3 อาการบอก “ติดพนันบอลโลก”
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
กรมสุขภาพจิต จัดบุคลากรรับมือ "พนันบอลโลก" เปิดสายด่วน 1323 และเฟซบุ๊ก บริการปรึกษา 24 ชั่วโมง ห่วงเด็กติดพนันตั้งแต่อายุยังน้อย มีโอกาสเสพติดพนันตลอดชีวิต เผย 3 อาการบ่งบอกเสพติดการพนัน แนะบอกลาการพนันด้วยตนเอง ยืดเวลา เบนความสนใจ เตือนตัวเองให้หยุดเล่น
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวภายหลังเปิดการอบรมบุคลากรจากโรงพยาบาลจิตเวชและศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศ เพิ่มพูนความรู้และทักษะการปรึกษาสุขภาพจิตและการบำบัดเสริมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่มีปัญหาการพนันเลิกเล่นการพนัน ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการพนันออนไลน์ประเภททายผลฟุตบอลกันมากกว่าปกติ เป็นภัยอันตรายที่มาแรงในโลกยุคดิจิทัล เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเล่นพนันโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ผลสำรวจในปี 2558 พบว่าเด็กและเยาวชน ใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางเข้าถึงข้อมูลการพนันถึงร้อยละ 53 และเด็กวัยนี้มีความเสี่ยงสูงจะติดการพนันได้ง่ายและเลิกยาก เนื่องจากสมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ในการคิด ใช้เหตุผลตัดสินใจ ยังเจริญไม่เต็มที่เท่าผู้ใหญ่ จึงขาดความยับยั้งชั่งใจ
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า การป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันฟุตบอลออนไลน์ในช่วงฟุตบอลโลก กรมสุขภาพจิตได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาคม และเครือข่ายเด็กและเยาวชน จำนวน 11 แห่ง โดยรับผิดชอบมิติการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเยาวชนและประชาชนทั่วไปที่มีปัญหา เปิดบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และระบบออนไลน์ทางเฟซบุ๊กเพจ สายด่วนสุขภาพจิต1323 เลิกพนัน (@GamblingCounseling1323) ฟรี ในช่วงเวลา 14.30- 22.30 น. พร้อมทั้งเปิดให้บริการปรึกษาแก่ผู้ที่มีปัญหาติดการพนันในโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต 19 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมของบุคลากร ทั้งจิตแพทย์ทั่วไป จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น นักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวชไว้แล้ว จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป
“เด็กและเยาวชนที่ติดการพนันตั้งแต่อายุยังน้อย จะส่งผลให้สมองมีพัฒนาที่ไม่เหมาะสม มีโอกาสติดพนันตลอดชีวิต จึงต้องรีบไปพบแพทย์รักษาให้เร็วที่สุด โดยผู้อยากเลิกพนันสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากไม่ได้รักษา จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเกิดปัญหาสังคมหลายอย่าง เช่น ปล้นชิงทรัพย์ ล่อลวงเงิน ร้อยละ 61 ขายบริการทางเพศร้อยละ 7 ค้ายาเสพติดร้อยละ 5 มีโอกาสติดเหล้า 5 เท่าตัว เกิดภาวะซึมเศร้า 4 เท่า และพยายามฆ่าตัวตายร้อยละ 6 ทั้งนี้ ผลการให้บริการสายด่วนการพนันในช่วงปี 2560 พบว่า สัดส่วนของผู้เล่นพนันออนไลน์ที่ขอรับการปรึกษาเพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2558 ถึง 3 เท่า คือจาก 53 คน เป็น 150 คน โดยร้อยละ 84 เป็นชาย อายุ 22-59 ปี ในจำนวนนี้ เป็นเยาวชนอายุ 15-21 ปี ร้อยละ 11 จึงขอให้เยาวชนและประชาชนทุกคนที่เป็นคอบอล เชียร์บอลโลกเพื่อความสนุก เพลิดเพลิน จะมีผลให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขมากขึ้น ช่วยคลายเครียดในช่วงนี้ได้ด้วย” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว
พญ.รัชนี ฉลองเกื้อกูล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า ผู้ที่เสพติดการพนันจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป 3 ลักษณะ ได้แก่ 1.เมื่อพยายามหยุดเล่นพนันจะมีอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิด หรือวิตกกังวล 2. ปิดบังครอบครัวหรือเพื่อนไม่ให้รู้ว่าเสียพนัน 3. ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน หากพบบุตรหลานบุคคลในครอบครัวหรือตนเองมีพฤติกรรม 1 ใน 3 ข้อที่กล่าวมา แสดงว่าเสี่ยงต่อการติดพนัน ขอให้รีบโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างจริงจังก่อนที่อาการจะรุนแรงเกิดโรคทางจิตเวช ที่เรียกว่า โรคพนัน ( Pathological Gambling ) มีอาการคือหยุดเล่นพนันไม่ได้ แม้จะมีความทุกข์ขนาดไหนก็ตาม เพราะสมอง เสพติดอย่างรุนแรง ทั้งนี้สาเหตุที่คนติดการพนัน มักจะเริ่มมาจากความคิดหลอกตัวเองว่า เล่นครั้งเดียวไม่เป็นไร ไม่เสียหรอก เมื่อเล่นได้แล้ว จะฮึกเหิมอยากได้เพิ่มอีก หากเสียก็จะแก้มือเอาคืน
แพทย์หญิงรัชนี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่อยากเลิกเล่นพนันให้สำเร็จด้วยตนเอง ขอให้ยึดหลัก 3 ประการหรือหลัก 3D ได้แก่ 1. การยืดระยะเวลาอยากเล่นออกไป (Delay) เพื่อเปลี่ยนความอยากให้เป็นความไม่อยากเล่น เมื่อมีความอยากเล่น ให้ใช้เวลาอยู่กับตนเองสักครู่ และบอกกับตัวเองว่า ฉันจะไม่ทำตามความต้องการที่อยากเล่นพนันของฉันทันที 2. เบี่ยงเบนความสนใจ (Distract) ไปทำกิจกรรมอื่นๆที่ชอบทดแทนในทางบวก เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก หารายได้เสริม ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว และบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวความรู้สึกนี้จะหายไป และ 3. ตัดสินใจเลิกเล่น การพนัน (Decide) โดยเตือนสติตัวเองทุกครั้ง เพื่อหยุดความอยากเล่น เช่น ให้คิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่จะตามมาหากยังไปเล่น เช่น ยิ่งคิดเอาคืนจะยิ่งเสียมากขึ้น โดยให้คิดถึงเป้าหมายในชีวิตที่มีความสุขเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี ครอบครัวนับว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาติดการพนัน แนะนำควรปฏิบัติดังนี้ คือ ให้ความเข้าใจ ให้อภัย หลีกเลี่ยงการบ่น และไม่จับผิด เพื่อให้ผู้มีปัญหารู้สึกปลอดภัย ให้รับฟังความรู้สึกเรื่องราวต่างๆโดยไม่มีอคติ เพื่อผลักดันให้ผู้ที่มีปัญหาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีและคอยให้กำลังใจ พร้อมทั้งช่วยจัดการกับภาวะวิกฤติและส่งเข้าบำบัดรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ซึ่งขณะนี้มีระบบการดูแลเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลเชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกแห่งแล้ว