โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ
สสส. ชวนเยาวชน นวัตกร ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และภาคี
ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ในการประกวด
Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025
ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 570,000 บาท!
ประเภทการประกวด
แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ประเภทที่ 1 : มัธยมศึกษาตอนปลาย
- ประเภทที่ 2 : อาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)
- ประเภทที่ 3 : ประชาชนทั่วไป/Startup
- ประเภทที่ 4 : ภาคี สสส.
หัวข้อการประกวด
ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)
โจทย์หลัก
“นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ที่ช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยง หรือส่งเสริมให้คนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย”
หัวข้อย่อย :
- ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ไฟฟ้า
- สร้างจิตสำนึก และวินัยจราจร
- ลดการบริโภค หวาน มัน เค็ม
- เพิ่มกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
- การจัดการอารมณ์และลดความเครียด
ประเภทประชาชนทั่วไป/ Startup
“นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ส่งเสริมให้คนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน”
หัวข้อย่อย :
- ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ไฟฟ้า
- การเลือกรับประทานอาหารและเพิ่มกิจกรรมทางกาย เพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs)
- ลดอุบัติเหตุ และเสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน
ข้อกำหนด
ผู้สมัครต้องมีต้นแบบนวัตกรรม มีต้นแบบของผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการ ที่มีการใช้จริง หรือออกสู่ตลาดแล้วไม่เกิน 3 ปี และต้องการพัฒนา ต่อยอด และขยายผลการใช้งาน
ประเภทภาคี สสส.
ผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพจากโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนโดยตรงจาก สสส. ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป หากปิดโครงการแล้ว ผลงานยังคงมีการใช้ประโยชน์หรือมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผลงานที่ส่งประกวดควรมีผู้รับประโยชน์ที่ชัดเจน และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
- นวัตกรรมกระบวนการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
- นวัตกรรมพื้นที่ต้นแบบเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด
- ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช.) กำหนดเป็นทีมนักเรียน หรือ นักศึกษา จำนวน 2 – 3 คน และอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม 1 คน รวมไม่เกิน 4 คน/ ทีม โดยต้องมาจากสถาบันการศึกษาเดียวกัน และอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีมสามารถมีรายชื่อเป็นสมาชิกทีมได้ 1 ทีมเท่านั้น
- ประเภทประชาชนทั่วไป/ Startup กำหนดเป็นทีม ทีมละ 2 – 5 คน และเป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ผลงานที่ส่งประกวดต้องมีต้นแบบผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ หรือ กระบวนการที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถพัฒนาต่อยอดในโจทย์การประกวดได้
- ประเภทภาคี สสส. เป็นบุคคล กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานที่เคยรับทุนกับ สสส. หรืออยู่ระหว่างการรับทุนจาก สสส. ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผลงานจากโครงการที่รับทุนตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป และมีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมที่สามารถตรวจสอบได้ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
วิธีการสมัคร
- กรอกแบบฟอร์มการประกวดใน Google form
- ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และ อาชีวศึกษา (ปวช.)
https://forms.gle/WZiBLNhSDiVKSZgo7 - ประเภทประชาชนทั่วไป/ Startup
https://forms.gle/JUocaXZrhYmaCbzi6 - ประเภทภาคี สสส.
