11จว.เสี่ยงหวัดนกกลายพันธุ์หวัดใหญ่
ชี้หวัดพันธุ์ใหม่ระบาดรอบ2พ.ย.นี้
“วิทยา” ชี้ปลายเดือน พ.ย.วิกฤติ หวัดใหญ่ 2009 ระบาดระลอก 2 ปลัดสธ.เผย 11 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง – กลางบนเสี่ยงหวัดนกกลายเป็นหวัดใหญ่ระบาดช่วงปีนี้ ย้ำเกษตรกรเป็นหวัดห้ามเข้าใกล้หมู – ไก่ ป้องกันไวรัสผสมข้ามสายพันธุ์
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่ จ.สุโขทัย เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า กลุ่มเสี่ยงคือหญิงตั้งครรภ์เด็กน้อยอายุ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว หากพบว่าป่วยเป็นไข้ให้เข้าพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอดูอาการ
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวว่า จะกำชับไปยังทุกโรงพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศว่าจากนี้หญิงตั้งครรภ์ต้องลดภาวะเสี่ยงโดยไปโรงพยาบาลให้น้อยลง การฝากครรภ์ก็ควรที่จะลดจำนวนครั้งที่มาโรงพยาบาล เช่น จากที่มาทุกเดือน ก็ควรมา 3 เดือนครั้ง และหากมีอาการผิดปกติก็ติดต่อมายังแพทย์ได้ทันที
วันเดียวกันที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา กล่าวเปิดประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลทุกระดับ และผู้รับผิดชอบงานป้องกันควบคุมโรคในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงไข้หวัดนก/ไข้หวัดใหญ่ 11 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา ว่า นักระบาดวิทยาคาดการณ์ว่าช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะระบาดในระลอกที่ 2 สัปดาห์หน้าจะขอนัดเวลาหารือร่วมกับ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อทำข้อตกลงในการเชิญนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าอบรมกับสำนักระบาดวิทยา ก่อนจะออกรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาสธ.พบเริ่มมีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น และยังต้องเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก เพราะข้อมูลกรมปศุสัตว์ ยังมีรายงานสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ 11 จุดใน 5 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง เชียงราย ศรีสะเกษ พิษณุโลก และตาก ทั้งนี้ได้ให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 และเคยพบสัตว์ปีกป่วยตายจากไข้หวัดนกดำเนินการอย่างเข้มข้นในการดูแลรักษาผู้ป่วย เฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคในสถานที่ต่างๆ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม เกสต์เฮ้าส์และสถานบันเทิงป้องกันโรคอย่างเคร่างครัดตลอดปลายปีนี้
นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า โรคไข้หวัดนกมีแนวโน้มจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นใน 11 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนและโรคไข้หวัดนกเสี่ยงที่จะกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดได้ในปีนี้ โรงพยาบาลทุกแห่งต้องจัดห้องแยกดูแลผู้ป่วยไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งยาจำเป็นสำหรับใช้กับผู้ป่วยหนัก และขอให้เกษตรกรที่เป็นไข้หวัด หยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหาย ไม่ควรเข้าไปทำงานใกล้ชิดกับสัตว์ในฟาร์มสุกรและสัตว์ปีก เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสผสมข้ามสายพันธุ์
นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดจัดระบบเฝ้าระวังและตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการไข้หวัด เพิ่มการซักประวัติสัมผัสสัตว์ปีกป่วยตามผิดปกติ และให้อสม.ทั่วประเทสให้ความรู้เกี่ยวกับ 3 โรคนี้แก่ประชาชน สำรวจผู้ป่วย และรายงานสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติในหมู่บ้านทุกวัน ตลอดฤดูหนาวหากพบให้แนะนำไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Update: 29-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร
