7องค์กรผนึกกำลัง ลดผู้ป่วยเอดส์วัยรุ่นชายรักชาย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
ปัญหาการติดเชื้อเอดส์ในวัยรุ่นยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะวัยรุ่นชายรักชายและสาวประเภทสองเป็นกลุ่มที่มีอุบัติการณ์การติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นกลุ่มนี้เข้าถึงการตรวจรักษาเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
จึงเกิดการผนึกกำลังของ 7 องค์กร นำโดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, กรมควบคุมโรค, มูลนิธิแพธทูเฮลท์, คลินิกบางกอกเฮลท์ฮับ, สำนักการแพทย์สำนักอนามัย, กรุงเทพมหานคร, องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข เปิดตัว "โครงการเลิฟแคร์ วายเอ็มทูเอ็ม ยัง เมนส์ เฮลธ์ สเตชั่น (Lovecare YM2M Young Men's Health Station) สถานีสุขภาพวัยรุ่นชาย (ตามเพศสภาพ)"ณ ห้องสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้นจี รพ.ศิริราช เมื่อเร็ว ๆ นี้
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ปัญหาการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มวัยรุ่นชายรักชาย และสาวประเภทสองไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะทุกคนมีลูกหลานหรือคนใกล้ชิดเป็นวัยรุ่นด้วยกันทั้งนั้น สามารถร่วมกันดูแลได้ วัยรุ่นบางคนไม่รู้บางเรื่องเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งนับเป็นความเสี่ยง เพราะกลุ่มยังเจเนอเรชั่นมีโอกาสพบเจอคนถูกใจจนบางครั้งก้าวสู่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ทันตั้งตัว เห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว รพ.ศิริราช ในฐานะหน่วยงานที่ดูเรื่องโรคภัยไข้เจ็บของคนไทย ได้ร่วมกับอีก 6 หน่วยงาน เปิดตัวโครงการเลิฟแคร์ฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการที่เป็นมิตรรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน นำไปสู่ความกล้าในการเข้าหาแพทย์เพื่อตรวจเลือด และรับยาอย่างสม่าเสมอ เพราะ "เลิฟแคร์" คือ "แคร์ ฮู บี เลิฟ" การเข้าหาแพทย์ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อคนที่เรารักอีกด้วย
ในฐานะผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.สมาน ฟูตระกูล ให้ข้อมูลว่า จากข้อมูลการประมาณสถานการณ์โรคเอดส์ในปี พ.ศ. 2561 คาดว่าผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในประเทศไทยประมาณร้อยละ 50 เป็นกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย ร้อยละ 55 มีอายุต่ากว่า 25 ปี อุบัติการณ์การติดเชื้อรายใหม่ในวัยรุ่นชายรักชายในกรุงเทพฯ มีรายงานสูงถึง 10 ต่อ 100 คนต่อปี ซึ่งสูงกว่าประชากรกลุ่ม อื่น ๆ นอกจากนี้ยังพบอัตราความชุกของซิฟิลิสสูงที่สุดในกรุงเทพฯ แม้ว่าแพทยสภาอนุมัติให้เยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี สามารถรับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ปกครอง แต่การเข้าถึงการตรวจเลือดในวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงยังมีความครอบคลุมต่า เนื่องจากไม่ทราบความสำคัญของการตรวจเลือด ไม่ทราบข้อมูลว่าจะเข้าถึงบริการที่เป็นมิตรได้อย่างไรและมีบริการอะไรให้บ้าง
ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจหัวหน้าโครงการเลิฟแคร์ วายเอ็มทูเอ็ม ให้รายละเอียดโครงการฯเพิ่มเติมว่า เลิฟแคร์ฯ ส่งเสริมบริการที่เป็นมิตรให้วัยรุ่นชายรักชายและสาวประเภทสองเข้าถึงการตรวจรักษาเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีความเป็นส่วนตัว เข้าถึงได้ง่าย และเน้นการรักษาความลับผ่านบริการให้การปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางห้องแชตออนไลน์ และเป็นช่องทางให้ความรู้ด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สำหรับวัยรุ่น ผ่านเว็บไซต์ ym2m.lovecarestation.com นอกจากมีบริการปรึกษาออนไลน์ระหว่างเวลา 18.00-22.00 น. ยังสามารถค้นหารายชื่อสถานพยาบาลที่บริการตรวจเอชไอวีและซิฟิลิส โดยสามารถ "ตรวจเลือดฟรีปีละ 2 ครั้ง" และ "ขอรับยาเพร็พ (ยาต้านไวรัสป้องกันก่อนสัมผัสโรค) ได้ฟรี" ซึ่งการกินยาเพร็พล่วงหน้าต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วันก่อนมีเพศสัมพันธ์สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ร้อยละ 90
สำหรับหลักปฏิบัติของวัยรุ่นชายรักชายและสาวประเภทสองให้ห่างไกลจากการติดเชื้อเอดส์คือ ควรมีคู่ให้น้อยที่สุด, ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์, ควรรู้สภาวะการติดเชื้อเอชไอวีของคู่ ที่สำคัญต้องรับประทานยาเพร็พอย่างสม่าเสมอ เนื่องจากถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์