https://forms.gle/AJnNxHSub9tm6gZg9
กติกาการประกวด
- ผู้เข้าประกวด 1 คน สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีมได้ 1 ทีมเท่านั้น
- ผู้เข้าประกวด 1 ทีม สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ 1 ผลงานเท่านั้น
- สถาบันการศึกษาของประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช.) สามารถส่งทีมเข้าร่วมประกวดได้มากกว่า 1 ทีม แต่รายชื่อสมาชิกภายในทีมและอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีมต้องไม่ซ้ำกัน
- ทีมผู้เข้าแข่งขันในทุกประเภทการแข่งขัน ไม่สามารถเปลี่ยนตัวสมาชิกได้ และสมาชิกทุกคนในทีมสามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามที่โครงการกำหนดยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ที่ผ่านการพิจารณาและได้รับอนุญาตจากผู้จัดการประกวดฯ
- ทีมผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในทุกประเภทการแข่งขัน ต้องผ่านกระบวนการพัฒนาศักยภาพในวันและเวลาที่โครงการประกวดฯ กำหนด มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
- ผู้เข้าประกวดทุกกลุ่มรับทราบและยินยอมปฏิบัติตามกติกาการเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
- ผู้จัดการประกวดฯ ขออนุญาตใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร ในการดำเนินกิจกรรมโครงการฯ โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- แนวคิด หรือ ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นสิ่งที่ริเริ่ม หรือคิดค้น หรือพัฒนาโดยนักเรียนหรือนักศึกษา (ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช.)) หรือเป็นผลงานต่อยอดจากงานเดิมที่มีอยู่ ไม่ลอกเลียนแบบหรือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น หากตรวจพบ และ/หรือตรวจพบภายหลังว่าผลงานที่ส่งเข้าประกวด และ/หรือ ได้รับรางวัลนั้นเป็นผลงานของผู้อื่นจะถูกตัดสิทธิ์จากการประกวดทันที และมีสิทธิ์เรียกคืนรางวัลทั้งหมด
- แนวคิด หรือ ผลงงานที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่อยู่ระหว่างส่งเข้าร่วมประกวดในโครงการอื่น หรืออยู่ระหว่างการขอสนับสนุนทุนจากหน่วยงานอื่น รวมทั้งไม่เป็นผลงานที่เคยได้รับรางวัลระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ
- สิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงานเป็นของผู้เข้าประกวดทั้งหมด โดยผู้จัดการประกวดฯ ขอสิทธิ์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ทั้งระหว่างและหลังสิ้นสุดโครงการฯ
- ผู้จัดการประกวดฯ จะไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นในกรณีที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หากผลงานที่เข้าร่วมประกวด ผลงานที่ได้รับรางวัล เมื่อเผยแพร่แล้วมีบุคคลอื่นโต้แย้งทรัพย์สินทางปัญญาในผลงานผู้เข้าประกวดต้องรับผิดชอบต่อทรัพย์สินทางปัญญาของข้อมูล ได้แก่ เนื้อหา ภาพ เสียง คลิปวิดีโอ ซอฟต์แวร์ หรืออื่นใดที่ใช้ในการผลิตผลงานโดยต้องไม่ละเมิดกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา และมีการอ้างอิงถึงแหล่งที่มาอย่างชัดเจน
- ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
*ผู้จัดการประกวดฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ของการประกวดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ประเภทของรางวัล *รางวัลทั้งหมดในการประกวดยึดถือตามคำตัดสินของกรรมการ
- ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย
- รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 60,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 เงินรางวัล 40,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลชมเชย เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- เกียรติบัตรมอบแก่สมาชิกทีมประกวดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทุกคน
- ประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)
- รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 60,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 เงินรางวัล 40,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลชมเชย เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- เกียรติบัตรมอบแก่สมาชิกทีมประกวดที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทุกคน
- ประเภทประชาชนทั่วไป/Startup
- รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เงินรางวัล 70,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- รางวัลชมเชย เงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร (1 รางวัล)
- ประเภทภาคี สสส.
โล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตร 3 รางวัล
วิธีการคัดเลือกและตัดสินการประกวด
- ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)
รอบที่ 1: การคัดเลือกจากข้อมูลตามใบสมัครและเอกสารประกอบ (Application Selection)
สสส. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครจากข้อเสนอโครงการและเอกสารประกอบ โดยคัดเลือกให้เหลือประเภทละ 15 – 20 ทีม
รอบที่ 2: การคัดเลือกในรูปแบบ Pitching ครั้งที่ 1
ทีมผู้สมัครจะต้องนำเสนอแนวคิดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในรูปแบบ Onsite หรือ Online โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการนำเสนอ 5 นาที และช่วงการตอบข้อซักถาม 5 นาที เพื่อทำการคัดเลือกทีมผู้ผ่านเข้ารอบ ระดับละ 8 – 10 ทีม
ทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพตามที่กำหนด โดยหลังจากเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพ แต่ละทีมจะได้รับงบประมาณในการพัฒนาผลงานจำนวนทีมละ 10,000 บาท
รอบสุดท้าย: การตัดสินการประกวดในรูปแบบ Pitching ครั้งที่ 2
ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 2 ประเภท นำเสนอผลงานที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนา พร้อมบรรยายแนวคิดและวิธีดำเนินการต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในรูปแบบ Onsite โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการนำเสนอ 5 นาที และช่วงการตอบข้อซักถาม 5 นาที เพื่อตัดสินทีมที่ได้รับรางวัลประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า)
- ประเภทประชาชนทั่วไป/Startup
รอบที่ 1: การคัดเลือกจากข้อมูลจากใบสมัครและเอกสารประกอบ (Application Selection)
สสส. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครจากข้อเสนอโครงการและเอกสารประกอบ และคัดเลือกผลงานที่ผ่านเข้ารอบ จำนวน 10 – 20 ทีม
รอบที่ 2: การคัดเลือกจากการนำเสนอในรูปแบบ Pitching ครั้งที่ 1
ทีมผู้สมัครจะต้องนำเสนอแนวคิดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในรูปแบบ Onsite หรือ Online โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการนำเสนอ 5 นาที และช่วงการตอบข้อซักถาม 5 นาที เพื่อทำการคัดเลือกทีมผู้ผ่านเข้ารอบ ประมาณ 8 – 10 ทีม
ทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพตามที่กำหนด โดยหลังจากเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพ แต่ละทีมจะได้รับงบประมาณในการพัฒนาผลงานตามความเหมาะสม
รอบสุดท้าย: การตัดสินการประกวดในรูปแบบ Pitching ครั้งที่ 2
ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายนำเสนอผลงานที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนา พร้อมบรรยายแนวคิดและวิธีดำเนินการต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในรูปแบบ Onsite โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการนำเสนอ 5 นาที และช่วงการตอบข้อซักถาม 5 นาที เพื่อตัดสินทีมที่ได้รับรางวัลประเภทประชาชนทั่วไป/ Startup
- ประเภทภาคี สสส.
รอบที่ 1: พิจารณาจากเอกสารรายงาน วีดิทัศน์ ข้อมูลผลงาน และหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อคัดเลือกผลงานที่ผ่านเข้ารอบ โดยแบ่งตามประเภทของผลงานนวัตกรรม ดังนี้
- นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 3 – 5 ผลงาน
- นวัตกรรมกระบวนการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 3 – 5 ผลงาน
- นวัตกรรมพื้นที่ต้นแบบเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 3 – 5 ผลงาน
