50 ยังแจ๋ว แบบฉบับ ท็อป ดารณีนุช
เรื่องโดย เทียนทิพย์ เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจาก สสส.
“พี่เพียงแค่คิดว่าเราต้องมีสุขภาพที่ดีเพื่อที่จะอยู่กับลูกหลาน และไม่เป็นภาระกับใคร” นี่คือเป้าหมายสุขภาพของนักแสดงเจ้าบทบาท ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน นักแสดง และพิธีกร ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยหายไปจากงานในวงการบันเทิง เรายังคงเห็นเธอโลดแล่นอยู่หน้าจอโทรทัศน์บ่อย ๆ
เมื่ออายุเริ่มเข้าเลข 5 สุขภาพกายและสุขภาพจิตของใครหลายคนเริ่มถดถอย แต่สำหรับ ท็อป เธอยังคงสดใสร่าเริงและมีสุขภาพดี เธอเล่าถึงแนวคิดการดูแลสุขภาพของเธอว่า สิ่งที่ต้องดูแลเรื่องสุขภาพ มี 3 ส่วน คือ สิ่งที่เราจะนำเอาเข้าไปนั่นคือ อาหาร อารมณ์ และสิ่งที่เราจะเอาออกมาคือการเผาผลาญพลังงานต่าง ๆ ได้แก่ การออกกำลังกาย และอีกอย่าง คือ การพักผ่อน โดยทั้ง 3 อย่าง ต้องเอาให้ลงตัวกัน
เธอเล่าถึงแนวคิดสุขภาพอีกหนึ่งอย่างที่เธอมักตระหนักถึงนั่นคือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น เธอเล่าว่า การรักษาความไม่เบียดเบียนเป็นสิ่งสำคัญ คือ เราต้องเริ่มต้นจากการไม่เบียดเบียนตัวเอง ต้องมีสติ ไม่ใช่ตามใจตัวเองหมด เริ่มจากการไม่เบียดเบียนตัวเองได้ เราก็จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น จะไม่ไปเดือดร้อนลูกหลาน เดือดร้อนโรงพยาบาล หมอพยาบาล หรือแม้กระทั่งงบของรัฐที่จะต้องมารักษาเรา เพราะฉะนั้นเราทำอะไรได้ในส่วนของเรา เราก็ต้องทำ และคิดว่าเรื่องที่ง่ายที่สุดก็คือ การที่เราหันมาดูตัวเราเอง
“เข้าปฏิบัติธรรม สิ่งสำคัญคือ ทำให้เราเห็นความจริง ทำให้เรากล้าเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริงโดยที่เราไม่ต้องอาศัยเหล้า ไม่ต้องอาศัยความสนุกสนาน ไม่ต้องอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ มาบดบังความจริงของชีวิต ทำให้มองคุณค่าของการดื่มเหล้าน้อยลงกว่าแต่ก่อน ซึ่งแต่ก่อนยึดดื่มเพื่อรื่นรมย์และเป็นทางออกของชีวิต” เธอเล่าต่อว่า ปัจจุบันไม่ได้มีมุมมองอย่างนั้นแล้ว คิดว่าการที่จะมีทางออกของชีวิตไม่ต้องพึ่งเหล้า เพราะฉะนั้น หากใครคิดจะเลิกบุหรี่ เลิกเหล้า หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ต้องให้เขาคิดจากข้างในตัวเองก่อนว่าเขามีเป้าหมายและความเข้าใจต่อเรื่องนั้นอย่างไร
เมื่อเลิกยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์แล้ว สิ่งสำคัญคือการไม่กลับไปดื่มแอลกอฮอล์อีก เธอเผยว่า พอเราได้เห็นความเป็นจริงเรื่องของการดื่มเหล้าแล้วก็บอกตัวเองว่า ทำอย่างไร เราจะเข้มแข็ง เราจะไม่กลับมาดื่มอีก เพราะเราดื่มเหล้ามาตั้งแต่อายุ 14 มาเลิกตอน 45 จึงตั้งใจไปวัดพระแก้ว แล้วให้คำปฏิญาณว่า ชาตินี้จะไม่ให้มีแอลกอฮอล์ไหลลงร่างกายอีก แล้วก็ทำอย่างที่บอกโดยที่ใจไม่มีความโหยหา
“เลิกแอลกอฮอล์ สิ่งที่ดีต่อตัวเราเองไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ ถ้าเราเข้าใจถึงการพึ่งตัวเองเราจะรู้เลยว่า เราไม่จำเป็นต้องพึ่งความสุขจากเรื่องพวกนี้ ทำให้เกิดความสุขชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งปีติกว่า แล้วรู้สึกว่าเราสามารถสร้างสุขได้ด้วยตัวเองไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องต่าง ๆ และก็ไม่ต้องไปวุ่นวายหาเพื่อนไปนั่งดื่ม ไม่ต้องไปเดือดร้อนให้ใครขับรถมารับเวลาเมา นับเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตโปร่งใส แล้วก็ย้อนกลับมาถึงเรื่องการไม่เบียดเบียนใคร ไม่ได้สร้างอุบัติเหตุบนถนน แต่ถ้าคุณเข้าใจหลักการใช้ชีวิตอยู่โดยที่เรามีความสุขจากข้างในได้ เราจะไม่ต้องพึ่งเรื่องพวกนี้”
ท็อป ยังเผยเคล็ดลับสุขภาพ 50 ยังแจ๋วต่อว่า อยากให้หมั่นย้อนมามองลองดูตัวเอง หันมาดูแลเรื่องของอาหารการกิน มีวินัยในการใช้ชีวิต จะทำให้เรารู้ตัวอยู่ตลอดว่า วันนี้เราจะบริโภคอะไรที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกายเรามากขนาดไหน อะไรเลี่ยงได้เลี่ยง และควรเคลื่อนไหวออกกำลังกาย
“ฝากให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเองมาก ๆ รักและเมตตาตัวเองมาก ๆ แต่ไม่ใช่เห็นแก่ตัว การทำให้ชีวิตสมดุลเป็นเรื่องสำคัญ พี่ว่าเราเทตัวเองไปทางไหน ต้องมีสติ ไปหลงทำแต่งานก็ต้องรู้ว่า มากเกินไปถอยกลับมายังไง เราเลยวัยที่จะวิ่งหา ลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งทำให้ชีวิตไม่กดดัน แล้วก็ทำให้เราหันกลับมามองชีวิตเราด้วยความสุขพอใจอย่างที่เป็น และทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เรามี ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ถ้ายังคิดว่าเราไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ก็ให้ทำเพื่อคนที่เรารัก แต่ถ้าคุณคิดว่าผิดหวังจากคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม และคิดว่าสังคมนั้นเลวร้าย ขอให้หันมามองที่ตัวคุณ รักและเห็นใจบ้าง อยากให้ทุกคนกลับมาดูตัวเราเองเยอะ ๆ ” ท็อป กล่าวทิ้งท้าย
สิ่งที่ ท็อป สะท้อนผ่านเคล็ดลับสุขภาพเป็นสิ่งที่ สสส. สนับสนุนให้คนไทยหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นั่นคือ หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดปัจจัยเสี่ยงอย่างแอลกอฮอล์ และบุหรี่ เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน