“My Mom” รักไม่ธรรมดา พลังของแม่…ปราการที่แข็งแรงที่สุดของครอบครัว
เรื่องโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ “My Mom” รักไม่ธรรมดา
ภาพโดย: อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
‘My Mom’ รักไม่ธรรมดา คือ การย้ำเตือนว่า พลังรักและความเข้าใจของแม่ สามารถสร้างครอบครัวให้ปลอดปัจจัยเสี่ยง และพาลูกก้าวพ้นเส้นทางอันตรายได้เสมอ ดังนั้นแม่…ไม่ใช่แค่คนให้กำเนิด แต่ คือ ปราการที่คอยปกป้องลูกจากทุกพายุชีวิต
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน และมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ภายใต้ชื่อ “My Mom” รักไม่ธรรมดา ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ เพื่อยกย่องพลังของแม่ในการสร้างครอบครัวปลอดปัจจัยเสี่ยง
งานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองวันแม่ แต่ยังเป็นเวทีสะท้อนปัญหาและผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่กำลังคุกคามสังคมไทย พร้อมยกตัวอย่างเรื่องจริงจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ตรง มาสร้างแรงบันดาลใจและเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกครอบครัว
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเปิดในพิธีว่า การจัดกิจกรรม “My Mom” รักไม่ธรรมดา ในปีนี้ มุ่งสร้างความตระหนักถึงอันตรายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ที่กระทบทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
จากข้อมูลในปี 2564 พบว่า มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 165,450.5 ล้านบาท หรือ 1.02% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยกว่า 96% เป็นการสูญเสียทางอ้อม เช่น การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และการสูญเสียผลิตภาพจากการทำงาน ส่วนอีกกว่า 6,000 ล้านบาท เป็นการสูญเสียทางตรงจากค่ารักษาพยาบาล กระบวนการยุติธรรม และความเสียหายต่อทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางถนน
และที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยเกือบ 80% เคยได้รับผลกระทบจากการดื่มของผู้อื่น ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะนักดื่มชาย มีต้นทุนทางสังคมเฉลี่ยสูงถึง 721,344 บาทต่อคน
นายวิเชษฐ์เน้นว่า แอลกอฮอล์ยังเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ซึ่งเชื่อมโยงกับมะเร็งอย่างน้อย 8 ชนิด เช่น มะเร็งช่องปาก กล่องเสียง หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ เต้านม ตับ และตับอ่อน ดังนั้นการสร้างครอบครัวที่ปลอดปัจจัยเสี่ยงจึงไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นการปกป้องสุขภาพและอนาคตของสังคมโดยรวม
ในเวทีครั้งนี้มีการแบ่งปันประสบการณ์จากผู้ที่เคยเผชิญผลกระทบโดยตรงจากปัญหาครอบครัวและการใช้สารเสพติด
นายอภิรัฐ สุดสาย อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก เล่าให้ฟังว่า ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย ขาดการสื่อสารและความรัก ทำให้เขารู้สึกไม่มีตัวตน จนเข้าสู่เส้นทางผิด เช่น ยกพวกตีกันและปล้น จนต้องติดคุกเยาวชน เขายอมรับว่า ปัญหานี้มีรากมาจากครอบครัวที่ไม่อบอุ่น เมื่อได้โอกาสปรับตัว เขาจึงอยากฝากถึงพ่อแม่ให้เป็น “ปราการด่านแรก” ของลูก ดูแลด้วยความรัก ความใส่ใจ เพื่อป้องกันการกระทำผิด
ขณะที่ นางเฉลิมขวัญ เย็นเสมอ คุณแม่อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก เล่าประสบการณ์ตรงในมุมของแม่ให้ฟังว่า พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ของสามีและการจู้จี้ของตนเอง ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวถดถอย ลูกชายที่เคยเป็นเด็กดีเปลี่ยนไป จนก่อเหตุรุนแรงและต้องเข้าสถานพินิจ หลังจากได้ร่วมกระบวนการปรับพฤติกรรม ตนและสามจึงเลิกเหล้า ลดการบ่น และหันมาสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ส่งผลให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง
นอกจากนี้ น.ส.ถุงเงิน พันตน เหยื่ออุบัติเหตุ ได้แชร์ประสบการณ์ความเจ็บปวดจากการที่ลูกชายซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ประสบอุบัติเหตุทางถนนจากคนเมาแล้วขับ จนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงนานกว่า 7 ปี เธอฝากเตือนให้ทุกคน “ดื่มไม่ขับ” และปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นกับครอบครัวใดก็ได้
“My Mom” รักไม่ธรรมดา จึงเป็นภาพสะท้อนว่า ครอบครัวคือรากฐานสำคัญของการป้องกันปัญหาสังคมและสุขภาพ พลังความรัก ความเข้าใจ และการดูแลเอาใจใส่ของแม่และพ่อ คือ “วัคซีนเข็มแรก” ที่จะทำให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ และห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยง
สำหรับแม่แล้ว ความสุข คือการได้เห็นลูกมีชีวิตที่ดี แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่บทบาทของแม่ก็ยังคงเป็นหลักยึดเหนี่ยวของครอบครัว เป็นคนที่พร้อมอยู่ข้างเราในวันที่โลกไม่อ่อนโยน
สสส. และภาคีเครือข่ายยืนยันที่จะเดินหน้าสนับสนุนมาตรการสร้างเสริมสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงดูเด็กและเยาวชนในทุกครอบครัว เพื่ออนาคตที่ปลอดภัย แข็งแรง และยั่งยืนของสังคมไทย