รอบตัดสิน: ทีมที่ผ่านเข้ารอบนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในรูปแบบ Onsite โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงนำเสนอ 5 นาที และช่วงตอบข้อซักถาม 5 นาที เพื่อตัดสินทีมที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติตามประเภทของผลงานนวัตกรรม ดังนี้
- นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 1 ผลงาน
- นวัตกรรมกระบวนการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 1 ผลงาน
- นวัตกรรมพื้นที่ต้นแบบเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 1 ผลงาน
กำหนดการประกวด * วัน เวลา และกิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับความเหมาะสม
กิจกรรม | กำหนดการประกวด | ||
ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช.) | ประเภทประชาชนทั่วไปและ Startup | ประเภทภาคี สสส. | |
1. รับสมัครการประกวด | 16 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 | ||
2. ชี้แจงการประกวด หัวข้อ และเงื่อนไขต่าง ๆ และเปิดโครงการประกวด | Open House 24 พฤษภาคม 2568 13:00 น. – 15:30 น. @ Facebook Live | ||
3. ประกาศรายชื่อผู้ผ่าน | 15 กรกฎาคม 2568 | ||
4. การคัดเลือกผลงานโดยการนำเสนอต่อคณะกรรมการ | 2 สิงหาคม 2568 | 8 สิงหาคม 2568 | กรรมการคัดเลือกจากเอกสารและ VDO 13 สิงหาคม 2568 |
5. ประกาศรายชื่อผู้ผ่าน | 5 สิงหาคม 2568 | 11 สิงหาคม 2568 | 16 สิงหาคม 2568 |
6. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ | 29 – 31 สิงหาคม 2568 (Onsite) | 6 – 7 กันยายน 2568 (Onsite) | 11 – 12 กันยายน 2568 (Onsite) |
7. การพัฒนาผลงาน | สิงหาคม – 31 ตุลาคม (มีการกิจกรรมเสริมในรูปแบบ online และการติดตามความก้าวหน้า) | สิงหาคม – 31 ตุลาคม (มีการกิจกรรมเสริมในรูปแบบ online และการติดตามความก้าวหน้า) | กิจกรรมเสริมในรูปแบบ online |
8. การตัดสินรอบสุดท้าย โดยการนำเสนอต่อคณะกรรมการ | 26 พฤศจิกายน 2568 (Onsite) | ||
9. พิธีประกาศผลและมอบรางวัล | 27 พฤศจิกายน 2568 (Onsite) |
เกณฑ์การตัดสิน
1. ประเภทมัธยมศึกษาตอนปลาย และประเภทอาชีวศึกษา (ปวช. หรือเทียบเท่า) พิจารณาคะแนนจากส่วนต่างๆ ดังนี้
1.1 คัดเลือกจากใบสมัครและเอกสารประกอบ
- มีความชัดเจนตามโจทย์การพัฒนาและความเป็นไปได้ในระยะเวลาที่กำหนด
- เป็นผลงานที่เป็นประโยชน์ต่องานสร้างเสริมสุขภาพ ตามหลักการสร้างนำซ่อม
- มีข้อมูลเบื้องต้นที่โดดเด่น เกี่ยวกับแนวคิดสร้างสรรค์ องค์ความรู้ เทคโนโลยีและ/ หรือสิ่งประดิษฐ์
1.2 การคัดเลือกโดยการนำเสนอแนวคิดต่อคณะกรรมการ รอบที่ 1 เกณฑ์การให้คะแนน ประกอบด้วย
| คะแนน |
1. วัตถุประสงค์ เป้าหมาย และแรงจูงใจ | 15 |
2. สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ | 20 |
3. ความเป็นนวัตกรรม สิ่งใหม่ในการสร้างเสริมสุขภาพ | 20 |
4. ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ 4.1 มีแนวโน้ม/ความเป็นไปได้ในการพัฒนางานภายในระยะเวลาที่กำหนด (15 คะแนน) 4.2 มีแนวโน้ม/ความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาของกลุ่มเป้าหมายได้ (15 คะแนน) | 30 |
5. ทักษะการนำเสนอผลงานโดยแสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่ทำ | 15 |
รวม | 100 |
1.3 การคัดเลือกโดยการนำเสนอแนวคิดต่อคณะกรรมการ รอบที่ 1 เกณฑ์การให้คะแนน ประกอบด้วย
| คะแนน |
1. กระบวนการพัฒนาผลงาน 1.1 ระดับการเปลี่ยนแปลงของผลงานจากรอบที่ 1 (15 คะแนน) 1.2 ระดับความสำเร็จในการพัฒนาผลงานตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (15 คะแนน) | 30 |
2. ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ 2.1 สามารถนำไปใช้ได้จริง (20 คะแนน) 2.2 สามารถแก้ปัญหาของกลุ่มเป้าหมายได้ (30 คะแนน) | 50 |
3. ด้านการขยายผล 3.1 มีแนวโน้ม/ความเป็นไปได้ในการนำไปต่อยอด/ขยายผลในวงกว้าง 3.2 มีแผนงานและรายละเอียดที่ชัดเจนในการนำไปต่อยอด/ขยายขยายผล | 20 |
รวม | 100 |
2. กลุ่มบุคคลทั่วไปและ Startup
2.1 คัดเลือกจากใบสมัครและเอกสารประกอบ
