MIDL Awards 2025 หมุดหมายแรกเริ่มของ Ecosystem สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์

ที่มา: งานประกาศรางวัลดีเด่นด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และการรู้เท่าทันสื่อ ปี 2568 หรือ “MIDL Awards 2025” วันที่ 16 ก.ค. 2568 
                      การที่เรากำลังอยู่ในยุคที่คนไทย มากกว่า 90% ใช้เครื่องมือสื่อสารไม่ต่ำกว่าวันละ 8-10 ชั่วโมง ในปัจจุบันทำให้ “ภัยไซเบอร์” กลายเป็นอีกปัญหาที่ไม่อาจมองเป็น “เรื่องเล็ก” อีกต่อไป ส่งผลให้ปัญหายิ่งทวีความรุนแรง ซับซ้อน และกำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

                      โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ที่มีความเท่าทันสื่อในระดับน้อย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเด็กและเยาวชน หรือผู้สูงวัยที่แม้มีประสบการณ์มากมายในชีวิตจริง แต่ก็ถือว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการโลกออนไลน์ วันนี้พวกเขากำลังตกเป็น “เป้าหมาย” ภัยออนไลน์ในแทบทุกวัน

                      อย่าแปลกใจหากจะพบตัวเลขที่ตอกย้ำความจริงอันน่าตกใจ ว่าเด็กไทยถึง 41% เคยเผชิญหน้ากับการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ

                      นี่คือเสียงสะท้อนจากสมรภูมิรบใหม่ของสังคมไทยที่มองไม่เห็น ทำให้เราจำเป็นต้องสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด

                      เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) พร้อมด้วยเครือข่ายภาคีอีกหลายองค์กร จึงได้ร่วมกันจุดประกายความหวังปูทางสร้างสังคมโลกออนไลน์สีขาว ด้วยการจัดงานและการประกาศรางวัล “MIDL Awards 2025” ขึ้นเป็นปีที่สอง ภายใต้โครงการสานพลังนโยบายสู่ปฏิบัติการเท่าทันสื่อ โดยมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ คือ สร้าง “แรงบันดาลใจ” และเชิดชู “ต้นแบบ” ผู้ที่อุทิศตนขับเคลื่อนสังคมไทยให้ใช้สื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ สร้างพลังบวก ทั้งช่วยลดปัญหาความรุนแรง การกลั่นแกล้ง และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนขึ้นทุกขณะ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มของการบ่มเพาะ “พลเมืองดิจิทัลรู้เท่าทัน” อย่างเร่งด่วนตั้งแต่วันนี้

เมื่อ “ความเร็ว” ไม่ใช่คำตอบ

                      เบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุน สสส. ได้สะท้อนภาพสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไม่น้อยยังขาดทักษะรู้เท่าทันสื่อโลกออนไลน์ ไม่สามารถแยกแยะข้อมูลจริงและข้อมูลหลอกลวงที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อหลอกล่อทางอารมณ์ จูงใจ ชักนำความคิด  “การรู้เท่าทันจึงมิใช่เพียงการรับรู้ แต่คือ การรู้พร้อมกับการมีวิจารณญาณ มีกรอบคุ้มกันทางความคิดและรู้อย่างมีสติแล้วก็เข้าใจที่ถูกต้อง นี่คือภูมิคุ้มกันที่จำเป็น”

                      การที่เด็กและเยาวชนไทยต้องเผชิญคือความเสี่ยงกับภัยคุกคามและการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์นี้ สอดคล้องกับรายงานผลการสำรวจดัชนีชี้วัดความปลอดภัยบนสื่อออนไลน์สำหรับเด็ก (COSI) ปี 2566 โดยสถาบันดีคิว (DQ Institute) ระบุว่าเด็กและเยาวชนอายุ 8-18 ปี ทั่วโลกกว่า 70% ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ที่น่ากังวลใจยิ่งขึ้น เมื่อมีผลสำรวจเพิ่มเติม พบว่า เด็กไทยกว่า 41% ถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่น ๆ ซึ่งอยู่เพียง 39%

