2 แนวทางใหม่รักษาโรคหืด
ที่มา : คมชัดลึก
แฟ้มภาพ
ไกด์ไลน์แพทย์ บรรจุ 2 แนวทางใหม่รักษา โรคหืด "ส่องกล้อง" ช่วยลดอาการรุนแรง ลดการ ใช้ยา "วัคซีนไรฝุ่น" ชนิดอมใต้ลิ้น ช่วยร่างกายมีภูมิต้านทาน ลดการเกิดสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย ต้องใช้วันละ 1 เม็ดเป็นเวลา 3 ปี เป็นทางเลือก การรักษา ช่วยหยุดยาราคาแพงได้
นพ.ธิติวัฒน์ ศรีประสาธน์ อายุรแพทย์ โรคปอด รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงการส่องกล้อง รักษาโรคหืด ซึ่งเป็น 1 ใน 2 นวัตกรรมการรักษาใหม่ตามแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคหืด พ.ศ.2562 ว่า รพ.จุฬาฯ ให้การรักษาผู้ป่วยแล้ว 15 ราย ผู้ป่วยที่จะใช้วิธีการรักษานี้ จะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก เช่นทุก 1-2 เดือน ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน 5-6 ครั้ง เคยใส่เครื่องช่วยหายใจ ได้รับยาสเตียรอยด์จำนวนมาก ไม่สามารถลดยาได้ หากลดยาจะ เกิดอาการหอบ เป็นต้น การส่องกล้องจะใช้ความร้อนทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวไป ต้องทำทั้งหมด 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 สัปดาห์ คือครั้งแรกทำที่ปอดขวาด้านล่างก่อน แล้วมาทำปอดซ้ายด้านล่าง ทำที่ปอดด้านบนทั้ง 2 ข้าง
"ผลการรักษาถือว่าตอบสนองดีมาก ช่วยให้อาการรุนแรงลดลง ลดการใช้ยาต่างๆ โดยเฉพาะยาฉีดที่ราคาหมื่นกว่าบาทต่อเข็ม คุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปห้องฉุกเฉินบ่อยครั้ง แต่ยังคงต้องใช้ยาพ่นรักษาอาการอยู่และต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นในกลุ่มคนที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อาการก็ดีขึ้นจนสามารถลดยาได้ อนาคตจะขยายการรักษาไปยังที่อื่นๆ" นพ.ธิติวัฒน์กล่าว
ศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า หนึ่งในการรักษาโรคหืดแบบไม่ใช้ยา คือ การรักษาด้วยวัคซีน ซึ่งมีวัคซีนไรฝุ่นชนิดฉีดมา 10 กว่าปีแล้ว จะต้องฉีดทุกสัปดาห์เป็นเวลาประมาณ 6 เดือน และฉีดเดือนละครั้งเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่ค่อยใช้ในคนไข้หอบหืด เพราะอาจแพ้วัคซีนได้ ขณะนี้มีวัคซีนไรฝุ่นชนิดอมใต้ลิ้นเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 4 เดือน ราคาวัคซีนในโรงพยาบาลรัฐ เม็ดละ 150 บาท จะต้อง อมใต้ลิ้นทุกวันวันละ 1 เม็ด 3 ปี ทำให้หายได้ โดยเมื่อหยุดวัคซีนแล้ว จะมีผลในการป้องกันไปอีกเป็น 10 ปี
"จากที่แพ้ไรฝุ่นทำให้คนไข้ผลิตสาร ก่อภูมิแพ้ออกมาจำนวนมาก พอร่างกายเจอ สารก่อภูมิแพ้อาการโรคหอบหืดก็กำเริบ วัคซีนจะไปเปลี่ยนสวิตช์ของร่างกายให้มีภูมิต้านทานต่อไรฝุ่นขึ้นมา เป็นการลดสิ่งที่แพ้ เป็นการเปลี่ยนโดยสายเลือด เมื่อแพ้ไรฝุ่นก็ต้องให้ ไรฝุ่นไป ให้ทีละนิดหน่อย ค่อยๆ สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา" ศ.พญ.อรพรรณ กล่าว
ศ.พญ.อรพรรณ กล่าวอีกว่า การจะใช้วัคซีนไรฝุ่น จึงต้องมีการทดสอบการแพ้ก่อนว่า แพ้ไรฝุ่นจริงหรือไม่ ขณะนี้มีการใช้วัคซีนรักษาแล้วในผู้ป่วย 7 ราย แต่ยังเป็นระยะเริ่มต้นที่เพิ่ง นำเข้ามาใช้จึงยังต้องรอผลการรักษา แต่สำหรับผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยที่ใช้วัคซีนนี้รักษา พบว่าเดิมป่วยโรคหอบหืดมา 15 ปี มีอาการหอบมากต้องนอนโรงพยาบาลทุกสัปดาห์ ใช้ยา เป็นสิบตัว ต้องฉีดยาเข็มละ 4 หมื่นบาท ทุกเดือน เสียค่าใช้จ่ายมาก และหยุดยาไม่ได้ ถ้าหยุดยาก็จะหอบ หลังใช้วัคซีนอมใต้ลิ้นทุกวัน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ก็สามารถลดยา และ หยุดยาฉีดแพงๆ ได้เหลือใช้ยาแค่ตัวเดียว