5 ประโยนช์นมแม่ป้องกันเด็กอ้วน
ที่มา : หนังสือนมแม่แน่ที่สุด โดยมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และ สสส.
แฟ้มภาพ
เมื่อปี 2556 การศึกษาขององค์การอนามัยโลกได้ทบทวนงานวิจัย 71 เรื่อง แล้วสรุปได้ว่า การกินนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอ้วนในเด็กได้ถึงร้อยละ 24 หมายความว่า ถ้าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่และโตขึ้นเป็นโรคอ้วน 100 คน ถ้าเปลี่ยนเด็กกลุ่มนี้มากินนมแม่ เมื่อโตขึ้นจะเป็นโรคอ้วนเพียง 76 คน
พญ.รัชดา เกษมทรัพย์ กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี บอกไว้ว่า เด็กที่กินนมแม่จะช่วยป้องกันโรคอ้วนได้ ดังนี้
1.เด็กที่ดูดนมแม่จะดูดตามความต้องการของร่างกายเด็กเอง
ในแต่ละมื้อ เมื่ออิ่มลูกจะเลิกดูดเอง ต่างจากเด็กที่กินนมผสมซึ่งผู้ใหญ่มักบังคับให้กินนมให้หมดขวด ทำให้พลังงาน และสารอาหารเกินต้องการและเมื่อเริ่มอาหารตามวัย เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป เด็กที่กินนมแม่จะเริ่มมีการควบคุมตนเองในเรื่องการกินอาหารได้ดีกว่า โดยจะสามารถควบคุมปริมาณอาหารบริโภคเองโดยการลดปริมาณนมลง
2.เด็กที่กินนมแม่น้ำหนักจะขึ้นช้ากว่าเด็กที่กินนมผสม
น้ำหนักที่ขึ้นช้าในวัยทารกมีความสัมพันธ์กับการไม่เป็นโรคอ้วนเมื่อโตขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเนื่องจากมีสารในนมแม่ ที่ช่วยตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินได้ดีกว่านมผง ทำให้มีการสะสมไขมันน้อยกว่า
3. น้ำนมแม่มีพลังงานและโปรตีนต่ำกว่านมผสม
การกินนมของทารกในปริมาณที่เท่าๆกัน เด็กกินนมแม่ จะไม่มีการสะสมพลังงานที่เหลือเป็นไขมัน ต่างจากเด็กที่กินนมผสม ที่จะมีการสะสมของไขมัน จากปริมาณที่ได้รับเกินต้องการทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่ายกว่าเด็กที่กินนมแม่จะสะสมไขมันได้น้อยกว่า
4.เด็กที่กินนมแม่และนมผสมมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินแต่งต่างกัน
ทารกที่กินนมผสมจะมีระดับอินซูลินในเลือดหลังอาหารสูงกว่าเด็กที่กินนมแม่ เนื่องจากได้พลังงานมากกว่าทารกที่กินนมแม่เทียบเท่ากับการกินขนมหวานเพิ่มโดยไม่จำเป็น พลังงานส่วนเกินนี้ต้องใช้ฮอร์โมนอินซูลินไปเปลี่ยนให้เป็นเซลล์ไขมันเก็บสะสมไว้ มีผลต่อการพัฒนาเซลล์ไขมันในระยะทารก
5. พฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้
ที่กินนมแม่เมื่อโตขึ้น พบว่า สามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายกว่า โดยพาะพวกผักผลไม้ เพราะรสชาติของนมแม่มีการเปลี่นแปลงตามอาหารที่แม่กิน ทำให้เด็กปรับตัวกับอาหารสชาติต่างๆได้ดีกว่า
ประโยชน์จากการกินนมแม่นับว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่สามารถสร้างการเจริญเติบโตทางสมอง ป้องกันโรคต่างๆ ให้ลูกได้นานาชนิด รวมไปถึงโรคอ้วนด้วย และแน่นอนว่าการสร้างเด็กที่เติบโตมาอย่างมีคุณภาพต้องเริ่มต้นจาก “นมแม่” เท่านั้น