Learning Land ดินแดนแห่งการเรียนรู้
มุมมองใหม่ในเรื่อง km
เมื่อ “พื้นที่การจัดงานวิชาการ” กำลังจะถูกเนรมิตให้เป็น “ดินแดนแห่งการเรียนรู้” นี่คือนวัตกรรมของการจัดการความรู้ในรูปแบบใหม่ในประเทศไทยที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน อะไรคือความพิเศษของดินแดนนี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงาน “มหกรรมการจัดการความรู้ (km) แห่งชาติ ครั้งที่ 5” อย่างไร สังคมไทยจะได้อะไรจากการจัดงานในลักษณะนี้…
ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) เปิดเผยว่า งานมหกรรม km ระดับชาตินี้มีการจัดมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ละครั้งจะอยู่ในรูปแบบที่คุ้นชินกันดีคือมีองค์ปาฐกฯ มีการใช้วิดีทัศน์ประกอบการเปิดงาน หลังจากนั้นก็ให้ผู้เข้าร่วมงานเลือกว่าจะเข้าห้องสัมมนา (ห้องย่อย) ห้องไหน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน ในแต่ละห้องย่อยบางห้องก็เป็นการอภิปราย บางห้องก็ใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์ด้านการจัดการความรู้ของแต่ละองค์กร แต่ละปีจะมีภาคีที่เป็นหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง ผู้เข้าร่วมงานสามารถนำความรู้ที่ได้นี้ ไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของตนได้ต่อไป
การจัดงานในลักษณะดังกล่าว ได้เว้นช่วงไปเป็นเวลา 3 ปี จนกระทั่งปีนี้ได้กลับมาจัดใหม่อีกครั้ง พร้อมพลิกโฉมการสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ใหม่ โดยใช้หลักการ “action learning” คือให้เรียนรู้จากการได้มีโอกาสทดลองทำจริง และสิ่งที่ถือว่าเป็น highlight ของงานก็คือการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้มีชีวิตชีวา สมกับคอนเซ็ปต์ของงานที่ว่า “lively learning land” การที่พื้นที่การเรียนรู้จะที่มีชีวิตชีวาได้นั้น จำเป็นต้องอาศัย km ที่ “ระเบิดจากข้างใน” ที่เรียกว่าเป็น “km inside” เท่านั้น km อย่างที่ทำกันส่วนใหญ่ มักจะเป็น km ที่ทำไปอย่างจำใจ ทำไปเพราะความจำเป็น ทำไปเพียงเพื่อตอบสนองตัวชี้วัด (kpi) การทำงาน ไม่ได้ทำเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้ theme ในปีนี้จึงชูประเด็นเรื่องการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวาและพยายามจะสื่อให้เห็นว่าจะต้องเป็น km ที่เริ่มจากข้างใน เป็น km ที่ไม่ทิ้งเรื่องจิตใจ ดั่ง theme ใหญ่ของงานที่ว่า “km inside – lively learning land”
learning land ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 – 23 พฤศจิกายนนี้ นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้จากกรณีศึกษาของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว สิ่งที่ถือว่าพิเศษกว่าทุกๆ ครั้งก็คือ ผู้เข้าร่วมจะพบกับ professsor ikujiro nonaka ปรมาจารย์ด้าน km ชื่อดังระดับโลก ที่จะมาบรรยายพิเศษในหัวข้อ “km in the first decade of the 21th century” หลังจากนั้นก็จะเป็นการเปิดงานด้วยการแสดงละครเวทีจากศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนแห่งการเรียนรู้อันมีชีวิตชีวานี้ให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้ตื่นตาตื่นใจ เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะออกเดินทางกันไปตามโซนต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในแผนที่ (ลายแทง) ของแต่ละคน
การเปลี่ยนรูปแบบเวทีการสัมมนาให้ออกมาเป็นดินแดนแห่งการเรียนรู้นี้ สิ่งที่สำคัญก็คือต้องการทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นการพลิกกระบวนทัศน์ใหม่ในเรื่อง km ทำให้เห็นว่า km เป็นการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เป็นเรื่องของการเปิดพื้นที่ให้คนเข้ามามีส่วนร่วม โดยที่ได้แบ่ง
สคส.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานตลอดสองวันจะมีมุมมองใหม่ในเรื่อง km และจะเกิดความเข้าใจใหม่ว่าการใช้ km ให้ได้ผลนั้น km จะต้องเริ่มต้นจากภายในคนก่อนเป็นอันดับแรก จึงจะสามารถนำไปพัฒนางาน พัฒนาองค์กรและสังคมต่อไปได้
โปรดอย่าพลาดโอกาสที่จะเข้าร่วมงาน “มหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 5” นี้ ซึ่งงานจะมีเพียง 2 วันเท่านั้น คือ 22-23 พฤศจิกายน ใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ต้องรีบไปก่อนที่จะหมดเขต 31 ตุลาคมนี้ เพราะงานนี้ สคส. รับจำนวนจำกัดเพียงแค่ 900 คนเท่านั้น
ดาวน์โหลดใบสมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kmi.or.th โทร.0-2197-8251 และ 08-4555-6819
9 โซน
1.หาดฝึกกระบวนท่า : เป็นพื้นที่ที่ชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งคนต่างถิ่นเข้ามาใช้ฝึกทักษะการเรียนรู้จากพี่เลี้ยงผู้มากด้วยประสบการณ์ ทักษะที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดใจรับฟัง การฝึก
ให้เข้าใจตนเองและผู้อื่น ตลอดจนการฝึกทบทวนการเรียนรู้
2. ทะเล tacit : สำหรับผู้ที่อยู่ใน
3. ชนเผ่าจับเข่าคุย : คนกลุ่มนี้กำลังทำอะไรกัน ทำไมพวกเขาจึงมีชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ใครที่ต้องการจะรู้ว่าพวกเขาใช้เทคนิคอะไร ขอให้รีบแวะ
มาพูดคุยได้ที่นี่
4. เทือกเขาปันปัน : พื้นที่ที่จะทำให้ท่านเข้าใจถึงประโยชน์อันยิ่งใหญ่จาก “การให้” โดยเรียนรู้จากกรณีศึกษามากมาย ที่จะทำให้ท่านกระจ่างว่าทำไม “ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ”
5. สะพานเชื่อมใจ : การขับเคลื่อน km จะสำเร็จได้ต้องอาศัยผู้ที่ทำหน้าที่ “เชื่อมประสาน” การเป็นผู้เชื่อมประสานไม่ใช่งานที่ใครๆ ก็ทำได้ หากท่านอยากรู้เทคนิคดีๆ ของผู้ที่
รับบทบาทเชื่อมประสาน อย่าลืมมาขึ้นสะพานนี้
6. ศาลาศิราณี : สถานที่นัดพบของกูรู (guru) และผู้ที่ฝักใฝ่สนใจในเรื่อง km ท่านที่มีปัญหาคาใจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ สามารถมาเปิดใจกันได้ในศาลานี้
7. เกาะสุขสันต์ : เป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นว่าบรรยากาศการทำงานที่มีชีวิตชีวานั้นเป็นอย่างไร มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาตามยถากรรม หากแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำต้องสร้าง ต้องมีการ
วางกลยุทธ์ และมีการนำกระบวนการ km ไปใช้อย่างมีลีลา
8. ประภาคารเกื้อกูล : การงานใดๆ ย่อมต้องมีการตั้งเป้าหมาย เปรียบได้กับการออกเรือที่ต้องรู้ทิศทาง การสาละวนอยู่กับงานประจำบ่อยครั้ง อาจทำให้ท่านลืมมองเป้าหมาย ประภาคาร จะทำหน้าที่ส่องแสงมาไกลๆ ให้รู้ว่าเป้าหมายปลายทางของเราอยู่ไหน ในโซนนี้ผู้ที่เป็น “คุณเอื้อ (chief knowledge officer)” จะมาเผยเทคนิคการนำที่ทำให้คนทำงานใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่จนสามารถไปสู่เป้าหมายได้
9. บึงบูรณาการ : การเชื่อมโยงเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารเข้าด้วยกันโดยไม่ทำให้เป็นภาระต่อผู้ปฏิบัติงาน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่บึงบูรณาการนี้ท่านจะได้พบกับตัวอย่างดีๆ จากผู้
ที่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้
ที่มา : สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม
update : 14-10-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร