ที่มา : ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือคู่มือแนะแนวทางการดูแลผู้ที่น้ําหนักเกินและอ้วน goo.gl/fuh4Je 

ทุกคนรู้ดีว่า ถ้าอยากลดน้ำหนักต้องออกกำลังกาย แต่ใช่ว่าแค่ขยับตัว น้ำหนักจะลดลงง่ายๆ เสียเมื่อไหร่

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

4 ปัจจัยช่วยพิชิตพุง

1. การควบคุมอาหาร

รู้หรือไม่ว่า เราต้องออกกำลังกายให้ร่างกายเผาผลาญเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3500 กิโลแคลอรี่ต่อสัปดาห์ จึงจะช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 0.45 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ การจะลดน้ำหนักต้องออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งคนทั่วไปทำได้ยาก และความจริงแล้วต้นเหตุของความอ้วนหรือลงพุง นอกจากจะเป็นเพราะระบบเผาผลาญในร่างกายผิดปกติแล้ว ส่วนใหญ่เกิดจากการกินตามใจปาก

2. ระดับความหนักในการออกกำลังกาย

ถ้าจะลดหุ่นจะต้องออกกำลังกายในระดับความหนักปานกลางเป็นอย่างน้อยวันละ 30-60 นาทีต่อวัน ต่อเนื่องสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 วัน จึงจะได้ผล ซึ่งการออกกำลังกายที่มีอัตราการเต้นหัวใจ 65-75% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด / การเผาผลาญพลังงาน 7.5 แคลอรี่ต่อนาที

3.รูปแบบการออกกำลังกาย

ควรเลือกการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานที่เรียกว่า การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน(Aerobic Esercise) เป็นหลัก เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ผนวกกับการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการเผลาผลาญและรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้กลับมาเพิ่มอีก

4.ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต แทรกกิจกรรมทางกาย

การแทรกการออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินแทนการขึ้นลิฟต์ หรือทำงานบ้านด้วยตัวเอง