มีรถสัญจรเยอะมาก อีกทั้งการไม่ยอมใช้สะพานลอยบริเวณหน้าโรงเรียนของกลุ่มผู้ปกครอง ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนบริเวณรอบ ๆ โรงเรียน ในส่วนนี้ ทางโรงเรียนได้จัด รปภ. เจ้าหน้าที่ รวมไปถึงคุณครูเวร ในการช่วยอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย…”

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    กล่าวต่ออีกว่า “สำหรับการรณรงค์การสวมหมวกกันน็อกในโรงเรียน ด้วยการสุ่มเช็กชื่อนักเรียนที่รับหมวกกันน็อกไป และมอบรางวัลเพื่อกระตุ้นให้เด็กนักเรียนที่นำหมวกกันน็อกมาใช้ ซึ่งได้ผลดีมาก และทางโรงเรียนจะนำโครงการ ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก ไปขยายผลบรรจุเข้ากิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัยต่อไป”

นายฉัตรชัย แก้วคงทอง

                    ด้าน นายฉัตรชัย แก้วคงทอง คุณครูจากโรงเรียนวัดอัมพวา เขตบางกอกน้อย ให้ข้อมูลว่า… “สถานศึกษาตั้งอยู่ในซอยที่เป็นทางลัดของถนนใหญ่ ช่วงเช้าการจราจรบริเวณโรงเรียนจะมีความคับคั่งสูงมาก โดยเส้นทางเป็นเส้นเดินรถทางเดียว แต่มักมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรอยู่ตลอดเวลา ร้อยละ 60 ของผู้ปกครองทั้งหมด มาส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนด้วยรถจักรยานยนต์ จึงมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นประจำจะเป็นการเฉี่ยวชนกับทั้งรถ และคน”

ขับขี่ปลอดภัย ใกล้ไกลให้ใส่หมวก

                    “ซึ่งกว่าร้อยละ 70-80 เด็กนักเรียน มีหมวกกันน็อกกันอยู่แล้ว ทางโรงเรียนจึงใช้นโยบายในการประชาสัมพันธ์กับผู้ปกครองเพิ่มเติม เช่น การตรวจตราหมวกกันน็อกของนักเรียน ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และสวยงาม พร้อมให้อยู่ในสภาพใช้งานที่สมบูรณ์อีกด้วย เพื่อกระตุ้นให้มีการสวมหมวกกันน็อกให้บุตรหลานกันมากขึ้น  ตั้งเป้าจะขยายผลความร่วมมือการสวมหมวกกันน็อกให้กับบุตรหลานให้เป็น 100% ต่อไป นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังมี”

สไปร์ท ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ

                    สสส. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ในกลุ่มเด็ก อันเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสีย เราจึงเร่งสานพลังความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วน ในการกระจายองค์ความรู้ สร้างความเข้าใจ และตระหนักถึงความปลอดภัย เพื่อการลดการสูญเสียที่น่าเศร้าต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code