20 ปี สสส. ส่งจังหวะไทย จังหวะหัวใจ ปลุกคนไทยสุขภาพดี

ที่มาและภาพประกอบ : กระจายข่าว พีอาร์


20 ปี สสส. ส่งจังหวะไทย จังหวะหัวใจ ปลุกคนไทยสุขภาพดี thaihealth


สสส. ตอกย้ำนโยบายส่งเสริมสุขภาพ 20 ปี ผนึกภาคีต่อยอดงานวิจัยเพลงพื้นบ้านผนวกรำไทย ส่งวิดีทัศน์ "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ" สอนพื้นฐานการเต้น ชวนคนไทยขยับเสริมสุขภาพดี ห่างไกลโรค ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ วิถีชีวิตสุขภาวะ อยู่ที่ไหนก็ขยับได้ พร้อมแจกฟรีวิดีทัศน์สอนเต้นเพียงกรอกแบบฟอร์มผ่าน https://forms.gle/M4f6SMNDt64oNhB28


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ในปี 2564 ครบรอบ 20 ปีของสสส.ในการดำเนินงานด้านการรณรงค์สร้างเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลโรคผ่านกิจกรรมต่างๆ การสร้างนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านนโยบาย สิ่งแวดล้อม สร้างความเข้มแข็งของชุมชน จนสามารถผลักดันปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมคนไทยให้หันมาสนใจการมีกิจกรรมทางกายเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลให้เกิดนโยบายการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (พ.ศ. 2561 – 2573) ขึ้นในระดับชาติ และล่าสุดสสส.ได้รับรางวัล Nelson Mandela Award for Health Promotion ในการเป็นองค์กรส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งมอบเป็นครั้งที่ 2 ของโลกจากองค์การอนามัยโลก


ทั้งนี้ในปี 2564 สสส. แนะนำประชาชนเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายด้วยวิดีทัศน์ชุดความรู้จังหวะไทย จังหวะหัวใจ ซึ่งเป็นวิดีทัศน์สอนการมีกิจกรรมทางกายด้วยเพลงไทยประกอบท่าเต้น ซึ่งสนุกสนานและได้สุขภาพดี


20 ปี สสส. ส่งจังหวะไทย จังหวะหัวใจ ปลุกคนไทยสุขภาพดี thaihealth


"สสส.เห็นถึงคุณค่าความเป็นไทย "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ" มีทั้งทำนองเนื้อร้อง และท่าเต้นที่ง่าย ที่ทำให้คนรู้สึกสนุกที่จะออกมาเต้นเพื่อสุขภาพดี โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่หลายคนยัง Work From Home" ดร.สุปรีดา กล่าว


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รักษาการผู้อำนวยการ สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า วิดีทัศน์สอนเต้นจังหวะไทย จังหวะหัวใจ ถูกออกแบบมาจากวิถีชีวิตคนไทยทุกกลุ่ม ภายใต้งานวิจัยด้านสุขภาพของภาคีเครือข่ายสสส. เพื่อชวนคนทุกเพศทุกวัยให้ออกมาเต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพ เป็นการเพิ่มทางเลือกของการมีกิจกรรมทางกาย เพราะเป็นการผสานแนวคิดทั้งวิทยาศาสตร์การกีฬาและศิลปะ ด้วยการออกแบบเพลงให้มีจังหวะความเร็วที่เหมาะสม ใช้เสียงกระตุ้นให้ผู้ฟังรู้สึกอยากขยับร่างกายไปตามจังหวะเพลงอย่างต่อเนื่อง


โดยเมื่อเต้นตามวิดีทัศน์จนจบเท่ากับการมีกิจกรรมทางกายในระดับปานกลางตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) บทเพลง "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ" ได้รับการประพันธ์ขึ้นมาใหม่โดยผสมผสานทำนองเพลงไทยโบราณ เต้ยโขง ที่หลายคนคุ้นเคย กับทำนองเพลงสมัยใหม่ รวมทั้งแต่งเนื้อร้อง การออกแบบท่าเต้น และถ่ายทอดเป็นวิดีทัศน์โดยผู้กำกับภาพยนตร์และโฆษณาชื่อดัง ทำให้คนไม่เคยเต้นสามารถเต้นตามได้


