U-Network ร่วมพลังรณรงค์สร้างกระแสปลอดเหล้า
กิจกรรมดีเพื่อสังคม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อบายมุขอีกสิ่งที่ใกล้ตัวนิสิตนักศึกษาคนรุ่นใหม่ เวลานี้อยู่รายล้อมรอบรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ เยาวชนปัจจุบันถูกรายล้อมไปด้วยพฤติกรรมการดื่มทั้งจากผู้ปกครอง คนในครอบครัวและชุมชน รวมถึงโฆษณาที่เข้าถึงตัวทั้งทางตรงและทางอ้อม
ที่ผ่านมาหลายสถาบันการศึกษาจึงพยายามขับเคลื่อนต่อสู้และรณรงค์ต่อต้านให้เยาวชน ชุมชน เห็นพิษภัยของสุราเมรัย และทำกิจกรรมสร้างสรรค์ได้โดยไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์และบุหรี่เช่นเดียวกับการสร้างเครือข่าย u-network ผ่าน 11 สถาบันการศึกษา เพื่อเป็นศูนย์กลางเครือข่ายในการให้ข้อมูล และเป็นที่ปรึกษาให้กับสถาบันการศึกษาต่างๆ รอบนอกในเขตภูมิภาคของแต่ละสถาบัน ภายใต้ปฏิญญาความร่วมมือการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ส่วนแนวทางการดำเนินกิจกรรมนักศึกษา ที่เข็มแข็งในอนาคต ภายใต้ปฏิญญาความร่วมมือมีอยู่ด้วยกัน 5 ประการ ประกอบด้วย 1.เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาฯ จะดำเนินการจัดกิจกรรมภายใต้นโยบายกฎระเบียบ และข้อบังคับของสถาบันการศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัด 2.เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาฯ โดยการดำเนินงานขององค์การ สโมสรนิสิตนักศึกษาจะจัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ ดำรงไว้ซึ่งการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมไทย และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ถัดมาเครือข่ายสถาบันศึกษาฯ จะมุ่งเน้นกิจกรรมสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยจะเคารพซึ่งสิทธิและเสรีภาพของความเป็นมนุษย์ 4.เครือสถาบันอุดมศึกษาฯ เน้นทำกิจกรรมพัฒนาชุมชนและสังคม ซึ่งจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ แนวทางสุดท้าย สถาบันอุดมศึกษาฯ จะร่วมกันก่อตั้งเครือข่ายผู้นำนิสิตนักศึกษาสถาบันระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ในการพัฒนานโยบายด้านกิจกรรมนักศึกษาร่วมกันช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ การรวมพลังเช่นนี้จะสร้างและขยายเครือข่ายที่เข้มแข็งของเยาวชนไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ถือเป็นแนวทางที่เปิดกว้างให้เยาวชนมีส่วนร่วม เพื่อร่วมใจรณรงค์และสร้างกระแสปลอดเหล้าทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้สังคมไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา หนึ่งในมหาวิทยาลัยเครือข่าย u-network หนึ่งในนักศึกษาที่มีส่วนร่วมอย่าง อิทธิพร นวกรรมานนท์ นักศึกษารุ่นพี่ปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ แขนงอิเล็กทรอนิกคอมพิวเตอร์ เล่าว่า โครงการรับน้องปลอดเหล้าของ ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้รับรางวัลที่ 1 มาหลายปีแล้ว
“จุดเด่นการรับน้องสถาบันเราคือการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม อย่างโครงการบายสีสู่ขวัญ กิจกรรมทางศาสนา และปลูกฝังความดีคุณธรรมในใจของเฟรชชี่ เรายังใส่ใจกับชุมชนรอบมหาวิทยาลัย ดึงเข้ามาร่วมรณรงค์กิจกรรมปลอดเหล้า ชาวบ้านก็ร่วมมือเป็นอย่างดี ฝากถึงเพื่อนๆ รุ่นพี่และรุ่นน้องว่า การดื่มเหล้ามีทั้งโทษและพิษภัยมากมาย ควรที่จะลด ละ เลิกการดื่มเหล้า อยากให้ช่วยเตือนกัน เพราะประเทศไทยจะได้มีเยาวชนที่มีคุณภาพในการช่วยกันพัฒนาประเทศชาติต่อไป” อิทธิพลกล่าว
ด้านนักศึกษาหนุ่มชาวเหนือ สุรชัย บั้งเงิน นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพื้นที่เชียงราย กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามาร่วมโครงการเป็นปีแรก แต่ในส่วนของมหาวิทยาลัยได้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เป็นแนวทางที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก
“การเข้าร่วมโครงการรับน้องปลอดเหล้า ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้วิธีการรณรงค์ของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดี และเราก็สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับมหาวิทยาลัยด้วย ใช้พัฒนากิจกรรมที่มีอยู่ และเน้นชุมชนรอบมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น เดิมมหาวิทยาลัยมีนโยบายให้นักศึกษาเข้าคุยกับชุมชนเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อชุมชน โดยมีหน่วยบริการชุมชน รวมถึงสอนในเรื่องของบัญชีครัวเรือน ให้ความรู้ในเรื่องของโทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่ ที่นอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ แล้วยังบ่อนทำลายครอบครัว สิ้นเปลืองเงินอย่างมากอีกด้วย”
ในปีนี้เจ้าตัวเลยขอเน้นสร้างรุ่นพี่เป็นแบบอย่างที่ดี รุ่นน้องเห็นก็จะได้ยึดเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงดูแลเรื่องการศึกษา นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยของเราก็จะเข้มงวดในกฎระเบียบมากยิ่งขึ้นด้วย
อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยในเครือข่าย u-network ม.ปทุมธานี ธิตา ขาวสอาด นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นอุปนายกฝ่ายนอกของมหาวิทยาลัย ทำหน้าที่ประสานงานและจัดกิจกรรมต่างๆ อุปนายกคนสวย บอกว่า มหาวิทยาลัยปทุมธานีได้เข้าร่วมโครงการรับน้องปลอดเหล้ามาเป็นปีที่ 2 แล้ว ส่งผลให้แอลกอฮอล์และบุหรี่ในมหาวิทยาลัยปทุมธานีลดลงเยอะมาก เพราะเรามีกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง เช่น การทำกล่องขอไม่สูบบุหรี่ คือพบเห็นคนสูบบุหรี่ก็จะนำกล่องไปขอไม่สูบบุหรี่ แล้วนำบุหรี่ที่ได้ขอไปฝังกลบอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งติดป้ายสื่อรณรงค์ เดินรณรงค์ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย
“แรกๆ ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร แต่ก็พยายามอธิบายและพูดคุยไปเรื่อยๆ ทั้งนิสิตนักศึกษาเอง รวมถึงชุมชนโดยรอบของมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้สึกดีใจและภูมิใจในกิจกรรมดีๆ ที่พวกเราได้ตั้งใจทำ เพราะสิ่งที่ทำล้วนเป็นประโยชน์กับตัวเองและสังคมโดยรอบ” ธิตากล่าวทิ้งท้าย และยอมรับว่าหนักใจที่เยาวชนปัจจุบันถูกห้อมล้อมไปด้วยพฤติกรรมการดื่ม
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update: 06-08-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