- มีความชัดเจนตามโจทย์
- เป็นผลงานที่เป็นประโยชน์ต่องานสร้างเสริมสุขภาพ ตามหลักการสร้างนำซ่อม
- มีข้อมูลเบื้องต้นที่โดดเด่น เกี่ยวกับแนวคิดสร้างสรรค์ องค์ความรู้ เทคโนโลยีและ/ หรือสิ่งประดิษฐ์
2.2 การคัดเลือกโดยการนำเสนอต่อคณะกรรมการ รอบที่ 1 เกณฑ์การให้คะแนน ประกอบด้วย
| คะแนน |
1. ความเป็นนวัตกรรม สิ่งใหม่ในการสร้างเสริมสุขภาพ | 20 |
2. สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ | 10 |
3. มีความพร้อมในการผลิตหรือมีต้นแบบของผลิตภัณฑ์หรือบริการ 3.1 มีการกำหนดแผนการดำเนินงาน (10 คะแนน) 3.2 มีความชัดเจนของผลผลิต และสิ่งส่งมอบ (15 คะแนน) 3.3 มีความชัดเจนของรายการค่าใช้จ่าย และจำนวนเงินที่มีลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายต่อหน่วย (Unit cost) ตามแผนดำเนินงาน (15 คะแนน) | 40 |
4. ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและโอกาส / กลุ่มเป้าหมาย/ ความต้องการของตลาดและขนาดของตลาด | 20 |
5. การนำเสนอผลงานของตนเองให้มีความโดดเด่น สร้างความน่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย | 10 |
รวม | 100 |
2.3 การตัดสินผลการประกวดโดยการนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ รอบสุดท้าย เกณฑ์การให้คะแนน ประกอบด้วย
| คะแนน |
1. ผลงานสามารถแก้ปัญหาตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและเป็นไปตามที่ออกแบบไว้ | 30 |
2. ผลงานสามารถวัดผลความพึงพอใจในการใช้งาน และสามารถอ้างอิงมาตรฐานของคุณภาพที่ส่งผลต่อบริบทการใช้งานของผลงาน | 30 |
3. คุณค่าและประโยชน์ที่ตอบแทนกลุ่มเป้าหมายและสังคมมีแผนการทำงานในเชิงสาธารณะ | 20 |
4. ผลงานมีความเป็นไปได้ในการขยายผลในเชิงพาณิชย์* *ขยายผลในเชิงพาณิชย์ จะต้องประกอบด้วยข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ ก.ผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ออกสู่ตลาด และมียอดขายและทำสัญญาซื้อขายได้ ข.เกิดข้อตกลงการร่วมทุนหรือขยายกิจการในรูปแบบต่างๆ ค.เกิดผู้ประกอบการธุรกิจมีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้พัฒนา | 20 |
รวม | 100 |
3. ประเภทภาคี สสส.
3.1 การคัดเลือกจากใบสมัคร เอกสารประกอบ และ VDO
| คะแนน |
1. ที่มาของประเด็นสถานการณ์/ปัญหา 1.1 อธิบายถึงสถานการณ์ ต้นเหตุและความท้าทายของปัญหา (10 คะแนน) 1.2 การเลือกกลุ่มเป้าหมายและวิธีการทำงานสะท้อนให้เห็นช่องว่างของการพัฒนาเพิ่มเติมหรือต่อยอดเพื่อปิดช่องว่าง (10 คะแนน) | 20 |
2. กระบวนการพัฒนาและการนำไปใช้ 2.1 หลักการและแนวคิดที่ใช้ในการออกแบบ พัฒนาผลงาน (20 คะแนน) 2.2 วิธีการและขั้นตอนในการพัฒนาผลงาน (20 คะแนน) | 40 |
3. ผลผลิต/ผลลัพธ์ เชิงประจักษ์ มีการวัดผลที่ตอบโจทย์ปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย | 20 |
4. การขยายผลและความยั่งยืน 4.1 ผลงานเป็นที่เข้าถึง เข้าใจ และใช้งานได้สำหรับกลุ่มเป้าหมายตลอดจนสามารถใช้ผลงานในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิต (10 คะแนน) 4.2 มีการวางแผนในการขยายผลงานไปยังกลุ่มเป้าหมาย/ พื้นที่อื่น ๆ (10 คะแนน) | 20 |
รวม | 100 |
3.2 การตัดสินผลการประกวดโดยการนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ
| คะแนน |
1. ผลลัพธ์ที่สะท้อนความสามารถในการแก้ไขปัญหาหรือความสำเร็จของผลงาน | 40 |
2. การขยายผลและความยั่งยืน 2.1 ผลงานเป็นที่เข้าถึง เข้าใจ และใช้งานได้สำหรับกลุ่มเป้าหมายตลอดจนสามารถใช้ผลงานในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิต (25 คะแนน) 2.2 มีการขยายผลงานไปยังกลุ่มเป้าหมาย/ พื้นที่อื่น ๆ (25 คะแนน) | 50 |
3. การนำเสนอผลงานของตนเองให้มีความโดดเด่น สร้างความน่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย | 10 |
รวม | 100 |
*กรรมการมีสิทธิ์ชี้ขาดหากผลคะแนนไม่สามารถตัดสินได้และผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
สอบถามรายละเอียดและติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
https://www.facebook.com/pmhealthpromotioninnoaward
อีเมล PMINNOAWARD@thaihealth.or.th