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า พฤติกรรมการขาดการออกกำลังกาย และการเนือยนิ่งโดยเฉพาะช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะเป็นสาเหตุหลักของอัตราการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ทั้งโรคหลอดเลือดหัวใจ การเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูง มะเร็งเฉพาะจุด เบาหวานประเภท 2 สุขภาพจิต (อาการวิตกกังวลและหดหู่ที่ลดลง) สุขภาพและการนอนหลับ


ดังนั้นการเต้นตามวิดีทัศน์จังหวะไทย จังหวะหัวใจ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง ซึ่งควรทำเป็นประจำอย่างน้อย 150 – 300 นาทีต่อสัปดาห์ตามข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลกเพื่อให้ผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ รวมทั้งยังมีความสนุกกับจังหวะเพลง โดยผู้ที่ต้องการวิดีทัศน์ หรือเพลงไปเต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงกรอกแบบฟอร์มขอรับได้ที่ https://forms.gle/M4f6SMNDt64oNhB28 หรือรับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=CwgnFsErhY8&t=21s


ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต ในสาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า งานวิจัยการศึกษากิจกรรมทางกายในบริบทไทย รำไทยและโขน ของภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งพัฒนาร่วมกับ สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. พบว่า มีส่วนช่วยในการพัฒนาด้านสมอง โดยส่งผลให้เกิดการทำงานสอดประสานกันในหลายส่วน ทั้งการมองเห็น การลำดับท่าทางการเคลื่อนไหว รวมไปถึงการฟังจับจังหวะให้สอดคล้องกับการออกท่าทางรำซึ่งเป็นการฝึกฝนให้สมองหลายๆ ส่วนทำงานพร้อมกัน


การพัฒนาด้านความจำ เกิดการจดจำลำดับท่าทางการรำ เพื่อนำมาใช้ประกอบการเคลื่อนไหวจะช่วยฝึกฝนการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดการดึงข้อมูลและลำดับการเอามาใช้อย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับจังหวะและเพลงที่ได้ยิน และการพัฒนาการด้านอารมณ์ ขณะมีการเคลื่อนไหวสมองจะถูกกระตุ้นให้เกิดการทำงานมากขึ้น และไปลดผลของสมองส่วนที่เรียกว่า อะมิเดล่า (Amygdala) ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมด้านอารมณ์เป็นหลัก ส่งผลผู้รำสามารถลดอารมณ์ด้านลบได้ ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น


นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรค NCDs และป้องกันโรค Office Syndrome เพราะการเคลื่อนไหวในแต่ละท่วงท่าของ รำไทย โขน และ มวยไทย ช่วยให้เกิดการขยับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและเสริมสร้างความแข็งแรง ดังนั้นการนำผลวิจัยดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็นเพลงไทยและท่าเต้นไทย "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ" พบว่าเสียงเพลงไทยช่วยสร้างความสนุกสนานในการทำกิจกรรม อีกทั้งเป็นการช่วยกำกับการเคลื่อนไหวท่วงท่าในการรำและเต้น ทำให้เกิดการฝึกความจำในการจำท่ารำประกอบไปกับเสียงเพลง รวมถึงทำให้เกิดการผ่อนคลายจากความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ดังนั้นอยากสุขภาพดีพิมพ์ค้นหา "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ"


สำหรับผู้ที่ต้องการวิดีทัศน์ หรือ เพลง "จังหวะไทย จังหวะหัวใจ" โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อขอรับได้ที่ https://forms.gle/M4f6SMNDt64oNhB28 หรือรับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=CwgnFsErhY8&t=21s

Shares:
QR Code :
QR Code