                      สะท้อนว่า ในโลกที่ข้อมูลหลั่งไหลไม่หยุดหย่อน “ความเร็ว” ในการเข้าถึงอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการอยู่รอด ในโลกที่ข้อมูลวนเวียนอย่างรวดเร็ว เบญจมาภรณ์ ให้มุมมองว่า การรับสารมาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจมันถูก หรือว่าสิ่งนั้นปลอดภัย เพราะในโลกออนไลน์ไม่ได้มีใครมานั่งกลั่นกรองให้กับเราว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นเป็นจริง ซึ่งก็เต็มไปด้วยข่าวปลอม ล่อลวงและมิจฉาชีพดิจิทัลมากมาย

                      “ความรวดเร็วในการเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นในยุคนี้ เป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กและเยาวชน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ตาม ยิ่งเข้าใกล้กับสิ่งที่เป็น “ภัยไซเบอร์” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทั้งในแง่การถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกล่อลวงมากขึ้น”

ภัยคุกคามและการกลั่นแกล้งออนไลน์ (Cyberbullying)

                      นอกจากข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนแล้ว ภัยออนไลน์ยังพัฒนาไปสู่รูปแบบอาชญากรรมที่ซับซ้อนและใกล้ตัวมากขึ้น เช่น การหลอกโอนเงินผ่าน SMS ปลอม เว็บไซต์ปลอม บัญชีม้า และการขโมยข้อมูล โดยมีรายงานว่า คนไทยถูกหลอกลวงกว่า 600 รายต่อวัน และในปี 2566 มีความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์สูงถึงประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน

                      ขณะที่การกลั่นแกล้งออนไลน์ (cyberbullying) เป็นสิ่งพบเจอได้บ่อยในกลุ่มเด็กและเยาวชนมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าผลกระทบนี้ สามารถส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพจิตของเด็ก นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและแม้กระทั่งการพยายามฆ่าตัวตายได้ มีการเปิดเผยว่าในแต่ละปีมีเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้าจากการกลั่นแกล้งออนไลน์

                      “การกลั่นแกล้งเป็นเรื่องที่เราก็พบเจอในวัยเด็กมากกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งมีทั้งในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันพบมากขึ้นในโลกออนไลน์ เพราะสื่อออนไลน์ไม่มีการจำกัดขอบเขตทำให้การเข้าถึงสื่อง่ายมาก ขณะที่ประเทศไทยเรายังมีคนที่มีทักษะในเรื่องของดิจิทัลน้อย เป็นที่มาสำคัญว่า ทำไม สสส. ถึงจริงจังในเรื่องนี้”

                      เบญจมาภรณ์ กล่าวต่อว่า แม้ผู้คนจะตระหนักถึงภัยอันตรายทางไซเบอร์ แต่ความตระหนักนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเท่านั้น และหลังจากนั้นก็มักจะลืมเลือนไป

                      รองผู้จัดการ สสส. มองว่า ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยยังไม่ได้เตรียมความพร้อมของพลเมืองสำหรับการเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มที่ และเด็กจำนวนมากยังขาดทักษะดิจิทัล ทั้งในด้านการใช้งานและการรับข้อมูล ทำให้พวกเขามักบริโภคสื่ออย่างไม่ตั้งใจและตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

                      ดังนั้น เพื่อปกป้องตนเองจากกับดักออนไลน์ ตั้งแต่การหลอกลวง การพนันออนไลน์ ไปจนถึงอิทธิพลแฝงเร้นของบุหรี่ไฟฟ้าและสื่ออื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง สสส. จึงก้าวเข้ามามีส่วนร่วมผลักดันเรื่องนี้ โดยมีเป้าหมายคือหวังว่า ecosystem ของสังคมเท่าทันสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสุขภาวะ

“MIDL Awards สร้างสังคมเท่าทันสื่อ”

                      ปัญหาหลักที่ทำให้ผู้คนตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ได้ง่าย คือ การขาดทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงพฤติกรรมการแชร์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบ และการขาดการเรียนรู้ที่จะตั้งข้อสงสัยต่อสิ่งใหม่ ๆ ที่พบในโลกดิจิทัล

