นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ ดูแลได้ไม่ยาก เช็กเลย…
ที่มา: กรมสุขภาพจิต

“นอนไม่หลับ” เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยธรรมชาติของวัยนี้ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินลดลง ทำให้หลับยากและคุณภาพการนอนลดลงกว่าวัยอื่น ส่งผลให้หลายคนรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือไม่สดชื่นหลังตื่นนอน
อาการของภาวะนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
-
หลับยาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับ
-
ตื่นบ่อย หรือสะดุ้งตื่นกลางดึก แล้วนอนต่อไม่ได้
-
ตื่นไวเกินไป และรู้สึกไม่สดชื่นหลังตื่น
อาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกอ่อนล้าในระหว่างวัน ส่งผลต่ออารมณ์ สมาธิ และคุณภาพชีวิตโดยรวม
วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการนอนไม่หลับ
กรมสุขภาพจิตแนะนำแนวทางดูแลตนเองเพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ดังนี้
-
อย่านอนกลางวันนานเกิน 1 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ร่างกายไม่รู้สึกง่วงในตอนกลางคืน
-
ทำกิจกรรมเบา ๆ ระหว่างวัน เช่น ทำสวน เดินเล่น หรือทำงานบ้าน เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและเย็น
-
จัดห้องนอนให้น่านอน ให้มีอากาศถ่ายเท แสงสลัว และเงียบสงบ เพื่อให้ร่างกายรับรู้ถึง “เวลาพักผ่อน”
-
พูดคุยกับครอบครัวหรือคนใกล้ชิด การได้ระบายความในใจหรือพูดคุยช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้
-
สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ สวดมนต์ หรือฟังเพลงเบา ๆ
-
หากมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ควรพบแพทย์ เพื่อประเมินสุขภาพกายและใจ เพราะบางครั้งอาจมีปัจจัยทางจิตใจหรือโรคประจำตัวร่วมด้วย
หมายเหตุ: ผู้สูงอายุบางคนอาจนอนเพียง 3–4 ชั่วโมงต่อคืนได้ โดยไม่รู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงในระหว่างวัน ซึ่งถือว่าเป็น “ภาวะปกติของวัย” แต่หากรู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่มีแรง หรืออารมณ์แปรปรวน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม


