‘85% ‘ไม่อยากเสียตัว 14 ก.พ. แต่ 13 ปีเปิดซิง
สารพัดโพลล์รับ “วาเลนไทน์” สธ.เผยวัยรุ่น 85% ไม่เห็นด้วยกับการเสียตัววันแห่งความรัก สวนดุสิตฯ ชี้คนเกิน 30 ปีมองภาพในแง่ลบ “มหิดล” เปิดข้อมูลแม่ในชุมชนแออัด 75% ไม่รู้เรื่องคุมกำเนิด 47% อายพูดเรื่องเพศกับลูก ผงะ! เด็ก 13 ปีมีเซ็กซ์แล้ว “มาร์ค” ยังครองอันดับนักการเมืองที่วัยทีน อยากให้ของขวัญ
ในวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักตามประเพณีนิยมของต่างประเทศนั้น ในประเทศไทยก็มีการแสดงความคิดเห็นต่อกระแสดังกล่าวอย่างคึกคักเมื่อวันอาทิตย์
ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงผลสำรวจร่วมระหว่างกรมควบ คุมโรคกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราช ภัฏสวนดุสิต ที่สอบถามเยาวชนอายุ 12-24 ปี ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หัว ข้อ “เยาวชนกับวันวาเลนไทน์” จำนวน 1,012 ตัวอย่าง ถึงทัศนคติ ค่านิยม พบว่า 90% ไม่เห็นด้วยกับการมีคู่นอนพร้อมกันหลายๆ คน, 85% ไม่เห็นด้วยว่าวันวา เลนไทน์เป็นวันที่ควรมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก และ 74% ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย
สำหรับประเด็นที่เห็นด้วย 83% ควร ให้ผู้ชายมีส่วนรับผิดชอบต่อการทำแท้ง,82% ผู้หญิงควรรักษาพรหมจรรย์ไว้จนกว่า จะอายุ 18 ปี และเมื่อถามถึงแฟนหรือคนรักขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์จะทำอย่างไร กลุ่มตัวอย่าง 67% ตอบปฏิเสธ มีเพียง 25% ตอบว่ายอมมี ซึ่งเป็นชายมากกว่าหญิงถึง 6 เท่าตัว และกลุ่มอายุที่ยอมมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดคือ 21-24 ปีถึง 39% ส่วนต่ำสุดคือกลุ่มอายุ 12-14 ปี หรือ 8%
และเมื่อถามไปถึงของขวัญที่อยากได้ในวันวาเลนไทน์ พบว่า ส่วนใหญ่คือดอกกุหลาบ รองลงมาคือช็อกโกแลตและตุ๊กตา ส่วนกิจกรรมที่อยากทำร่วมกับคนรักในวันดังกล่าวคือ การไปเที่ยว ตามมาด้วยดูหนังและทานอาหารร่วมกัน ส่วนดาราที่อยากมอบของขวัญให้มากที่สุดได้แก่ เกิร์ล เจนเนอเรชั่น, ณเดชน์ คูกิมิยะ, นัททิว, บี้ เดอะสตาร์, เป้ อารักษ์ ในขณะที่นักการเมืองคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ขณะที่สวนดุสิตโพล ได้เผยผลสำ รวจเรื่อง “วาเลนไทน์” ในมิติ “เชิงบวก-เชิงลบ” ที่สอบถามประชาชน 1,410 คน พบว่า กลุ่มอายุที่ให้ความสำคัญและชื่นชอบต่อวันวาเลนไทน์มากที่สุด 30.67% คือ 13-17 ปี รองลงไป 22.34% กลุ่มอายุ 18-20 ปี และ 18.79% กลุ่มอายุต่ำกว่า 13 ปี และเมื่อสอบถามในมิติความคิดเชิงบวกและลบต่อวันดังกล่าว พบว่า กลุ่มอายุไม่เกิน 20 ปี 37.18% จะคิดเชิงบวก มากกว่า ส่วนกลุ่มอายุสูงกว่า 30 ปี 31.9% จะคิดเชิงลบมากกว่า ในขณะที่กลุ่มอายุ 21-30 ปี 30.88% จะคิดเชิงบวกพอๆ กับเชิงลบ
ถามถึงความเป็นห่วงต่อเยาวชนในวันวาเลนไทน์ พบว่า มากที่สุด 52.70% ห่วงการล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะเสียตัว, 22.06% ห่วงเรื่องอบายมุข, 13.12% ห่วงอุบัติเหตุ, 7.73% ห่วงปัญหาอาชญา กรรม ส่วนมิติใหม่ที่ประชาชนอยากเห็นในวันวาเลนไทน์มากที่สุด 49.86% คือให้ความรักที่จริงใจ ลดความขัดแย้ง แตกแยก สร้างความสามัคคีในสังคมไทย, 29.15% ให้ความรักแก่ทุกคน ไม่จำกัดเฉพาะแฟน
ส่วนหาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ที่ได้สำรวจความเห็นประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ 1,187 คน พบว่า ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์อยู่ในระดับปานกลางค่า เฉลี่ย 5.02 คะแนน จาก 10 คะแนน และนักศึกษาเพศหญิงให้ความสำคัญมาก กว่าเพศชาย
วันเดียวกัน ที่ลานดิจิทัล เกทเวย์ สยาม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับหลายองค์กรจัดกิจกรรม “Story of love รักออกแบบได้” โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ข้อมูลการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี กว่า 5 ล้านคนนั้น 65% ขาดความรู้ในการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยมีเยาวชนถึง 1.25 ล้านคน มีพฤติกรรมเสี่ยงและมีอัตราการคลอดบุตรเฉลี่ย 1.2 แสนราย/ปี หรือวันละ 336 คน
รศ.ดร.อาภาพร เผ่าวัฒนา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในเวทีเสวนา “ปกป้อง หรือ ปกปิด : คุณเลือกได้” ว่า การศึกษาเรื่อง “การมีส่วนร่วมของมารดาในการป้องกันพฤติ กรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่นหญิง ในชุม ชนแออัด เขต กทม.” กลุ่มตัวอย่าง 673 คน พบว่า มารดา 74.5% เข้าใจไม่ถูกต้องเรื่องคุมกำเนิด และอีก 46.4% รู้สึกว่าการพูดคุยเรื่องเพศกับลูกสาวเป็นเรื่องน่าอายไม่ควรเปิดเผย ขณะที่กลุ่มบุตรสาว อายุ 15-20 ปี พบมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุเฉลี่ยที่ 15.8 ปี และต่ำที่สุด 13 ปี
“พฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มบุตรสาวคือ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย 17.8%, ทำออรัลเซ็กซ์โดยไม่ใช้ถุงยาง 10.2%, มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยาง 2.6%” รศ.ดร.อาภาพร กล่าว
น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้จัดการแผน งานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สสส. กล่าวว่า ข้อแนะนำในช่วงวาเลนไทน์ คือ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ เสี่ยง หากเลี่ยงไม่ได้ควรมีศิลปะการต่อรอง 3 ขั้นตอน 1.ถามตัวเองว่าพร้อมมีเซ็กซ์ และพร้อมรับผลที่จะตามมาหรือไม่ 2.ตั้ง สติ ใช้วิธีเจรจาเพื่อเอาตัวรอดเฉพาะหน้า และ 3.ไม่คิดว่าการพกถุงยางเป็นเรื่อง เสื่อมเสีย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์