                      “ที่ผ่านมาเรามีทั้งเรื่องของการขับเคลื่อนหนุนร่างกฎหมายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากมาย ขณะเดียวกัน เรามองว่าการสร้างความรอบรู้และเท่าทันสื่อ การให้ความรู้ก็ควรเป็นสิ่งที่ต้องขับเคลื่อนควบคู่กัน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ (awareness) เป็นที่มาของการสร้างเวที MIDL นี้ เพื่อให้เกิด ecosystem เป็นการสร้างนิเวศของพื้นที่สื่อปลอดภัย ด้วยการมอบรางวัลสร้างต้นแบบด้านนี้”

                      เพื่อกระตุ้นความตระหนักรู้ของสังคมไทยเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ ซึ่งหนทางแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัย
กลยุทธ์แบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วย การสร้างความรอบรู้เท่าทันข้อมูลและความสามารถด้านดิจิทัล (Digital Literacy) การสร้างเนื้อหาที่รับผิดชอบต่อสังคมและสื่อสารเชิงบวก รวมถึงมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการเสนอแนะนโยบายสาธารณะอย่างเป็นประชาธิปไตย ไปพร้อมกับการเสริมพลังความร่วมมือ สร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้เท่าทันสื่อ พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และความร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ

                      “MIDL Awards 2025” จึงเป็นอีกการตอกย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้าง “พลังพลเมืองตื่นรู้” ที่จะร่วมกันผลักดันสังคมไทยให้มีสุขภาวะที่ดีในโลกออนไลน์ พร้อมรับมือกับทุกความท้าทายที่ยังรออยู่เบื้องหน้า

                      “โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง ecosystem ของระบบสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างน้อยเริ่มต้นเป็นคนที่คอยจะสื่อสาร คนที่คอยดูว่าสื่อวันนี้มีสุขภาวะดีหรือเปล่า อย่างไรก็ดี เริ่มที่ตัวเรา ไม่ใช่แค่สังคมอย่างเดียว”

ความท้าทายที่ต้องร่วมฟันฝ่า

                      ปัจจุบันเราไม่ใช่แค่ผู้รับสื่อ แต่ยังเป็นผู้ผลิตสื่อ จะเห็นจากอินฟลูเอนเซอร์ที่เกิดขึ้นทุกวัน ทุกคนสามารถเป็นได้หมด แต่วันนี้อยากให้ทุกคนเห็นว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเหล่านั้นที่มี

                      ด้าน สุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ “ภัยเร่งด่วนของสังคมไทยที่กำลังเผชิญ” คือ “ภัยออนไลน์” และการถูกคุกคามเพื่อแสวงหาประโยชน์ว่า จากการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการติดเกม-พนันออนไลน์ บุหรี่ไฟฟ้าที่โฆษณาในสื่อออนไลน์ ทำให้เด็กเข้าใจผิดและส่งผลกระทบสุขภาพหลายมิติ รวมถึงการนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว และสังคมโดยรวมโดยเฉพาะเด็ก วัยรุ่น และผู้สูงวัย ที่กลายเป็นเป้าหมายที่เปราะบางที่สุด

                      ด้าน ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะเอนก นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) กล่าวว่า การร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนจะเป็นเสมือน “กำลังสำคัญ” ที่จะปลุกกระแสและขยายเครือข่ายแห่งการเฝ้าระวังสื่อ สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และองค์กรในทุกระดับชั้น เพื่อลดทอนปัญหาความรุนแรง การกลั่นแกล้ง ความขัดแย้ง และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ยังคงคุกคาม “สสดย. ร่วมกับ สสส. มุ่งสร้างค่านิยมและแรงบันดาลใจให้แก่สังคม เกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อสร้างสุขภาวะดีทุกมิติ เปิดโอกาสให้บุคคลและองค์กรทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศสื่อสุขภาวะที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน” กล่าวถึงความคาดหวังจากงานนี้

Shares:
QR Code :
QR Code