07 ต.ค. 67 1,038 ครั้ง น้ำท่วม หรือ “อุทกภัย” หนึ่งในภัยพิบัติใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายมากมายแก่ทรัพย์สิน ร่างกาย และจิตใจ
13 ก.ย. 67 1,773 ครั้ง จากหย่อมความกดอากาศต่ำประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านในหลายพื้นที่ อาจทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจนเกิดปัญหาอุทกภัย เช่น น้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ที่ราบลุ่มและริมแม่น้ำ ควรเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อป้องกันแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น
26 พ.ย. 65 1,913 ครั้ง กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังและเกษตรกรที่ต้องลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำนาน ๆ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้ฉี่หนูที่มาพร้อมกับน้ำท่วมขัง
31 ต.ค. 65 1,622 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนพื้นที่หลังน้ำลด เร่งฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและที่พักอาศัย ด้วยการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี 3 ขั้นตอน ลดปัญหาเชื้อราสะสม
17 ต.ค. 65 1,705 ครั้ง กรมการแพทย์โดยรพ.เมตตาฯ รู้สึกห่วงใยในสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เตือนระวังโรคตาติดเชื้อที่มาพร้อมน้ำท่วมขังนาน โอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บย่อมมีเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคไข้ฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซิส โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต โรคไข้เลือดออกโรคไข้มาลาเรียซึ่งไม่เพียงแต่สุขภาพทั่วไป การดูแลสุขภาพดวงตามิให้เกิดโรคตาคือ เยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดงก็มีความสำคัญซึ่งในกลุ่มผู้มีอาการเป็นภูมิแพ้อากาศขึ้นตาเยื่อบุอักเสบ ตาแดง ไม่ควรมองข้ามอาจติดเชื้อแบคที่เรีย ไวรัส และภูมิแพ้อากาศได้แนะหากมีอาการตาแดงผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที
16 ต.ค. 65 1,701 ครั้ง น้ำท่วมไทยอ่วม สสส. เร่งสานพลัง ภาคีหนุน วัด 364 แห่ง เป็น “ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์” สร้างแกนนำ “พระสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน” ลุยน้ำมอบถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์-เป็นที่พึ่งให้สังคม
15 ต.ค. 65 21,167 ครั้ง กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนังชี้ “ โรคน้ำกัดเท้า ” ในพื้นที่อุทกภัย หรือมีน้ำท่วมขัง ซึ่งถือเป็นโรคที่ประชาชนไม่ควรละเลย และควรมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่าง ๆ ที่จะตามมาได้
12 ต.ค. 65 1,586 ครั้ง กรมควบคุมโรค แนะประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงการขับรถหรือเดินฝ่าบริเวณน้ำท่วม และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น ออกหาปลาช่วงน้ำไหลหลาก เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกกระแสน้ำพัดพาหรืออาจจมน้ำเสียชีวิตได้ เผยเกือบครึ่งหนึ่งของการจมน้ำในช่วงน้ำท่วม เดือน (ก.ย. - ต.ค. 65) เกิดจากการขับรถผ่านน้ำท่วมและออกหาปลา
19 ก.ย. 65 2,034 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะอาหารปรุงสำเร็จที่นำไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ควรเป็นอาหารที่มีลักษณะแห้งไม่ใส่กะทิหรือของหมักดอง และไม่ควรปรุงอาหารไว้ล่วงหน้าเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงอาหารบูดเสีย
27 ต.ค. 64 2,496 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด พร้อมแนะนำ 3 ขั้นตอน กำจัดเชื้อราในบ้านที่เกิดจากน้ำท่วมขัง
06 ต.ค. 64 3,255 ครั้ง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังการจมน้ำ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต และสัตว์มีพิษกัดต่อย สาเหตุการเสียชีวิตจากน้ำท่วมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ เนื่องจากถูกน้ำพัด น้ำท่วมฉับพลัน และเดินลุยน้ำ แนะวิธีป้องกันจมน้ำ ให้ยึด 4 ห้ามและ 4 ให้ อาทิ ห้ามออกหาปลาช่วงน้ำไหลหลาก ห้ามขับรถฝ่าน้ำท่วม ห้ามปล่อยเด็กเล่นน้ำช่วงน้ำเริ่มลด ห้ามแตะสวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟขณะตัวเปียกหรือยืนแช่น้ำอย่างเด็ดขาด เสี่ยงเกิดไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด
06 ต.ค. 64 2,659 ครั้ง “อ.เสรี” ห่วงน้ำท่วมซ้ำซ้อนวิกฤตโควิด-19 เผย IPCC ส่งสัญญาณเตือนสีแดง ไทยมีฝนเพิ่ม 2-3 เท่า ส่งผลน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ พ่วงน้ำทะเลหนุนสูง โอกาสซ้ำรอยมหาอุทกภัยเหมือนปี 54 มีแค่ 10% เตือนไม่ควรประมาท แนะรัฐเร่งคัดแยกผู้ป่วยในพื้นที่เสี่ยง ตั้งศูนย์อพยพรองรับ พร้อมดูแลพื้นที่การเกษตร นิคมอุตสาหกรรม
05 ต.ค. 64 3,333 ครั้ง กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง แนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วย “โรคน้ำกัดเท้า” ในพื้นที่อุทกภัย หรือมีน้ำท่วมขัง ซึ่งถือเป็นโรคที่ประชาชนไม่ควรละเลย และควรมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่าง ๆ ที่จะตามมาได้
28 ก.ย. 64 3,002 ครั้ง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วม แนะนำ 5 ทางรอดปลอดโรคแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้เข้าใจในการจัดการด้านสุขภาพและสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมหลังประสบภัยพิบัติ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี
21 ก.ย. 64 2,342 ครั้ง จากสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากพายุดีเปรสชัน "โกนเซิน" ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยกรมอนามัยได้มอบหน่วยงานส่วนกลางจัดเตรียมสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำและการจัดการขยะ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคที่จะตามมา โดยเบื้องต้นได้จัดส่งชุดนายสะอาด 1,000 ชุด ประกอบด้วย ถุงดำขนาดเล็ก ถุงดำขนาดใหญ่ หยดทิพย์ เจลล้างมือ สารส้มก้อน น้ำยาล้างจาน ถุงซิปล็อก และเอกสารคำแนะนำต่าง ๆ พร้อมสาธิตวิธีการใช้ให้กับพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย
15 ต.ค. 63 1,548 ครั้ง ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากพายุหลิ่นฟา ส่งผลให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูง หรือน้ำป่าไหลหลาก อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับกลุ่มเสี่ยงที่ควรเฝ้าดูแลเป็นพิเศษ คือ เด็กผู้สูงอายุ และผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เสี่ยงต่อการจมน้ำ การพลัดตกลื่นล้ม การถูกสัตว์มีพิษต่อย หรือการถูกไฟฟ้าดูด ดังนั้นผู้ปกครองหรือผู้ดูแลต้องเพิ่มความระมัดระวังไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำหรืออยู่ใกล้น้ำ และไม่ชะล่าใจปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่ตามลำพัง