10 เส้นทางบุญ นำความสุข
วันมาฆบูชา 22 ก.พ.นี้ เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนไปทำบุญตักบาตรที่วัด แต่ความจริงแล้วการทำบุญตามหลักพระพุทธศาสนาไม่ได้จำกัดไว้เพียงเท่านี้นะคะ
"บุญทำได้ทุกวัน…แม้ไม่ใช้สตางค์"
นายจักรกริช พวงแก้ว ผู้ประสานงานโครงการฉลาดทำบุญด้วยจิตอาสา เครือข่ายพุทธิกาเพื่อพระพุทธศาสนาและการทำบุญ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนการสร้างสริมสุขภาพ (สสส.) เล่าว่า การทำบุญ 10 วิธี หรือ “บุญกิริยาวัตถุ 10” เป็นวิธีทำบุญในทางพระพุทธศาสนา ซึ่งพุทธศาสนิกชนทุกคนสามารถประพฤติและปฏิบัติได้ง่ายๆ และทำได้ทุกวัน โดยไม่ใช้สตางค์ แต่เรากลับลืมนึกถึง โดยทางแห่งการทำบุญ 10 วิธี ประกอบไปด้วย
1.ให้ทาน เป็นการให้ การสละ หรือ การเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นการให้วัตถุสิ่งของ เรียกว่า วัตถุทาน หรือ อามิสทาน ข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด และไม่ว่าจะให้แก่ใครก็ถือเป็นบุญทั้งสิ้น การให้ความรู้ เรียกว่า วิทยาทาน หรือ ธรรมทาน ถือว่าเป็นการช่วยเหลือให้เขามีปัญญา สามารถแก้ไขปัญหา ดำเนินชีวิตต่อไปได้ ถ้าหากมีผู้เผลอทำผิดบกพร่องไปบ้างแล้วเรายกโทษให้ เรียกว่า อภัยทาน เปิดโอกาสให้ผู้ทำผิดได้ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องที่เผลอทำผิดหรือพลาดไป ได้เริ่มต้นใหม่การให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ การให้ทานนี้อยู่ที่ไหนๆ ก็ทำได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นเงิน เช่น การให้หนังสือกับเด็กที่ด้อยโอกาส บริจาคเสื้อผ้าให้กับคนไร้บ้าน
2.รักษาศีล การรักษา กาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ เช่น การรักษาศีล 5 การรักษาศีล 8 หรืออาจจะหมายถึงการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย การรักษาศีลเป็นการฝึกฝนไม่ให้ไปเบียดเบียนผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็เป็นการลด ละ เลิกความชั่ว มุ่งให้ทำความดี เช่น มีความเมตตากรุณาต่อมนุษย์และสัตว์ การประกอบอาชีพสุจริต เหล่านี้ล้วนเป็นการรักษาศีล และปฏิบัติธรรม เป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งผลบุญข้อนี้จะทำให้เรากลายเป็นคน สุขุมรอบคอบในการทำงาน
3.เจริญภาวนา เป็นการทำบุญอีกรูปแบบ ที่มุ่งพัฒนาจิตใจและปัญญา ทำให้จิตใจสงบ เห็นคุณค่าสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ซึ่งในข้อนี้หลายคนอาจจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น นั่งสมาธิ วิปัสสนา แต่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากเกินกำลัง ดังนั้น อาจจะทำง่ายๆ ด้วยวิธีการสวดมนต์สั้นๆ อาทิ กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย ก่อนนอนก็ได้ หรือ นั่งสมาธิกล่าวคำแผ่เมตตา สวดคาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร คาถาชินบัญชร เป็นต้น การสวดมนต์เป็นประจำ อย่างน้อยก็เป็นการน้อมนำจิตใจของเรา ไปสู่สิ่งที่เป็นมงคลในชีวิต เป็นการเตือนสติให้เรายึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติชอบ ตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ และผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดปัญญาแก่ผู้ปฏิบัติ
