“ไทยพร้อม” หนุนผักและผลไม้ปลอดภัย เป็นวาระแห่งชาติ
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก : สสส.
สสส. ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และภาคีองค์กรเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ประกาศ “ไทยพร้อม” ขับเคลื่อนผัก และผลไม้เป็นวาระชาติ ยกระดับสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2573 ตั้งเป้าให้คนไทยกินผักผลไม้เพียงพอ-ปลอดภัย หนุนพลิกโฉมระบบอาหารประเทศไทย สานพลังบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมจัดเวทีหารือสาธารณะ (National Dialogue) ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ การออกแบบ “ไทยพร้อม” สู่การขับเคลื่อนผักและผลไม้เป็นวาระแห่งชาติ (Reshaping Thailand’s readiness to Encourage Vegetable and Fruit Intake as National Agenda) ผ่านทางออนไลน์ระบบ ZOOM โดยมีนายวอร์เรน ที เค ลี เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านโภชนาการและระบบอาหาร สำนักงาน FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
พญ.เรณู การ์ก เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ (โรคไม่ติดต่อ) สำนักงานผู้แทนองค์อนามัยโลกประจำประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ปลูกผัก เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) สถาบันวิจัยและการศึกษา ตลาดค้าปลีก-ส่ง หน่วยงานด้านโลจิสติกส์ และธุรกิจอาหาร กว่า 300 คน เข้าร่วม เพื่อเตรียมความพร้อมของไทยสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก (UN Food Systems Summit 2021: UNFSS2021)
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สสส. และองค์กรภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ได้แก่ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ศูนย์พืชผักโลก ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคีเครือข่ายภาควิชาการ และภาคประชาสังคม สนับสนุนให้รัฐบาลกำหนดให้การกินผักผลไม้ที่ปลอดภัยและเพียงพอของคนไทย
เป็นเป้าหมายและตัวชี้วัดระดับชาติ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 เพื่อกระตุ้นให้คนไทยกินผักผลไม้เพิ่มมากขึ้นและได้ปริมาณที่เพียงพอตามเกณฑ์แนะนำขององค์การอนามัยโลก โดยคนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไป ควรกินผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน พร้อมทั้งกำหนดให้หน่วยงานเฉพาะที่ดูแลด้านอาหารปลอดภัยและโภชนาการ และเด็กวัยเรียน เร่งดำเนินงานส่งเสริมการเข้าถึงและกินผักผลไม้ที่ปลอดภัยและเพียงพอ
“สสส. และภาคีเครือข่าย จึงได้ร่วมกันจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายส่งเสริมผักผลไม้ปลอดภัย โดยใช้กลไกมาตรการทางกฎหมายและนวัตกรรมเชิงนโยบาย (policy innovation) อาทิ การใช้นโยบายทางภาษี เพื่อจูงใจการขายอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กำหนดจำนวนสินค้าอาหารที่ดีต่อสุขภาพ (รวมผักและผลไม้) ขั้นต่ำที่ร้านอาหารต้องขาย การให้ร้านอาหารติดข้อมูลแสดงค่าพลังงานอาหารบนเมนู เป็นต้น
โดยกรณีตัวอย่างนโยบายในประเทศอังกฤษพบว่า หากภาครัฐใช้นโยบายอุดหนุนทางราคาผักผลไม้ร้อยละ 10 จะช่วยให้ประชาชนโดยรวมกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น 0.25 ส่วน ขณะที่หากใช้นโยบายอุดหนุนทางราคาผักผลไม้ร้อยละ 30 กับกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มนี้กินผักผลไม้เพิ่มขึ้น 0.53 ส่วน และนโยบายทั้งสองนี้ถูกประเมินว่า มีความคุ้มค่าในการลงทุนทั้งจากมุมด้านนโยบายและสังคม” ดร.นพ. ไพโรจน์ กล่าว
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ประสานงานของประเทศไทยสำหรับ UNFSS (Thai National Convener) กล่าวว่า จะนำข้อเสนอและข้อถกแถลงจากเวทีหารือสาธารณะในครั้งนี้ โดยเฉพาะปัจจัยด้านนโยบายและมาตรการสนับสนุนจากรัฐที่ควรประกาศให้การผลิต และบริโภคผักผลไม้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติ เชื่อมโยงสู่รูปธรรมปฏิบัติการระบบอาหารที่มีการดำเนินการในสังคมไทย พัฒนาเชิงโครงสร้าง และกลไกสนับสนุนภาคเกษตร และระบบอาหารของไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ SDGs ภายในปี 2573
โดยจะเชื่อมร้อยกับข้อเสนอจากผู้ที่มีบทบาท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการผลิตอาหารและการเกษตรของประเทศไทย นำไปเสนอในเวทีประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหาร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แสดงความประสงค์ต่อสหประชาชาติ ที่จะเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและอาหารจากทั่วโลก (pre-summit) 26 – 28 กรกฎาคม 2564 ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี และการประชุมระดับผู้นำประเทศและนายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือนกันยายน 2564 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำประเทศ และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและอาหารจากทั่วโลก เร่งหารือและจัดทำนโยบายแผนงานการปฏิรูประบบอาหาร และการเกษตรอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมติดตามรายละเอียดและสนับสนุน การขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืนของประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https://thfoodsystems.com/ และสามารถดาวน์โหลดเอกสารข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย "ขับเคลื่อนโยบายและมาตรการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร โภชนาการ และระบบอาหารของประเทศ" ได้ที่เว็บไซต์ สสส. http://ssss.network/ka8t3