5 พฤติกรรมที่ฆ่าชีวิตคนไทย

 

เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผย โรคไม่ติดต่อเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต 34.5 ล้านคนทั่วโลก โดยห้าอันดับแรกของสาเหตุการได้แก่ ความดันโลหิตสูง ยาสูบ การดื่มสุรา การขาดการออกกำลังกาย และการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม

ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยรายงานภาระโรคของโลกล่าสุด ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ลานเชท เดือนธันวาคม ที่พบว่า โรคไม่ติดต่อเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต 34.5 ล้านคนทั่วโลก คิดเป็นเกือบสองในสามของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 52.8 ล้านคนในปี พ.ศ.2553 โดยห้าอันดับแรกของสาเหตุการเสียชีวิตได้แก่ ความดันโลหิตสูง 9.4 ล้านคน ยาสูบ 6.3 ล้านคน การดื่มสุรา 5 ล้านคน การขาดการออกกำลังกายและการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม 12.5 ล้านคน รายงานชี้ให้เห็นถึงขนาดของปัญหาโรคไม่ติดต่อที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพประชากรของโลกและกระทบถึงการพัฒนา อันเป็นสาเหตุที่สหประชาชาติได้มีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำประเทศเพื่อถกการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเมื่อปีที่แล้ว

ดร.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ หัวหน้าโครงการวิจัยภาระโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยตัวเลขคนไทยที่เสียชีวิต พ.ศ.2552 ว่าจากโรคความดันโลหิตสูง 86,882 คน ยาสูบ 50,710 คน การดื่มสุรา 22,672 คน การขาดการออกกำลังกาย และการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม 31,743 คน รวมเป็นจำนวน 192,007 คน จากจำนวนคนไทยที่เสียชีวิตทั้งหมด 430,652 คน หรือ 44.5 % ในปีเดียวกัน

ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มการเสียชีวิตของคนไทยจากโรคที่เป็นผลจาก 5 พฤติกรรมอันได้แก่ ความเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การขาดการออกกำลังกายและการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม จะยังคงสูงต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคทั้ง 5 ยังคงสูงมาก โดยคนไทยที่มีความดันโลหิตสูงและเบาหวานมีถึง 11 ล้านคน ชายไทยยังสูบบุหรี่ถึง 42 %  ดื่มสุรา 60 %  การออกกำลังไม่เพียงพอถึงกว่าครึ่ง ทานผักผลไม้ไม่เพียงพอถึง 70 % และแม้แต่ผู้ป่วยเบาหวานชายยังสูบบุหรี่ถึง 37 % และความดันสูงยังสูบบุหรี่ 31 % ตนจึงขอสนับสนุน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้สัมภาษณ์ว่า ปีงบประมาณ 2556 จะให้กระทรวงสาธารณสุขเน้นการปรับพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคความดันสูงและเบาหวานให้ลดการบริโภคสุรา-ยาสูบ เพิ่มการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารที่เหมาะสม

 

 

ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่   

Shares:
QR Code :
QR Code