4.อ่อนน้อมถ่อมตน คนบางคนอาจคิดไม่ถึงว่า การประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ สำรวม กาย วาจา ใจ จะถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ ก็เพราะว่าการอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยประพฤติต่อผู้ใหญ่ และการที่ผู้ใหญ่แสดงตอบด้วยความเมตตา หรือการอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพต่อความคิด ความเชื่อที่แตกต่างจากเรานั้น เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของเรา ช่วยทำให้เกิดความเข้าใจต่อกัน จึงถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง
5.ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมรอบข้าง ในการทำกิจกรรมความดีต่างๆ เช่น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ ในการทำความสะอาดถนนสาธารณะ หรือวัดวาอาราม ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านไม่นิ่งดูดาย ช่วยสอดส่องดูแลบ้านให้เพื่อนบ้าน ยามที่เขาไม่อยู่ ช่วยงานเพื่อนที่ทำงานให้แล้วเสร็จทันเวลา ให้กำลังใจแก่เพื่อนที่มีความทุกข์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นบุญอีกแบบหนึ่ง จะช่วยให้เกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะ
7. เปิดโอกาสให้คนอื่นร่วมทำบุญ กล่าวง่ายๆคือ ไม่ว่าจะทำบุญอะไร ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มาร่วมทำบุญด้วย เช่น จะทำบุญสร้างตู้เก็บพระไตรปิฎก ก็ให้คนอื่นได้ร่วมสร้างด้วย ไม่คิดจะทำเพียงคนเดียว เป็นต้น นอกจากนี้ การเปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมทำงาน ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็ถือเป็นการทำบุญในข้อนี้ด้วย ผลบุญดังกล่าว จะช่วยให้เราเป็นคนใจกว้าง และปราศจากอคติต่างๆ เพราะพร้อมเปิดใจรับผู้อื่น
8.ฟังธรรม การฟังธรรมจะทำให้เราได้ฟังเรื่องที่ดี มีประโยชน์ทั้งต่อสติปัญญา และการดำเนินชีวิต ซึ่งการฟังธรรมนี้ ไม่จำเป็นต้องไปฟังที่วัด หรือจากพระท่านโดยตรง แต่อาจจะฟังจากเทป ซีดี หรือเป็นการฟังจากผู้รู้ต่างๆ และธรรมในที่นี้ ก็มิได้หมายถึงแต่เฉพาะหลักธรรม ในทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงเรื่องจริง เรื่องดีๆ หรือสิ่งที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนจนทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้และปัญญา สามารถนำความรู้หรือหลักธรรมไปใช้ในการดำเนินชีวิต อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขผลบุญข้อนี้จะทำให้ผู้ฟังเกิดการรู้แจ้งเห็นจริงในสัจจธรรมยิ่งขึ้น
9.สนทนาธรรม การอบรมสั่งสอนให้ความรู้ การแสดงธรรม คือการให้ธรรมะหรือข้อคิดที่ดีๆ แก่ผู้อื่น ด้วยการนำธรรมะหรือเรื่องดีๆ ที่เป็นประโยชน์ไปบอกต่อ หรือให้คำแนะนำให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เช่น สอนวิธีการทำงานให้ แนะหลักธรรมที่ดี ที่เราได้ยินได้ฟังมา และปฏิบัติได้ผลแก่เพื่อนๆ เป็นต้น ผลบุญในข้อนี้ นอกจากจะทำให้ผู้อื่นได้รับรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังทำให้ผู้บอกกล่าวได้รับการยกย่องสรรเสริญอีกด้วย
10.ทำความเห็นให้ถูกต้องเหมาะสม การไม่ถือทิฐิ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ แต่ให้รู้จักแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาความคิด และความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องตามธรรมอยู่เสมอ หรือจะพูดง่ายๆ ว่า ให้คิดและประพฤติตนให้ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรมก็ได้ ซึ่งข้อนี้แม้จะเป็นข้อสุดท้ายแต่ก็สำคัญยิ่ง เพราะไม่ว่าจะทำบุญใดทั้ง 9 ข้อที่กล่าวมา หากมิได้ตั้งอยู่ในทำนองคลองธรรม การทำบุญนั้นก็ไม่บริสุทธิ์ และให้ผลได้ไม่เต็มที่
รู้อย่างนี้แล้ว…มาเริ่มต้น “10 เส้นทางทำบุญ เพื่อนำความสุข” กันได้ง่ายๆ ในวันมาฆบูชานี้นะคะ
เรื่องโดย : เสาวลักษณ์ พิสิษฐ์ไพบูลย์ Team Content www.thaihealth.or.th