“Homeless ไม่ Hopeless” พัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคนไร้บ้าน สร้างความมั่นคงกลุ่มเปราะบาง ผลักดัน ให้มีสวัสดิการ

ที่มา  :  สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                    Homeless Day วันคนไร้ที่พึ่ง – วันคนไร้บ้านสากล สสส. สานพลัง กทม. – พม. – ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม จัดเสวนา “Homeless ไม่ Hopeless : พัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคนไร้บ้าน นำร่องสร้างความมั่นคงกลุ่มเปราะบางเขตเมือง ผลักดัน คนไร้บ้านต้องไม่ไร้สิทธิ์ ไม่ไร้งาน มีสวัสดิการพร้อม

                    เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2565 ที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมพัฒนาสังคมสวัสดิการ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิอิสรชน มูลนิธิกระจกเงา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย จัดเสวนา “Homeless ไม่ Hopeless: เสียงสะท้อน ความหวัง อนาคต และชีวิตในภาวะไร้บ้าน”

                    นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ กทม. ได้มาร่วมงาน “วันคนไร้ที่พึ่ง” หรือ “วันคนไร้บ้าน” Homeless Day ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนโดยเรื่องคนไร้บ้านในปัจจุบันถูกพูดถึงมากขึ้น​ โดยหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คนไร้บ้านกับคนจนเมืองเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้​ การบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกันจึงจำเป็นอย่างยิ่ง​ ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาแค่เรื่องบ้านพักที่เป็นที่อยู่อาศัย​เท่านั้น แต่อาจรวมถึงเรื่องสวัสดิการต่างๆ ด้วย​ ซึ่งในมิติของคนไร้บ้าน​ คนจนเมือง​ คนเร่ร่อนต่างๆ​ อาจจะเป็นเรื่องของสภาวะบางอย่างหรือสวัสดิการต่างๆ ที่ยังไม่พร้อม​ โดยในส่วนของ กทม. จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเรื่องสวัสดิการ​ ทั้งเรื่องของการหางาน สาธารณสุข​ และเรื่องของที่อยู่อาศัย​

                    “คนไร้บ้าน​ จะต้องไม่ไร้สิทธิ์​ และไม่ไร้งาน​ รวมถึงสวัสดิการต้องพร้อม ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหานี้ร่วมกัน”  นายศานนท์​ กล่าว

                    นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า “คนไร้บ้าน” คือ ประชากรกลุ่มเฉพาะที่ต้องให้ความสำคัญ สสส. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่คอยเชื่อมประสาน โดยสานพลังกับภาคีเครือข่าย หนุนเสริม พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน สิ่งสำคัญคือการทำให้คนไร้บ้านมี “ที่อยู่อาศัย” และ “อาชีพ” เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะได้ เนื่องจากการมีมีรายได้ จะช่วยทำให้คนกลุ่มนี้มีที่พักเป็นหลักแหล่ง สู่การมีสุขภาวะที่ดีได้ โดยภาคประชาสังคม เช่น มูลนิธิอิสรชน, มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย, มูลนิธิกระจกเงา, เครือข่ายคนไร้บ้าน หัวลำโพง มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้การแก้ปัญหาคนไร้บ้านดีขึ้นถึงจุดนี้

                    นางภรณี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สสส. ได้พัฒนา “นวัตกรรมการจัดบริการที่อยู่อาศัยและความช่วยเหลือฉุกเฉิน บนฐานการมีส่วนร่วมของคนไร้บ้าน” หรือโครงการ “ที่อยู่อาศัยคนละครึ่ง” ในรูปแบบ “แชร์” ค่าเช่าขึ้นมา ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อหนุนเสริมคนที่ยากลำบาก แก้ปัญหาจำนวนคนไร้บ้านที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบข้อมูลว่า โควิด-19 ช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา พบคนไร้บ้านใน กทม. สูงขึ้นกว่า 30% จาก 1,307 คน เพิ่มเป็น 1,700 – 1,800 คน ขณะที่คนไร้บ้านทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 4,000 คน ทำให้ สสส. พยายามทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาการเข้าสวัสดิการ เพราะสัมพันธ์กับความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรมทางสังคมเศรษฐกิจ

                    “คำว่าความสุขหรือสุขภาวะสำหรับคนไร้บ้าน เป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ทิ้งทุกอย่างมาอยู่ในที่สาธารณะ แต่ สสส. ขอเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัย จุดประสานงานท Drop-in เรื่องอาหาร เพื่อช่วยเรื่องชีวิตความเป็นอยู่คนไร้บ้าน เพื่อพัฒนาสุขภาวะคนไร้บ้าน ให้สามารถตั้งหลักชีวิตได้ โดย สสส. จะมุ่งมั่นสานพลังกับหน่วยงานทุกภาคส่วนต่อไป ” นางภรณี กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code